Blog

  • หมอคอนเฟิร์ม “ช่วยตัวเอง” ก่อนนอน มีประโยชน์กว่าที่คิด ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย

    ข้อดีของการช่วยตัวเอง (Masturbation) ก่อนนอน ช่วยให้หลับสบายจริงไหม?

    การช่วยตัวเอง (masturbation) เป็นพฤติกรรมทางเพศที่ธรรมชาติและเกิดขึ้นในทั้งผู้ชายและผู้หญิง นอกจากจะช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายแล้ว ยังมีคำถามมากมายเกี่ยวกับประโยชน์ของการช่วยตัวเองต่อคุณภาพการนอน บทความนี้จะเจาะลึกถึงประโยชน์ของการช่วยตัวเองก่อนนอน พร้อมอ้างอิงงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์และคำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ รวมถึงข้อควรระวังในการช่วยตัวเองด้วย

    ประโยชน์ของการช่วยตัวเองก่อนนอน

    1. ช่วยผ่อนคลายและลดความเครียด

    การช่วยตัวเองสามารถช่วยกระตุ้นการหลั่งสารเคมีในสมองที่ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย เช่น เอ็นดอร์ฟิน (endorphins) ซึ่งเป็นสารเคมีที่ช่วยลดความเครียดและทำให้รู้สึกดี การช่วยตัวเองทำให้ร่างกายเข้าสู่สภาวะผ่อนคลายได้อย่างรวดเร็วหลังการถึงจุดสุดยอด (orgasm) ซึ่งเป็นประโยชน์ในการช่วยให้หลับง่ายขึ้น

    2. ส่งเสริมการหลั่งฮอร์โมนที่ช่วยการนอนหลับ

    หลังจากการช่วยตัวเองและการถึงจุดสุดยอด ร่างกายจะปล่อยฮอร์โมนต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการนอนหลับ เช่น:

    • ออกซิโทซิน (oxytocin): ฮอร์โมนที่ทำให้รู้สึกผ่อนคลายและเชื่อมโยงกับการปรับปรุงคุณภาพการนอน
    • โปรแลคติน (prolactin): ฮอร์โมนที่ช่วยให้รู้สึกง่วงนอนทันทีหลังจากถึงจุดสุดยอด

    งานวิจัยจากสถาบันการแพทย์ Rutgers University พบว่าการถึงจุดสุดยอดช่วยกระตุ้นส่วนต่าง ๆ ของสมองที่ช่วยลดความตื่นตัว และเพิ่มการผลิตฮอร์โมนที่ช่วยในการนอนหลับ

    3. ปรับปรุงคุณภาพการนอน

    จากงานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร Journal of Sleep Research (2019) พบว่าผู้ที่ช่วยตัวเองก่อนนอนมีแนวโน้มที่จะหลับลึกและยาวนานกว่าคนทั่วไป เนื่องจากร่างกายอยู่ในสภาวะผ่อนคลายเต็มที่หลังจากการถึงจุดสุดยอด

    ความแตกต่างระหว่างผู้ชายและผู้หญิง

    การช่วยตัวเองมีผลดีต่อการนอนในทั้งผู้ชายและผู้หญิง แต่เนื่องจากระบบทางเพศของทั้งสองเพศมีความแตกต่างกัน รายละเอียดบางประการจึงไม่เหมือนกัน:

    • ผู้ชาย: การหลั่งน้ำอสุจิหลังจากถึงจุดสุดยอดทำให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนโปรแลคตินออกมาในปริมาณมาก ทำให้รู้สึกง่วงและช่วยให้นอนหลับได้ดีขึ้น
    • ผู้หญิง: การกระตุ้นจุดสุดยอดในผู้หญิงไม่เพียงแต่ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย ยังช่วยให้ระบบการไหลเวียนของเลือดดีขึ้น ทำให้รู้สึกสบายตัวและส่งผลดีต่อการนอนหลับ

    ข้อควรระวังในการช่วยตัวเอง

    แม้ว่าการช่วยตัวเองจะมีข้อดีหลายประการ แต่ก็ยังมีข้อควรระวังที่ควรคำนึงถึง:

    1. ความถี่ในการช่วยตัวเอง

    การช่วยตัวเองเป็นสิ่งที่ดีต่อสุขภาพหากทำในปริมาณที่เหมาะสม อย่างไรก็ตาม การทำบ่อยเกินไปอาจส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวัน เช่น ทำให้รู้สึกเหนื่อยล้าหรือมีปัญหาด้านความสัมพันธ์กับคู่ครอง คำแนะนำจากแพทย์คือควรปรับสมดุลระหว่างการช่วยตัวเองและการทำกิจกรรมอื่น ๆ เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อสุขภาพกายและใจ

    2. พฤติกรรมที่อาจกลายเป็นนิสัย

    การพึ่งพาการช่วยตัวเองเพื่อการนอนหลับในทุกคืนอาจทำให้กลายเป็นนิสัย และส่งผลเสียต่อสุขภาพจิตในระยะยาว คำแนะนำคือการใช้วิธีนี้เป็นเพียงทางเลือกหนึ่งในการช่วยผ่อนคลาย และไม่ควรทำอย่างต่อเนื่องในกรณีที่เกิดปัญหาการนอนเรื้อรัง

    3. ความเสี่ยงทางร่างกาย

    แม้จะเกิดขึ้นไม่บ่อย แต่การช่วยตัวเองที่รุนแรงเกินไปอาจทำให้เกิดการบาดเจ็บเล็กน้อยได้ เช่น การระคายเคืองหรือแผลที่อวัยวะเพศ โดยเฉพาะในกรณีที่ไม่ใช้สารหล่อลื่นอย่างเหมาะสม ควรระมัดระวังและรักษาความสะอาดทุกครั้ง

    คำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

    แพทย์ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่เห็นพ้องว่าการช่วยตัวเองเป็นกิจกรรมที่ปลอดภัยและเป็นธรรมชาติ ทั้งนี้ควรทำด้วยความระมัดระวัง และไม่ควรทำเกินความจำเป็น หากมีปัญหาด้านการนอนเรื้อรัง ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับคำแนะนำเพิ่มเติม

    การช่วยตัวเองก่อนนอน สามารถช่วยให้หลับง่ายขึ้นและส่งเสริมคุณภาพการนอนหลับได้ เนื่องจากการปล่อยสารเคมีที่ช่วยผ่อนคลายและลดความเครียด อย่างไรก็ตาม ควรระมัดระวังในการทำและไม่ควรทำจนเกินความจำเป็น การรักษาสมดุลในการช่วยตัวเองและการดูแลสุขภาพโดยรวมคือกุญแจสำคัญในการใช้ชีวิตอย่างสุขภาพดี

  • โมเมนต์น่ารัก “แต้ว-ประณัย” ซีนส่งตัวเข้าหอในโหมดสามีภรรยาป้ายแดง

    แต้ว ณฐพร – ประณัย พรประภา โมเมนต์อบอุ่นพิธีส่งตัวเข้าห้อ คุณแม่อวยพรชีวิตคู่ และภาพในลุคชิลๆ ของเจ้าบ่าวเจ้าสาว หลายคนแห่แซว

    งานวิวาห์ที่ทุกคนรอคอยของนางเอกสาวชื่อดัง แต้ว-ณฐพร เตมีรักษ์ และ ประณัย พรประภา นักธุรกิจทายาทหมื่นล้านสยามกลการ ได้เกิดขึ้นแล้วเมื่อวันที่ 24 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยทั้งคู่ได้เริ่มต้นชีวิตคู่ด้วยการจดทะเบียนสมรสเป็นที่เรียบร้อย และถือเป็นการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในฐานะ สะใภ้หมื่นล้าน ของบ้านพรประภา

    ต้องบอกว่าเป็นงานฉลองวิวาห์ที่รวมตัวเพื่อนพ้องพี่น้องในวงการบันเทิงไว้มากที่สุดอีกหนึ่งงาน บรรยากาศเต็มไปด้วยความอบอุ่นและความบันเทิงจากเพื่อนๆ ในวงการ ที่ต่างเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับเจ้าบ่าวเจ้าสาว

    และหนึ่งในโมเมนต์ที่น่ารักและอบอุ่นที่สุดในวันั้น คือภาพของเจ้าบ่าว ประณัย และเจ้าสาว แต้ว ณฐพร พิธีส่งตัวเข้าหอที่มีคุณแม่ของทั้งสองคนอวยพรให้ชีวิตคู่มีแต่ความรักและความสุข 

    นอกจากนี้ยังได้เห็นอีกหนึ่งโมเมนต์สุดชิลหลังพิธีส่งตัวเสร็จเรียบร้อย แต้ว ณฐพร อยู่ในชุดคลุมอาบน้ำ โดยมีสามีป้ายแดงโอบกอดอยู่ข้างๆ ต้องบอกว่าเป็นภาพที่น่ารักมากๆ 

    เพื่อนๆ หลายคนเห็นแล้วต่างแซวกันยกใหญ่เลยทีเดียว วันนี้ถือเป็นอีกหนึ่งวันสำคัญในชีวิตของทั้งสองคน

  • วิธีขึ้นรถไฟฟ้าฟรี 7 วัน เริ่มตั้งแต่ 25-31 ม.ค. 68

    วิธีขึ้นรถไฟฟ้าฟรีตลอด 7 วัน ตั้งแต่วันที่ 25-31 ม.ค. 68

    ตามที่นายกฯ มีข้อสั่งการให้กระทรวงคมนาคม และส่วนราชการอื่นๆ สนับสนุนการแก้ไขปัญหาฝุ่นควันในกรุงเทพฯ ว่าตั้งแต่วันที 25-31 ม.ค. 68 จะให้ประชาชนขึ้นรถไฟฟ้าฟรีทุกสาย รวมถึงรถขนส่ง ขสมก.ฟรี โดยให้ประสานไปยังผู้ประกอบการทั้งกลุ่มบีทีเอส และ BEM ว่ารัฐบาลจะมีมาตรการดังกล่าว ซึ่งส่วนที่ต้องชดเชย 7 วันนี้ จะคำนวณตามรายได้ที่ได้รับเท่ากับ 7 วันที่ผ่านมา โดยงบประมาณที่จะนำมาชดเชยจะนำมาจากงบฯกลางประมาณ 140 ล้านบาท หลังจากนี้ จะนำข้อเสนอนี้เข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อแจ้งให้ทราบถึงข้อสั่งการนายกรัฐมนตรีต่อไป

    วิธีขึ้นรถไฟฟ้าฟรี ตลอด 7 วัน เริ่มตั้งแต่ 25-31 ม.ค. 68 ของแต่ละสายมีดังนี้

    รถไฟฟ้า BTS (สายสีเขียว-สายสีทอง)

    วิธีขึ้นรถไฟฟ้าฟรี 7 วันวิธีขึ้นรถไฟฟ้าฟรี 7 วัน

    รถไฟฟ้า BTS แจ้งว่า รถไฟฟ้าบีทีเอส (รถไฟฟ้าสายสีเขียว) และรถไฟฟ้าสายสีทอง ให้บริการฟรี ตามมาตรการแก้ไขปัญหา PM 2.5 ของรัฐบาล ตั้งแต่วันที่ 25 ม.ค. – 31 ม.ค. 2568 เวลา 06.00–00.00 น.

    ผู้โดยสารสามารถกดรับบัตรโดยสาร ได้ที่ตู้จำหน่ายตั๋วโดยสารอัตโนมัติ และห้องจำหน่ายตั๋วโดยสารทุกสถานี

    วิธีขึ้นรถไฟฟ้าฟรีของผู้ใช้บัตรแรบบิท

    อัปเดตล่าสุด เจ้าหน้าที่ BTS แจกบัตรโดยสารเที่ยวเดียวที่หน้าสถานี ทำให้มีความคล่องตัวในการรับบัตร 

    • บัตรแรบบิท แบบเติมเงิน สามารถแตะบัตรเข้าระบบได้เลยระบบจะไม่หักเงิน และเที่ยวเดินทาง
    • บัตรแรบบิท ที่มีเที่ยวเดินทาง (Xtreme Savings) รับบัตรโดยสารได้ที่ตู้จำหน่ายตั๋วโดยสารอัตโนมัติ และห้องจำหน่ายตั๋วโดยสารทุกสถานี
    • บัตรแรบบิท ที่มีเที่ยวเดินทาง ต้องการเดินทางเชื่อมต่อสายสีชมพู (สถานีวัดพระศรีมหาธาตุ) รับบัตรโดยสารที่ตู้จำหน่ายตั๋วโดยสารอัตโนมัติ หรือห้องจำหน่ายตั๋วโดยสารทุกสถานี
    • กรณีผู้โดยสารใช้บัตรแรบบิท ที่มีเที่ยวเดินทางในการเดินทาง ช่วงวันที่ 25 ม.ค. – 31 ม.ค. 2568 ระบบจะตัดเที่ยวเดินทางจากแพ็กเกจ

    หมายเหตุ : รถไฟฟ้าสายสีเขียว ครอบคลุม สายสีเขียวเข้ม (สายสีลม) สายสีเขียวอ่อน (สายสุขุมวิท) และส่วนต่อขยาย

    ขยายเวลาหมดอายุ เที่ยวเดินทาง BTS สำหรับผู้ที่ซื้อแพ็กเกจ

    ผู้โดยสารรถไฟฟ้า BTS ที่ซื้อแพ็กเกจเที่ยวเดินทาง จะได้รับขยายระยะเวลาการใช้คูปองเที่ยวเดินทาง โดยมีรายละเอียดดังนี้

    • แพ็กเกจเที่ยวเดินทาง ตั้งแต่ 15 เที่ยว หรือมีอายุ 30 วันขึ้นไป ก่อนวันที่ 25 ม.ค. 2568 ขยายระยะเวลาการใช้คูปองเที่ยวเดินทางถึง 28 ก.พ. 2568
    • แพ็กเกจเที่ยวเดินทาง 10 เที่ยวต่อ 7 วัน ขยายระยะเวลาการใช้งานคูปองถึง 13 ก.พ. 2568

    ขยายเวลาหมดอายุ เที่ยวเดินทาง BTS

    รถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน-สายสีม่วง

    วิธีขึ้นรถไฟฟ้า MRT ฟรีวิธีขึ้นรถไฟฟ้า MRT ฟรี

    รถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน-สายสีม่วง แจ้งให้บริการฟรี 7 วัน ตั้งแต่วันที่ 25-31 ม.ค. 68 โดยมีเงื่อนไขดังนี้

    วิธีขึ้นรถไฟฟ้า MRT ฟรี

    • ผู้โดยสารที่ใช้บัตรโดยสาร MRT ทุกประเภท หรือบัตรเครดิต/เดบิต สามารถแตะเพื่อเดินทางได้ตามปกติ โดยไม่คิดค่าโดยสาร
    • ผู้โดยสารที่ไม่มีบัตรโดยสาร สามารถรับเหรียญโดยสารได้ที่ห้องออกบัตร, เครื่องออกเหรียญอัตโนมัติ หรือจุดให้บริการในสถานี โดยไม่คิดค่าโดยสาร

    รถไฟฟ้า MRT สายสีเหลือง

    วิธีขึ้นรถไฟฟ้าฟรี สำหรับรถไฟฟ้ามหานคร (MRT) สายสีเหลือง วิธีขึ้นรถไฟฟ้าฟรี สำหรับรถไฟฟ้ามหานคร (MRT) สายสีเหลือง

    รถไฟฟ้ามหานคร (MRT) สายสีเหลือง ระบุว่า ให้บริการฟรีตามมาตรการแก้ไขปัญหา PM2.5 ของรัฐบาล ตั้งแต่เวลา 06.00 – 00.00 น. ในระหว่างวันที่ 25 ม.ค. – 31 ม.ค. 2568

    วิธีขึ้นรถไฟฟ้าฟรี สำหรับรถไฟฟ้ามหานคร (MRT) สายสีเหลือง 

    ผู้โดยสารสามารถกดรับบัตรโดยสารฟรี ได้ที่ ตู้จำหน่ายบัตรโดยสารอัตโนมัติ หรือรับได้ที่ห้องจำหน่ายบัตรโดยสารทุกสถานี

    วิธีขึ้นรถไฟฟ้าฟรี ผู้ใช้งานบัตรแรบบิท มีดังนี้

    • บัตรแรบบิทแบบเติมเงิน สามารถแตะบัตรเข้าระบบได้เลย ระบบจะไม่หักเงิน
    • บัตรแรบบิทที่มีเที่ยวเดินทาง รับบัตรโดยสารได้ที่ตู้จำหน่ายบัตรโดยสารอัตโนมัติ หรือห้องจำหน่ายบัตรโดยสารทุกสถานี (กรณีผู้โดยสารใช้บัตรแรบบิทที่มีเที่ยวเดินทางในการเดินทาง ช่วงวันที่ 25 ม.ค. – 31 ม.ค. 2568 ระบบจะตัดเที่ยวเดินทางจากแพ็กเกจ)

    รถไฟฟ้า MRT สายสีชมพู

    วิธีขึ้นรถไฟฟ้าฟรี สำหรับ MRT สายสีชมพูวิธีขึ้นรถไฟฟ้าฟรี สำหรับ MRT สายสีชมพู

    รถไฟฟ้ามหานคร (MRT) สายสีชมพู แจ้งให้บริการฟรี ตามมาตรการแก้ไขปัญหา PM2.5 ของรัฐบาล ตั้งแต่เวลา 06.00 – 00.00 น. ในระหว่างวันที่ 25 ม.ค. – 31 ม.ค. 2568 เช่นเดียวกับรถไฟฟ้าสายสีเหลือง

    วิธีขึ้นรถไฟฟ้าฟรี สำหรับ MRT สายสีชมพู

    ผู้โดยสารสามารถกดรับบัตรโดยสาร ฟรี! ได้ที่ตู้จำหน่ายบัตรโดยสารอัตโนมัติ หรือรับได้ที่ห้องจำหน่ายบัตรโดยสารทุกสถานี

    วิธีขึ้นรถไฟฟ้าฟรีผู้ใช้บัตรแรบบิท มีดังนี้

    • บัตรแรบบิทแบบเติมเงิน สามารถแตะบัตรเข้าระบบได้เลย โดยระบบจะไม่หักเงิน
    • บัตรแรบบิทที่มีเที่ยวเดินทาง ต้องการเดินทางเชื่อมต่อสายสีเขียว (สถานีวัดพระศรีมหาธาตุ) รับบัตรโดยสารได้ที่ตู้จำหน่ายบัตรโดยสาร หรือห้องจำหน่ายบัตรโดยสารทุกสถานี (กรณีผู้โดยสารใช้บัตรแรบบิทที่มีเที่ยวเดินทางในการเดินทาง ช่วงวันที่ 25 ม.ค. – 31 ม.ค. 2568 ระบบจะตัดเที่ยวเดินทางจากแพ็กเกจ)

    รถไฟฟ้าสายสีแดง

    วิธีขึ้นขึ้นรถไฟฟ้าฟรี สำหรับรถไฟฟ้าสายสีแดงวิธีขึ้นขึ้นรถไฟฟ้าฟรี สำหรับรถไฟฟ้าสายสีแดง

    เปิดให้ประชาชนใช้บริการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดงฟรี ตั้งแต่วันที่ 25 ม.ค.-31 ม.ค. 68 รวมระยะเวลา 7 วัน เพื่อให้ประชาชนลดการเดินทางโดยรถยนต์ส่วนบุคคลซึ่งเป็นสาเหตุที่ก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศ และมุ่งหวังให้ปัญหาดังกล่าวกลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว

    วิธีขึ้นขึ้นรถไฟฟ้าฟรี สำหรับรถไฟฟ้าสายสีแดง

    • ใช้บริการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดงได้ฟรี ตั้งแต่เวลา 05.00 น.-เที่ยงคืน ของวันที่ 25-31 มกราคม 2568 เป็นต้นไป
    • ผู้โดยสารสามารถติดต่อขอรับเหรียญโดยสารได้ที่เจ้าหน้าที่บริเวณห้องจำหน่ายตั๋วโดยสารทุกสถานี
    • ผู้ที่ใช้บัตรโดยสารประเภทบุคคลทั่วไป, ประเภทนักเรียน นักศึกษา และประเภทผู้สูงอายุ สามารถแตะบัตรเข้า – ออก โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเช่นกัน

    รถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์ (AERA 1 CITY LINE)

    วิธีขึ้นรถไฟฟ้าฟรี สำหรับรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์ วิธีขึ้นรถไฟฟ้าฟรี สำหรับรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์

    วิธีขึ้นรถไฟฟ้าฟรี สำหรับรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์ 

    ผู้โดยสารนั่งรถไฟฟ้าฟรี เป็นเวลา 7 วัน ตั้งแต่วันที่ 25 – 31 มกราคม 2568 โดยผู้โดยสารสามารถติดต่อพนักงานสถานี รับเหรียญโดยสารนั่งรถไฟฟ้าฟรี ได้ที่ห้องจำหน่ายตั๋วโดยสารในทุกสถานี

     

  • เงินดิจิทัลเฟส 2 โอน 10,000 บาท เข้าบัญชีกี่โมง ถ้ายังไม่ได้ต้องทำอย่างไรต่อไป

    เงินดิจิทัลเฟส 2 โอนเงิน 10,000 บาท เข้าบัญชีพร้อมเพย์กี่โมง ถ้ายังไม่ได้ต้องทำอย่างไร

    วันนี้ (27 ม.ค. 68) เป็นวันโอนเงินดิจิทัลเฟส 2 วงเงิน 10,000 บาท ให้กับกลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ที่ผ่านการตรวจสอบสิทธิ์เงินดิจิทัลเฟส 2 ตามที่รัฐบาลได้กำหนดเงื่อนไข และคุณสมบัติไว้ ซึ่งคนที่ผ่านเกณฑ์ระบบในแอปฯ ทางรัฐจะแจ้งว่า “ยินดีด้วย คุณได้รับสิทธิโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านผู้สูงอายุ กรุณาตรวจสอบบัญชีธนาคารที่ผูกกับพร้อมเพย์ให้สามารถใช้งานได้ และรอรับการโอนเงิน ในวันที่ 27 มกราคม 2568”

    เงินดิจิทัลเฟส 2 โอนเงิน 10,000 บาท เข้าบัญชีกี่โมง

    • เงินดิจิทัลเฟส 2 โอนเงินเข้าบัญชีล็อตแรกตั้งแต่หลังเที่ยงคืนของวันที่ 27 ม.ค. 68 เป็นต้นไป โดยจะโอนเงิน 10,000 บาท เป็นก้อนเดียว และทุกคนจะได้รับเงินทั้งหมดภายในวันเดียว เข้าบัญชีธนาคารที่ผูกกับพร้อมเพย์บัตรประชาชน

    ถ้าผ่านเกณฑ์แต่ยังไม่ได้รับเงิน 10,000 บาท ต้องทำอย่างไร

    • ถ้าผ่านคุณสมบัติเงินดิจิทัลเฟส 2 แต่ไม่ได้รับเงิน 10,000 บาท เป็นเพราะยังไม่ได้ผูกพร้อมเพย์กับเลขบัตรประชาชน วิธีแก้ คือ ต้องติดต่อกับธนาคารเพื่อดำเนินการในเรื่องนี้

    ถ้าไม่ได้รับสิทธิ์ มีวิธียื่นอุทธรณ์ไหม

    • ยื่นอุทธรณ์ได้ โดยสามารถโทรศัพท์ไปที่หมายเลข 1111 ตลอด 24 ชั่วโมง

    ถ้าไม่ได้รับเงินดิจิทัลเฟส 2 ภายในวันที่ 27 ม.ค. 68 มีวันอื่นอีกไหม?

    • คนที่ยังไม่ได้รับเงินดิจิทัลเฟส 2 ภายในวันที่ 27 ม.ค. 68 สามารถรอรับเงินโอนใหม่ได้อีก 3 ครั้ง ดังนี้
      • วันที่ 28 ก.พ. 68
        • ผูกพร้อมเพย์กับบัตรประชาชน ภายในวันที่ 25 ก.พ. 68
      • วันที่ 28 มี.ค. 68
        • ผูกพร้อมเพย์กับบัตรประชาชนภายในวันที่ 25 มี.ค. 68
      • วันที่ 28 เม.ย. 68
        • ผูกพร้อมเพย์กับบัตรประชาชน ภายในวันที่ 23 เม.ย. 68

    อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับเงินดิจิทัลเฟส 2

  • 4 สาเหตุที่ทำให้แบตเตอรี่รถเสื่อมเร็วกว่าปกติ

    แบตเตอรี่เป็นส่วนประกอบสำคัญที่ช่วยให้รถยนต์สตาร์ทติด หากแบตเตอรี่เสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติ อาจส่งผลให้เกิดความยุ่งยากในการบำรุงรักษา บทความนี้ Sanook Auto จะมาดูกันว่าอะไรคือสาเหตุหลักๆ ที่ทำให้แบตเตอรี่รถยนต์เสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติ

    4 สาเหตุทำแบตเสื่อมเร็วกว่าปกติ

    1. การใช้งานที่ไม่เหมาะสม – การเปิดไฟหน้า วิทยุ หรืออุปกรณ์ไฟฟ้าอื่นๆ ทิ้งไว้ขณะที่รถยนต์ดับ จะทำให้แบตเตอรี่ค่อยๆ หมด และเสื่อมสภาพเร็วขึ้น และหากจอดรถทิ้งไว้เป็นระยะเวลานาน จะทำให้แบตเตอรี่ค่อยๆ เสื่อมสภาพไปตามธรรมชาติได้เช่นกัน

    2. ใช้งานรถสั้นเกินไป – การสตาร์ทเครื่องยนต์บ่อยครั้งโดยไม่ให้เครื่องยนต์ทำงานนานพอ จะทำให้แบตเตอรี่ไม่ได้รับการชาร์จไฟอย่างเต็มที่ ส่งผลให้แบตเตอรี่เสื่อมสภาพไวขึ้นเช่นกัน

    3. ไดชาร์จทำงานผิดปกติ – ไดชาร์จมีหน้าที่ชาร์จไฟให้แบตเตอรี่ หากไดชาร์จทำงานผิดปกติ มีการสร้างประจุไฟน้อยหรือมากเกินไป อาจส่งผลต่ออายุการใช้งานแบตเตอรี่ได้เช่นกัน

    4. ติดตั้งอุปกรณ์เสริมจำนวนมาก – เช่น ระบบเครื่องเสียง ไฟส่องสว่าง ฯลฯ ส่งผลให้แบตเตอรี่ถูกใช้งานมากกว่าปกติ และทำให้แบตเตอรี่เสื่อมเร็วกว่าที่ควรจะเป็น

    วิธีดูแลรักษาแบตเตอรี่รถยนต์

    • ตรวจสอบระดับน้ำกลั่น – สำหรับแบตเตอรี่แบบเติมน้ำกลั่น ควรตรวจสอบระดับน้ำกลั่นเป็นประจำ และเติมน้ำกลั่นให้ถึงระดับที่กำหนด
    • ทำความสะอาดขั้วแบตเตอรี่ – ขั้วแบตเตอรี่ที่สกปรกหรือมีคราบเขียวจะทำให้การเชื่อมต่อไฟฟ้าไม่ดี ควรทำความสะอาดขั้วแบตเตอรี่เป็นประจำ
    • เปลี่ยนแบตเตอรี่เมื่อถึงอายุการใช้งาน – เมื่อแบตเตอรี่มีอายุการใช้งานนาน ควรเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่ เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้น

    การดูแลรักษาแบตเตอรี่รถยนต์ให้มีอายุการใช้งานนานขึ้นนั้น ไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแค่เราหมั่นตรวจสอบและบำรุงรักษาตามคำแนะนำของผู้ผลิตนั่นเอง

  • 8 อาหารซื้อได้ทั่วไป กำจัดโซเดียมอย่างแจ๋ว กินแซ่บ ซดน้ำซุปแล้ว ใส่ปากตามเลย

    ร่างกายเราต้องการโซเดียมบ้าง แต่ถ้ากินมากเกินไป จะเกิดปัญหาได้ เช่น ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ และโรคหลอดเลือดสมอง อาการอื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้นคือ ปวดหัว บวม ท้องผูก และอ่อนเพลีย หลังจากกินอาหารเค็มๆ เราสามารถปรับสมดุลโซเดียมได้ เช่น ดื่มน้ำเยอะๆ ออกกำลังกาย และกินอาหารที่มีโพแทสเซียมสูง อย่างไรก็ตามเราจึงอยากแนะนำ 8 ผักผลไม้ช่วยกำจัดโซเดียมออกจากร่างกาย

    8 ผักผลไม้ช่วยกำจัดโซเดียมออกจากร่างกาย

    1.กล้วย กล้วยอุดมไปด้วยโพแทสเซียม โดยกล้วยขนาดกลาง 1 ผล ให้โพแทสเซียมประมาณ 9% ของปริมาณที่ร่างกายต้องการต่อวัน (422 มิลลิกรัม) โพแทสเซียมช่วยควบคุมความดันโลหิตหลังจากรับประทานอาหารที่มีโซเดียมสูง และอาจช่วยลดความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดสมองในระยะยาว นอกจากนี้ กล้วยยังมีใยอาหารสูง ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ ลองนำกล้วยมาทำเป็นไอศกรีมกล้วยปั่นสูตร 2 ส่วนผสมกับเนยถั่วลิสง เพื่อเป็นของหวานเพื่อสุขภาพ

    2.อะโวคาโด อะโวคาโดครึ่งผลให้โพแทสเซียมประมาณ 10% ของปริมาณที่ร่างกายต้องการต่อวัน (488 มิลลิกรัม) นอกจากโพแทสเซียมแล้ว อะโวคาดยังอุดมไปด้วยใยอาหารอีกด้วย แทนที่จะทานกับชิปส์ที่มีโซเดียมสูง ลองทานกัวคาโมเลสูตร Almost Chipotle’s ของเราคู่กับพริกหยวกหรือแครอท แทนจะช่วยลดผลกระทบจากอาหารที่มีโซเดียมสูงได้

    3.กีวี กีวีมีรสชาติอร่อยสดชื่น และเป็นตัวเลือกที่ดีเยี่ยมสำหรับการรับประทานหลังอาหารที่มีโซเดียมสูง กีวี 1 ผล มีโพแทสเซียมประมาณ 148 มิลลิกรัม คิดเป็นประมาณ 3% ของปริมาณที่ร่างกายต้องการต่อวัน ผลข้างเคียงอีกอย่างหนึ่งของการรับประทานโซเดียมมากเกินไป คือ อาการท้องอืด โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเป็นอาหารที่มีทั้งโซเดียมและโปรตีนสูง กีวีมีเอนไซม์ที่ช่วยย่อยโปรตีน ทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น ซึ่งอาจช่วยลดอาการท้องอืดได้

    4.ผักใบเขียว ผักใบเขียวเป็นหนึ่งในผักที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงที่สุด และหนึ่งในนั้นคือโพแทสเซียม ผักขมสุกหนึ่งถ้วยให้โพแทสเซียมสูงถึง 18% ของปริมาณที่ร่างกายต้องการต่อวัน หรือประมาณ 839 มิลลิกรัม นอกจากนี้ ผักใบเขียวยังอุดมไปด้วยใยอาหารและสารอาหารสำคัญอื่นๆ อีกมากมาย แต่มีแคลอรี่ต่ำ ช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดีโดยไม่รู้สึกอิ่มเกินไป

    5.โยเกิร์ต หลังจากรับประทานอาหารที่มีโซเดียมสูง การเลือกทานโยเกิร์ตเป็นทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพอย่างยิ่ง ด้วยเหตุผลหลายประการ โยเกิร์ตอุดมไปด้วยโพแทสเซียม ซึ่งช่วยปรับสมดุลของโซเดียมในร่างกาย และมีโปรไบโอติกส์ที่ส่งเสริมสุขภาพลำไส้และระบบย่อยอาหารให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ โยเกิร์ตยังเป็นของหวานที่ดีต่อสุขภาพที่สามารถทดแทนของหวานประเภทอื่นๆ ได้อีกด้วย

    โยเกิร์ตผลไม้รสธรรมชาติหนึ่งถ้วย (ไขมันต่ำ) ให้โพแทสเซียมสูงถึง 216 มิลลิกรัม คิดเป็นประมาณ 5% ของปริมาณที่ร่างกายต้องการในแต่ละวัน เพื่อลดปริมาณน้ำตาลที่เพิ่มเข้ามา ควรเลือกโยเกิร์ตรสธรรมชาติแล้วเติมผลไม้สดหรือสารให้ความหวานตามชอบ

    6.ถั่วขาว เพียงครึ่งถ้วยบรรจุโพแทสเซียมสูงถึง 595 มิลลิกรัม คิดเป็น 13% ของปริมาณที่ร่างกายต้องการในแต่ละวัน นอกจากนี้ ยังอุดมไปด้วยโปรตีนและไฟเบอร์ ช่วยให้รู้สึกอิ่มนานและพึงพอใจโดยไม่ต้องเพิ่มโซเดียมเข้าสู่ร่างกายในปริมาณมาก ถั่วขาวกระป๋องมักมีโซเดียมสูงกว่าชนิดแห้ง ดังนั้น ควรเลือกชนิดที่มีโซเดียมต่ำและล้างถั่วกระป๋องก่อนนำไปประกอบอาหารเพื่อลดปริมาณโซเดียม หรืออาจเลือกปรุงถั่วแห้งเองก็ได้ ถั่วขาวมีราคาประหยัด อเนกประสงค์ และเป็นวัตถุดิบที่ควรมีติดตู้เสบียงไว้เสมอ สำหรับมื้ออาหารสุขภาพที่ช่วยให้คุณกลับมาอยู่บนเส้นทางที่ถูกต้อง

    7.น้ำมะพร้าว: น้ำมะพร้าวอุดมไปด้วยโพแทสเซียมสูงถึง 396 มิลลิกรัม (คิดเป็น 8% ของปริมาณที่ร่างกายต้องการในแต่ละวัน) นอกจากนี้ยังมีแร่ธาตุอื่นๆ เช่น แมกนีเซียม และแคลเซียม ที่ช่วยรักษาสมดุลของน้ำและอิเล็กโทรไลต์ในร่างกาย ช่วยให้ร่างกายได้รับการเติมน้ำอย่างเพียงพอ นอกจากนี้ น้ำมะพร้าวยังมีแมงกานีส ซึ่งเป็นสารอาหารสำคัญในการเผาผลาญคาร์โบไฮเดรต โปรตีน และคอเลสเตอรอลในร่างกาย

    8.ชาสมุนไพร แม้ว่าชาทั่วไปอาจไม่ได้มีโพแทสเซียมสูงมากนัก แต่ชากิงเกอร์และชาสะระแหน่มีประโยชน์มากกว่าแค่ช่วยบรรเทาอาการท้องไม่สบาย สะระแหน่โดยเฉพาะ ช่วยกระตุ้นให้ตับผลิตน้ำดีมากขึ้น ซึ่งช่วยให้ร่างกายย่อยอาหารที่มีไขมันได้ดีขึ้น ขิงก็ช่วยกระตุ้นการย่อยอาหารและลดอาการบวม ช่วยให้คุณรู้สึกสบายตัวขึ้นหลังรับประทานอาหาร

  • ชมคลิปกันชัดๆ “ตะวันฉาย” ปิดเกมไว “ซุปเปอร์บอน” ป้องแชมป์โลก ONE มวยไทย

    ดุเดือดสมราคาการแข่งขันสุดยิ่งใหญ่ครั้งประวัติศาสตร์ สำหรับศึก ONE 170 เมื่อช่วงค่ำวันศุกร์ที่ 24 ม.ค.ที่ผ่านมา ณ อิมแพ็ค อารีนา เมืองทองธานี จัดเต็มดีกรีเดือดชูโรงด้วยไฟต์เดิมพันชิงเข็มขัดแชมป์โลก 3 เส้น ให้แฟนกีฬาศิลปะการต่อสู้ใน 195 ประเทศทั่วโลกได้รับชมความเร้าใจกันเต็มอิ่ม

    คู่เอกของรายการ “ตะวันฉาย พีเค.แสนชัย” แชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นเฟเธอร์เวต (145-155 ป.) ขึ้นทำหน้าที่ป้องกันบัลลังก์เป็นครั้งที่ 4 จากคู่ปรับเก่า “ซุปเปอร์บอน ซุปเปอร์บอนเทรนนิงแคมป์” แชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง โดยหลังจากแลกแข้งทักทายกันหนักๆตั้งแต่ยกแรก เริ่มยกสองมาไม่นาน “ตะวันฉาย” เป็นฝ่ายเดินบุกจนได้จังหวะซัดหมัดส่ง “ซุปเปอร์บอน” ลงไปนอนได้นับแรก ก่อนจะเร่งระดมยิงอาวุธใส่ไม่ยั้งจนได้อีก 2 นับ ชนะทีเคโอ รั้งเข็มขัดเหนียวแน่น พร้อมรับโบนัส 50,000 ดอลลาร์สหรัฐ (กว่า 1.7 ล้านบาท) กลับบ้าน

    คู่รอง “ฟาบริซิโอ อานดราเด” แชมป์โลก ONE MMA รุ่นแบนตัมเวต (135-145 ป.) จากบราซิล ทุ่มสุดตัวเพื่อป้องกันเข็มขัดครั้งแรกจาก “ควอน วอน อิล” คู่ปรับเก่าจากเกาหลีใต้ ที่ไฟต์นี้ตั้งใจมาถอนแค้นแบบทบต้นทบดอกให้ได้ โดยแชมป์โลกชาวบราซิลสามารถย้ำชัยผู้ท้าชิงไปอย่างไวในยกแรกเท่านั้น รั้งบัลลังก์สำเร็จอย่างไร้ข้อกังขา

    อีกหนึ่งคู่รองเป็นศึกแย่งชิงบัลลังก์ ONE มวยไทย รุ่นแบนตัมเวต (135-145 ป.) เฉพาะกาล ระหว่าง “นิโค คาร์ริลโล” ผู้ท้าชิงอันดับ 2 จากสกอตแลนด์ พบกับ “นาบิล อานาน” ดาวรุ่งเชื้อสายแอลจีเรีย-ไทย ที่รั้งผู้ท้าชิงอันดับ 5 ของแรงกิงรุ่นนี้ ปรากฏว่าเกมจบเร็วเพียงแค่ยกแรกเท่านั้น เมื่อ “นาบิล” แจกอาวุธชุดใหญ่ปิดเกมชนะทีเคโอ “นิโค” แบบม้วนเดียวจบ ผงาดครองแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นแบนตัมเวต เฉพาะกาล พร้อมรับโบนัส 50,000 ดอลลาร์สหรัฐ (กว่า 1.7 ล้านบาท) โดย “นาบิล” ได้สิทธิ์ไปเปิดศึกรวบเข็มขัดกับแชมป์โลกตัวจริงกับ “ซุปเปอร์เล็ก เกียรติหมู่ 9” ในศึก ONE 172 ที่ประเทศญี่ปุ่น
    dขณะที่ “เสกสรร อ.ขวัญเมือง” เปิดหน้าทดสอบพลังอึดของ “ซอ ลิน อู” คนเหล็กชาวกะเหรี่ยงจากเมียนมา ในกติกามวยไทย พิกัดเฉพาะ (แคตช์เวต) 142.5 ป. ซึ่งทั้งสองฝ่ายต่างปักหลักซัดอาวุธกันอุตลุต ตลอด 3 ยก แต่ “เสกสรร” ออกอาวุธได้ครบเครื่องชัดเจนกว่า เอาชนะคะแนนเอกฉันท์ “ซอ ลิน อู” ท่ามกลางเสียงเฮสนั่นลั่นสนาม

    ส่วน “สินสมุทร กลิ่นมี” ปะทะ “นาวเซต ทรูจิลโล” จากสเปน ในกติกามวยไทย รุ่นไลต์เวต (155-175 ป.) ซึ่งผลงานที่ออกมา “สินสมุทร” ทำได้ดีกว่าอย่างชัดเจน ไล่ต้อน “นาวเซต” ร่วงลงไปกอง 3 นับ ปิดจ็อบชนะทีเคโอตั้งแต่ยกแรก พร้อมกับคว้าโบนัส 50,000 ดอลลาร์สหรัฐ (กว่า 1.7 ล้านบาท) ได้เป็นครั้งที่ 3 ใน ONE

    ข้ามไปที่ “สุริยันต์เล็ก พ.เย็นยิ่ง” ท้าพิสูจน์ความแกร่งของ “ธานท์ ซิน” จากเมียนมา ในกติกามวยไทย พิกัดเฉพาะ (แคตช์เวต) 137.25 ป. งานนี้ “สุริยันต์เล็ก” โชว์หัวใจแกร่ง แม้โดนเตะเจาะยางขาเจ็บตั้งแต่ยกแรก แต่ฮึดสู้กดหมัดส่ง “ธานท์ ซิน” ลงไปนอน 3 รอบในยก 2 ปิดเกมชนะทีเคโอไปได้แบบสะใจ

    ส่วน “โจ ณัฐวุฒิ” รั้งเก้าอี้ผู้ท้าชิงอันดับ 2 ไม่สำเร็จ โดยถูก “บัมปารา คูยาเต” เจ้าของอันดับ 4 ของแรงกิง จากฝรั่งเศส ซัดหมัดเข้าจังๆ ลงไปกอง 3 นับ อย่างรวดเร็ว ตกเป็นฝ่ายพ่ายทีเคโอตั้งแต่ยกแรก

    สำหรับนักกีฬาผลงานเด่นที่รับรางวัลโบนัสอัดฉีดในศึกนี้มีทั้งหมด 4 คน ได้แก่ “สินสมุทร กลิ่นมี”, “นาบิล อานาน”, “ฟาบริซิโอ อานดราเด” และ “ตะวันฉาย พีเค.แสนชัย” หลังต่างงัดฟอร์มเก่งเข้าตาบิ๊กบอส “ชาตรี ศิษย์ยอดธง” คว้าเงินรางวัลคนละ 50,000 ดอลลาร์สหรัฐ (กว่า 1.7 ล้านบาท) รวมยอดทั้งสิ้นมากกว่า 6.8 ล้านบาท (หกล้านแปดแสนบาท) ในอีเวนต์เดียว รวมถึงแจกรางวัลพิเศษ ONE ซูเปอร์แฟน ให้กับผู้ชมในสนามอีก 100,000 บาท

    นอกจากนี้ ยังมีเซอร์ไพรส์ใหญ่จาก MILLI (มิลลิ) แร็ปเปอร์สาวจากค่าย YUPP! (ยัป!) ที่ใช้เวที ONE เปิดตัวเพลงใหม่ชื่อ “Heavy Weight” เป็นครั้งแรกของโลก โดยใช้เพลงนี้ในการเปิดตัวให้แชมป์โลก ONE “ตะวันฉาย” ซึ่งการปรากฏตัวของสองไอคอนต่างวงการครั้งนี้ ถือเป็นการเผยแพร่ซูเปอร์ซอฟต์พาวเวอร์ของไทย ทั้งในฝั่งศิลปะการต่อสู้ประจำชาติอย่างมวยไทยและศิลปินไทยไปสู่สายตาผู้ชมทั่วโลก

    สรุปการแข่งขันทุกคู่ศึก ONE 170

    – คู่เอก ตะวันฉาย พีเค.แสนชัย ชนะทีเคโอ ซุปเปอร์บอน ซุปเปอร์บอนเทรนนิงแคมป์ นาทีที่ 1:10 ของยก 2 (ชิงแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นเฟเธอร์เวต 145-155 ป.)
    – คู่รอง ฟาบริซิโอ อานดราเด (บราซิล) ชนะทีเคโอ ควอน วอน อิล (เกาหลีใต้) นาทีที่ 0:42 ของยกแรก (ชิงแชมป์โลก ONE MMA รุ่นแบนตัมเวต 135-145 ป.)
    – คู่รอง นาบิล อานาน ชนะทีเคโอ นิโค คาร์ริลโล (สกอตแลนด์) นาทีที่ 2:35 ของยกแรก (ชิงแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นแบนตัมเวต 135-145 ป. เฉพาะกาล)
    – เสกสรร อ.ขวัญเมือง ชนะคะแนนเอกฉันท์ ซอ ลิน อู (เมียนมา) (มวยไทย แคตช์เวต 142.5 ป.)
    – บัมปารา คูยาเต (ฝรั่งเศส/มาลี) ชนะทีเคโอ โจ ณัฐวุฒิ นาทีที่ 2:34 ของยกแรก (มวยไทย รุ่นเฟเธอร์เวต 145-155 ป.)
    – สินสมุทร กลิ่นมี ชนะทีเคโอ นาวเซต ทรูจิลโล (สเปน) นาทีที่ 2:34 ของยกแรก (มวยไทย รุ่นไลต์เวต 155-170 ป.)
    – โยฮัน เอสตูปินาน (โคลอมเบีย) ชนะคะแนนเอกฉันท์ โจฮัน กาซาลี (มาเลเซีย/สหรัฐอเมริกา) (มวยไทย รุ่นฟลายเวต 125-135 ป.)
    – มาวริส อาเบวี (สวิตเซอร์แลนด์) ชนะทีเคโอ ซามัต มาเมดอฟ (คาซัคสถาน) นาทีที่ 2:46 ของยกแรก (MMA แคตช์เวต 176 ป.)
    – มาร์เซโล การ์เซีย (บราซิล) ชนะซับมิชชัน มาซากาซึ อิมานาริ (ญี่ปุ่น) นาทีที่ 4:49 ของยกแรก (ปล้ำจับล็อก ไม่จำกัดน้ำหนัก)
    – มาซาอากิ โนอิริ (ญี่ปุ่น) ชนะน็อก ชากีร์ แอล เตครีติ (อิรัก) นาทีที่ 0:14 ของยก 2 (คิกบ็อกซิ่ง รุ่นเฟเธอร์เวต 145-155 ป.)
    – สุริยันต์เล็ก พ.เย็นยิ่ง ชนะทีเคโอ ธานท์ ซิน (เมียนมา) นาทีที่ 2:09 ของยก 2 (มวยไทย แคตช์เวต 137.25 ป.)
    – จอร์แดน เอสตูปินาน (โคลอมเบีย) ชนะคะแนนเอกฉันท์ เฟรดดี แฮ็กเกอร์ตี (สหราชอาณาจักร) (มวยไทย รุ่นฟลายเวต 125-135 ป.)

  • เปิดสูตรมื้อเช้าของ ดร.ชิน ผู้เชี่ยวชาญอัลไซเมอร์ อร่อยและดีต่อสมอง คนไทยก็กินตามได้!

    รู้ไว้ดีกว่า! แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านอัลไซเมอร์ เจอวิธี “ลด” เสี่ยงสมองเสื่อม ควรทานอาหารเช้าเมื่อใด และควรใส่อะไรในกาแฟ?

    โรคสมองเสื่อม เป็นเรื่องที่อยู่ในความสนใจของ ดร.เนธานีเอล ชิน (Dr. Nathaniel Chin) ไม่ใช่แค่เพราะเขาเป็นผู้อำนวยการทางการแพทย์ของ “Wisconsin Registry for Alzheimer’s Prevention” แต่ยังเพราะว่าพ่อของเขาคือ ดร.โม ชิน (Dr. Moe Chin) เสียชีวิตในปี 2018 หลังจากต่อสู้กับโรคอัลไซเมอร์ แม้เดิมทีตั้งใจจะเรียนเฉพาะทางโรคติดเชื้อ แต่ตัดสินใจหันมาสนใจด้านการดูแลความจำ หลังจากเห็นพ่อของเขาต่อสู้กับอาการสมองเสื่อม เขายังมีพอดแคสต์ชื่อ “Dementia Matters” ที่พูดถึงงานวิจัยและคำแนะนำการดูแลผู้ป่วย 

    ดร. ชินทำหลายอย่างในชีวิตประจำวันเพื่อช่วยลดความเสี่ยงของโรคสมองเสื่อม รวมถึงการออกกำลังกายทุกเช้า หลีกเลี่ยงโซดาและน้ำผลไม้ และฝึกสมาธิในตอนท้ายของวันเพื่อลดความเครียด เขายังทำการ “อดอาหารแบบเว้นระยะ” (Intermittent fasting : IF) โดยจะทานมื้อแรกระหว่าง 11.00 น. ถึง 13.00 น. และจะหยุดกินอาหารประมาณ 19.00 น. ซึ่งเป็นเวลา 3 ชั่วโมงก่อนเข้านอน

    “ผมลองมาทุกอย่างแล้ว” ดร. ชิน ซึ่งเป็นรองศาสตราจารย์ที่ภาควิชาการแพทย์ของมหาวิทยาลัยวิสคอนซินกล่าว “การอดอาหารแบบเว้นระยะไม่ทำให้ผมลดน้ำหนัก แต่ช่วยให้ไม่เพิ่มน้ำหนัก และยังช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด คอเลสเตอรอล และความดันโลหิตให้เหมาะสม” เขากล่าวเสริมว่า “ผมเชื่อว่ามันช่วยให้สุขภาพการเผาผลาญดีขึ้น ซึ่งส่งผลดีต่อความเสี่ยงในการเป็นโรคสมองเสื่อมในอนาคต”

    โรคอัลไซเมอร์เป็นรูปแบบที่พบบ่อยที่สุดของโรคสมองเสื่อม ซึ่งเป็นการเสื่อมสภาพของความจำ การสื่อสาร และทักษะการแก้ปัญหา ถึงแม้จะยังไม่มีวิธีรักษา แต่สามารถลดความเสี่ยงได้ด้วยการเลือกวิถีชีวิตที่ดี โดยเริ่มจากการเลือกรับประทานอาหาร อาหารที่ผ่านกระบวนการมาก และเต็มไปด้วยน้ำตาลและไขมัน สามารถเพิ่มการอักเสบในสมองและความเครียดจากออกซิเดชัน ซึ่งอาจทำให้เซลล์สมองเสียหาย

    นั่นคือเหตุผลที่ ดร.ชิน หลีกเลี่ยงน้ำตาล เตรียมกาแฟเช้าของเขาด้วยขมิ้นและอบเชยแทนน้ำตาล “เพราะการอดอาหารของผม ผมจึงไม่เติมแคลอรี่ในกาแฟ และผมก็ชอบรสชาติของกาแฟดำจริงๆ” เขากล่าวเสริมว่า “ขมิ้นมีคุณสมบัติในการต้านการอักเสบ ผมเชื่อว่าโรคเรื้อรังส่วนใหญ่เป็นโรคที่เกิดจากการอักเสบ อบเชยสามารถช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ และเป้าหมายของผมคือลดให้ระดับน้ำตาลคงที่ตลอดช่วงเช้า”

    ในส่วนของการอดอาหารแบบ IF ก็มีหลักฐานว่าอาจช่วยปกป้องสมองจากโรคอัลไซเมอร์และโรคทางสมองอื่นๆ การศึกษาหนึ่งในปี 2023 จาก UC San Diego พบว่าการจำกัดเวลาให้หนูทดลองกินอาหารแค่ 6 ชั่วโมงต่อวัน ช่วยปรับเวลาในนาฬิกาชีวภาพของมันใหม่ ปรับปรุงความจำ และลดการสะสมของโปรตีนแอมิโลดในสมอง ซึ่งเป็นลักษณะเด่นของโรคอัลไซเมอร์ ขณะที่การวิจัยอื่นๆ รายงานว่า หนูที่ได้รับอาหารแคลอรี่ต่ำที่ออกแบบให้เหมือนการอดอาหาร ทำคะแนนการทดสอบความจำได้ดีกว่าหนูที่ทานอาหารตามปกติ หนูที่อดอาหารยังมีการอักเสบในสมองลดลง รวมถึงระดับโปรตีนแอมิโลดและโปรตีนทาอูที่มีการฟอสโฟรีเลชันสูง ซึ่งทำให้เกิดการพันกันในสมอง

    แต่การอดอาหารแบบเว้นระยะไม่เหมาะกับทุกคน ดร. ชินกล่าว คนที่เป็นโรคเบาหวานหรือมีปัญหาการกินควรปรึกษาแพทย์ “สำหรับคนอื่นๆ โดยทั่วไป การเริ่มอดอาหาร 12 ชั่วโมงถือว่าเป็นเรื่องปลอดภัย” ดร. ชินกล่าว “การหลีกเลี่ยงอาหาร 2-3 ชั่วโมงก่อนนอนก็เป็นไอเดียที่ดีสำหรับทุกคน และไม่จำเป็นต้องปรึกษาแพทย์ ถ้าเราล่าช้าในการกินอาหารเช้าแค่ชั่วโมงเดียว เราก็อาจจะได้เวลา 12 ชั่วโมงแล้ว

  • “เบาหวานเปียก” กับ “เบาหวานแห้ง” คืออะไร แตกต่างกันอย่างไร

    โรคเบาหวานมีหลายประเภท ซึ่งสามารถจำแนกได้จากสาเหตุและอาการที่ปรากฏ การแบ่งโรคเบาหวานออกเป็น “เบาหวานแห้ง” และ “เบาหวานเปียก” นั้นเป็นการจำแนกตามลักษณะของแผลที่เกิดขึ้น โดยทั่วไปแล้ว จะนิยามโรคทั้งสองชนิดได้ดังนี้

    เบาหวานเปียก และเบาหวานแห้ง คืออะไร

    เบาหวานเปียกคืออะไร

    เบาหวานเปียก คือโรคเบาหวานชนิดเรื้อรังที่สร้างความกังวลมากกว่าเบาหวานชนิดอื่น เนื่องจากผู้ป่วยมักมีบาดแผลเรื้อรังที่ไม่ยอมสมาน แผลเหล่านี้ดูเปียกชื้นและมีแนวโน้มที่จะลุกลามใหญ่ขึ้น ทำให้การรักษาเป็นไปอย่างยากลำบาก

    เบาหวานแห้งคืออะไร

    เบาหวานแห้ง คือ โรคเบาหวานชนิดหนึ่งที่เป็นเรื้อรัง โดยลักษณะเด่นคือ แผลที่เกิดขึ้นมักจะแห้งได้เอง แต่ความจริงแล้ว เบาหวานแห้งเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงของโรคเบาหวาน โดยเฉพาะเบาหวานชนิดที่ 1 ซึ่งเป็นโรคที่ตับอ่อนไม่สามารถสร้างฮอร์โมนอินซูลินได้ ทำให้ร่างกายไม่สามารถนำน้ำตาลกลูโคสไปใช้เป็นพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    วิธีดูแลตัวเองของผู้ป่วยเบาหวานเปียก เบาหวานแห้ง

    แนวทางการดูแลผู้ป่วยเบาหวานที่มีแผล

    1. ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด: ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ในการรับประทานยาหรือฉีดอินซูลิน
    2. ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม:
      • การรับประทานอาหาร: เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ควบคุมปริมาณคาร์โบไฮเดรต ไขมัน และน้ำตาล
      • การออกกำลังกาย: ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
      • การพักผ่อน: พักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อให้ร่างกายได้ฟื้นฟู
    3. ดูแลแผล:
      • รักษาความสะอาด: ทำความสะอาดแผลอย่างสม่ำเสมอ
      • ทำให้แผลแห้ง: ป้องกันไม่ให้แผลเปียกชื้น
      • ป้องกันการเกิดแผลซ้ำ: ระวังไม่ให้เกิดบาดแผลใหม่
    4. พบแพทย์เป็นประจำ:
      • ตรวจสุขภาพ: ตรวจสุขภาพตามนัดหมายเพื่อติดตามภาวะแทรกซ้อน
      • ปรึกษาปัญหา: หากมีอาการผิดปกติให้รีบปรึกษาแพทย์
      • ปรับยา: ปรับปริมาณยาหรืออินซูลินให้เหมาะสมตามคำแนะนำของแพทย์
    5. สังเกตอาการตนเอง:
      • บันทึกอาการ: จดบันทึกอาการที่เกิดขึ้น เช่น ขนาดของแผล การเปลี่ยนแปลงของแผล
      • ปรึกษาแพทย์: หากพบความผิดปกติให้รีบปรึกษาแพทย์
  • ชาย ชาตโยดม พูดทั้งน้ำตา! เผยปมในใจการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในชีวิต

    เปิดใจอย่างหมดเปลือก ชาย ชาตโยดม นักแสดงชื่อดังในรายการ WOODY FM หลั่งน้ำตา! เผยปมในใจถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในชีวิตครั้งแรก เมื่อความศรัทธาในการแสดงที่ทุ่มเทมาตลอด 10 กว่าปีเริ่มจางหายไป รู้สึกผิดหวังและเฟลกับตัวเอง จนเกิดความขัดแย้งระหว่างอาชีพกับความสุขในชีวิตครอบครัว? 

    สิ่งที่คุณทำมาด้านการแสดงในทุกรูปแบบ อยากจะรู้ว่าวันนี้คุณพอใจกับมันขนาดไหน ?

    ชาย ชาตโยดม : ถ้าเล่าไปจริงๆ แล้ว มันหลายช่วงชีวิตของการเป็นนักแสดงเลย คือกว่าชายจะกล้าเรียกตัวเองว่าเป็นนักแสดงจริงๆ ต้องผ่านการทำงานอยู่ในวงการมาไม่ต่ำกว่า 10 กว่าปี ถึงจะกล้าเรียกตัวเองว่าเป็นนักแสดง เพราะว่าผมให้คุณค่ากับคำนี้มากๆ ให้ความสำคัญกับคำนี้มาก เพราะว่าการเป็นนักแสดงมันคืออาชีพ คือทุกสิ่งทุกอย่างสำหรับชาย คือสิ่งที่ให้ชีวิต ให้ความเป็นอยู่ที่ดี ให้ชายดูแลตัวเองได้ ดูแลครอบครัวได้ และที่สำคัญไปกว่านั้นคือเขาเติมเต็มทุกอย่างในชีวิตของชาย อะไรที่มันเป็นห้วง เป็นความกลวงอยู่ข้างในจิตใจ เขาสามารถที่จะเติมเต็มตรงนั้นได้จนไม่อยากจะเชื่อว่าวันหนึ่งอาจจะได้มายืนอยู่ตรงนี้ และทำอาชีพนี้ มีโอกาสได้ทำตรงนี้ กว่าจะไปรู้สึกอย่างนั้นได้ก็คือทำงานอยู่ในวงการมาเป็น 10 กว่าปีแล้ว 

    แล้ววันนี้มีความสุขกับการแสดงไหม ?

    ชาย ชาตโยดม : ถ้าวันนี้เลยชายมีความก้ำกึ่งเกิดขึ้นในชีวิต หมายถึงว่าเราเคยมีความมั่นใจมากๆ Beyond a shadow of a doubt เลยว่านี่คือสิ่งที่ชายรักมากที่สุด มันคือทุกสิ่งทุกอย่างของชีวิต ทุ่มเททุกวินาทีของชีวิตให้กับสิ่งนี้ การแสดงคือสิ่งที่รักและศรัทธามากที่สุด หม่อมน้อยเคยถามชายว่า…ชอบการแสดงไหมรู้สึกยังไง? ชายตอบว่ารักมากเลย รักการแสดงมากๆ แต่ท่านบอกว่าความรักจริงๆ ไม่พอนะ ความรักมันยังมีความเห็นแก่ตัว ความอยากได้ อยากมี อยากเป็น แต่ถ้าคำว่าศรัทธาถ้าคุณศรัทธาในอะไรสักอย่าง คุณจะยกเขาขึ้นไว้เหนือกว่านั้นอีก คุณจะไม่ทำร้ายเขา คุณจะเชื่อในสิ่งที่ทำ และทำในสิ่งที่เราศรัทธาอย่างหมดจดจริงๆ มันมีอะไรที่เหนือกว่าความรักที่ทำให้ชายเข้าใจว่า อ๋อ! นี่แหละคือสิ่งที่เราทุ่มเททุกอย่างให้ชีวิตจริงๆ มันก็เลยเป็นเป้าหมายของใจอยู่ตลอดในตอนนั้นว่า ถ้าเรารัก เราศรัทธาในสิ่งที่เราทำจริงๆ เราจะไม่ทรยศต่อเขาเลย เราจะมุ่งมั่นตั้งใจทำอย่างเต็มที่ ไม่ทำร้ายเขา และทำให้ดีที่สุดเท่าที่เราทำได้ก็เลยทุ่มเทอยู่กับตรงนั้น มันเป็นสัจธรรมมากเลยว่าถ้าเราศรัทธาอะไรสักอย่างแล้วทุ่มเทกับตรงนั้นสิ่งที่ดีก็จะกลับมาหาเราแล้วมันก็เป็นไปตามนั้นมาตลอด จนกระทั่งวันหนึ่งอยู่ดีๆ ก็หมดรักเขา ซึ่งไม่เคยคิดว่าจะเกิดขึ้นเลย ชายวางเป้าชีวิตเอาไว้ว่าจะเป็นนักแสดง จะอยู่กับตรงนี้ไปจนหมดลมหายใจ แล้วอยู่ดีๆ วันหนึ่งก็ไม่เอาแล้ว ไม่อยากทำ ไม่อยากไป ไม่อยากเจอใคร ไม่อยากแม้แต่จะเอาบทขึ้นมาดูเลยด้วยซ้ำ ในจังหวะที่เกิดความรู้สึกนี้ผมก็รู้สึกเฟลกับตัวเองมากด้วยเหมือนกัน

    เฟลยังไง ?

    ชาย ชาตโยดม : ชายไม่สามารถที่จะเอาความรู้สึกออกจากตัวได้ ชายพูดอยู่ตลอด บอกทุกคนเลยว่าโอกาสที่คนๆ หนึ่งจะเข้ามาทำอาชีพตรงนี้ เป็นนักแสดงมันน้อยมากๆ เลยนะ เรานับได้เลย ว่าใครมีโอกาสได้เข้ามาตรงนี้ ไม่ใช่แค่นักแสดงไทยอย่างเดียวนะ นักแสดงทั่วโลกเลย มีอยู่แค่หยิบมือเดียวเท่านั้นในโลกนี้ที่มีโอกาสจะได้มายืนอยู่ตรงนี้ได้ทำแบบนี้ วันหนึ่งเป็นมหาเศรษฐี อีกวันหนึ่งมาเป็นยาจก มันโลดโผน มีอาชีพไหนที่จะมีโอกาสได้ทำแบบนี้อีก ไม่มีแล้ว เข้าไปอยู่ในโลกของความฝัน ได้ไปใช้ชีวิตอยู่ในนั้นผ่านตัวละคร คิดว่าเข้ามาตรงนี้ง่ายๆเหรอ เขาเลือกมาแล้วว่าคุณเป็นหนึ่งในนั้นที่จะมีโอกาสได้มาทำตรงนี้ คุณจะไม่ทำให้ดีที่สุดเหรอ จะไม่เอาโอกาสนี้มาสร้างอะไรที่มีคุณค่าขึ้นมาเหรอ แล้ววันหนึ่งชายไปเป็นคนๆนั้น แบบเมื่อไหร่จะถ่ายเสร็จสักที (หัวเราะ) 

    อะไรที่เป็นแรงกระตุ้นให้ต่อมนั้นมันขึ้นมา ?

    ชาย ชาตโยดม : อันนี้คือสิ่งที่ไม่กล้าพูดไม่กล้าบอกใครมาก่อน เพราะว่าอีกสิ่งหนึ่งที่เข้ามาแล้วทำให้ชีวิตชายเปลี่ยน แล้วความคิดเปลี่ยน คือสิ่งที่ชายรักมากที่สุดด้วยเหมือนกันคือครอบครัว (เสียงสั่นน้ำตาคลอ) ครอบครัวคือสิ่งที่ชายฝันมาตลอดชีวิต (ร้องไห้) 

    พอมีครอบครัวแล้ว ?

    ชาย ชาตโยดม : มันคือความสุข เห็นความสุขในอีกมิติหนึ่งที่เรารอคอยมาตลอดทั้งชีวิต ชายมั่นใจมาตลอดตั้งแต่เด็กๆ ก็คืออยากจะมีครอบครัว วางแผนไว้ว่า 20 กว่าจะแต่งงาน ไม่เกิน 25 จะมีลูกแล้ว แล้วพอถึงเวลามันไม่ได้เป็นไปตามนั้น มันมาเกิดขึ้นตอนเราอายุ 35 แล้ว ตอนที่ได้แต่งงานมีครอบครัวคือรู้สึกว่ามันดีจังเลยนี่คือสิ่งที่เรารอคอยมาตลอด เติมเต็มชีวิตเรามากเลย แล้วตอนที่มีลูกคือสิ่งที่เราฝันมาตลอดทั้งชีวิต แล้วในวันนั้นอยู่ดีๆ มันก็ Switch แบบไม่ทันตั้งตัวเลยคือชายไม่อยากเอาอะไรแล้ว ไม่อยากไปทำงาน ไม่อยากโดนพรากเวลาจากชีวิตตรงนี้ไป    

    เป็นช่วงก่อนละคร มาตาลดา ไหม ?

    ชาย ชาตโยดม : ก่อนครับ สักพักใหญ่ๆ เป็นช่วงที่ชายต่อสู้กับตัวเองหนักมาก เพราะว่าผมไม่อยากจะออกไปไหนเลย ไม่อยากจะโดนพรากสิ่งที่ผมรักตรงนี้ไป ลูกคือสิ่งที่มีค่าที่สุดสำหรับผม ไม่อยากพลาดแม้แต่วินาทีเดียวในการเติบโตของเขา การพัฒนา ก้าวแรก ทุกอย่างที่เป็นครั้งแรก ผมอยากจะอยู่ตรงนั้น ถ้ามีใครโทรมาขอคิววันนั้นคือชายโกรธแล้วอ่ะ ว่าทำไมต้องมีมันเป็นช่วงที่แย่มาก เพราะผมรู้ว่ามันเป็นหน้าที่ของเราอย่างหนึ่งด้วย พอมีความโกรธตรงนั้นขึ้นมาเลยรู้สึกว่าเกิดอะไรขึ้นกับชีวิต ในเมื่อก่อนหน้านี้สิ่งนี้คือทุกสิ่งทุกอย่างของผม มีความสุขที่สุดแล้วกับการไปอยู่ที่กองถ่าย มันคือสีสันสิ่งที่เติมเต็มในชีวิต มัน Switch ตัวเองกลับมาไม่ได้ มันหาทางที่จะมีทัศนคติที่ดีต่อสิ่งที่เราต้องทำไม่ได้แล้ว หายังไงก็หาไม่เจอ ผมอยู่อย่างนั้นเป็นปีๆ ลูกเกิดมาคนแรกผมไม่ทำอะไรเลย อยู่กับลูก 2 ปีเต็มๆ แบบที่ไม่ออกไปไหน ใจผมอยู่ตรงนั้นไปแล้ว แล้วก็ไม่ได้ไปมองอะไรรอบข้าง จนมารู้ตัวอีกทีในตอนที่เราเกิดความโกรธ แล้วทุกครั้งที่นั่งอยู่ในกองถ่ายก็จะรู้สึกว่าเสียเวลาจังเลยเมื่อไหร่จะเสร็จ พอเป็นแบบนั้นมีสติเมื่อไหร่ชายเกลียดตัวเองมากเลย เกลียดตัวเองที่คิดแบบนั้น ที่เราเป็นคนแบบนั้น เพราะผมต่อต้านมาตลอดกับคนที่มี Mindset แบบนี้กับการที่เข้ามาในวงการนี้ที่ผมบอกว่าผมรัก ผมศรัทธา ใครที่มีทัศนคติกับการแสดงผมจะต่อต้านสุดๆ เลย ในวันนั้นกลายเป็นผมเองที่กลายเป็นคนๆ นั้น 

    ถ้าวันนี้ไปออกกองถ่ายมันยังมีสะเก็ดอยู่บ้างไหม หรือมันยังเหมือนเดิม ?

    ชาย ชาตโยดม : ยังไม่สามารถกลับไปที่เดิมได้เลยนะ สารภาพเลยว่าตอนนี้ยังกลับไปตรงนั้นไม่ได้เลยด้วยซ้ำ แต่ว่ายังสู้กับตัวเองอยู่ ยังหาทางออกให้กับชีวิตอยู่ เพราะในช่วง 2-3 ปีที่อยู่กับตรงนั้นหนักเลยจริงๆ ก็ยังทำงานอยู่นะ ยังอยู่ในกองถ่าย ทำในขณะที่จิตใจไม่ปกติ ชายไม่รู้ว่าคนดูออกหรือเปล่า หลายครั้งรู้สึกว่าตัวเองกำลังเฟคอยู่ในขณะที่เป็นตัวละครต่างๆ ยังมีความรู้สึกเดาว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่ แบบไม่ได้จริงใจกับตัวละครนั้นอย่างที่เราอยากให้มันเป็นหรือควรจะทำ อย่างละครมาตาลดายังไม่รู้ว่า ชายสมควรที่จะได้รับความชื่นชมอะไรตรงนั้นหรือเปล่า (เสียงสั่นจะร้องไห้) 

    เชื่อว่าคอนเทนส์นี้ ถ้าเป็นผู้จัดที่อยากโทรไปหาคุณก็อาจจะมีสติมากขึ้น ?

    ชาย ชาตโยดม : ไม่ (หัวเราะ) ยังจ้างได้ นั่นคือความกังวลอีกอย่างหนึ่งที่อยู่ในใจ เพราะว่าด้วยความที่เราก็มีลูก เราไม่ได้อยากมี Mindset นี้ในการที่จะไปทำงาน พยายามที่จะกลับไปอยู่ตรงนั้นให้ได้ แต่ว่าอาชีพมันก็ต้องมีคือสิ่งที่หล่อเลี้ยงชีวิตเรา และเลี้ยงดูครอบครัวเราด้วย คือไม่ได้อยากอยากพัก อยากมีอาชีพเลี้ยงดูลูก ส่งลูกเรียนได้อย่างปลอดภัยถึงฝั่ง แต่เราโหยหาความรักความศรัทธาความทุ่มเทที่เราเคยมีให้กับอาชีพ ที่ไม่มีอะไรมาบั่นทอนตรงนั้นได้เลยจนกระทั่งเรารู้ว่ามันมี แต่สิ่งที่พาเรามาถึงจุดนี้ได้ ยังอยู่และทำงานได้ก็คือ คนเราไม่ได้ต้องรักและทุ่มเทกับสิ่งหนึ่งสิ่งใดอย่างเดียวไปตลอดทั้งชีวิต เพิ่งจะเริ่มเข้าใจว่าแพชชั่นก็คือสิ่งที่เราอยากจะทุ่มเทเวลากำลังกายกำลังใจให้กับเขาอย่างเต็มที่ในเวลานั้น แต่ถ้าวันหนึ่งเราจะ Move On ไปที่แพชชั่นอื่น ก็ไม่ใช่เรื่องผิด ซึ่งจริงๆแล้วเราสามารถที่จะมีแพชชั่นกับหลายๆสิ่งได้ แล้วแต่ว่าช่วงจังหวะนั้นเราทุ่มเทเวลากับอะไร แล้วก็พยายามที่จะบาลานซ์มันให้ได้แล้วกัน ถ้าจะต้องทำหลายๆอย่างพร้อมกันจะแบ่งเวลา แบ่งความทุ่มเทให้กับเขาได้มากน้อยแค่ไหน  แต่ที่พูดมาทั้งหมดไม่ได้บอกว่าตัวเองทำได้นะ จังหวะชีวิตเท่านั้นเอง ตอนนี้มันอาจจะไม่ได้งานเยอะจนไม่มีเวลาอยู่กับลูกก็เลยสบายใจหน่อย หรือว่าช่วงนี้ลูกเข้าเรียนแล้ว 2 คนมีเวลาที่จะไปทำงานได้อย่างเต็มที่ ทุ่มเทกับการทำงานได้มากขึ้น 

    วันนี้เหมือนเราได้รับรู้ความรู้สึกของคุณแบบหมดเปลือก และอยากเป็นกำลังใจให้ ?

    ชาย ชาตโยดม : ชายรู้สึกเลยว่าถ้าไม่ได้พูด ผมจะหลุดจากวังวนนั้นไม่ได้ คือไม่เคยพูดกับใครเลยเหมือนกันนะ ไม่เคยพูดเรื่องนี้อย่างจริงจัง อย่างมากสุดคือปรึกษากับวิกกี้อย่างเดียว ให้กำลังใจรับรู้ได้ แต่วันนี้เหมือนได้ปลดปล่อย รู้สึกว่ามันปลดล็อกจริงๆ ว่าเรารู้สึกแบบนี้ได้นะ มันรู้สึกผิดมาตลอด ดีใจที่ได้พูด (ยิ้ม) 

    สามารถติดตาม Woody FM ได้ที่ช่องทาง Podcast : WOODY FM , Facebook: Woody, Youtube: Woody ทุกวันพุธ เวลา 19.00 น.