Blog

  • KUBET – หวยลาววันนี้ 10 กุมภาพันธ์ 2568 ผลหวยลาววันนี้ ออกอะไร

    ลุ้นสด หวยลาววันนี้ 10/02/68 ถ่ายทอดสดหวยลาว หวยลาวล่าสุด หวยลาวพัฒนา 10 กุมภาพันธ์ 2568 หวยลาวย้อนหลัง หวยลาว 6 ตัว วันนี้ออกอะไร งวด 10 กุมภาพันธ์ 2568 Laolottery หวยลาว ออกรางวัลทุก วันจันทร์ วันพุธ และ วันศุกร์

    ตรวจหวยลาวย้อนหลัง คลิกที่นี่

    รายงานผลหวยลาว 10 กุมภาพันธ์ 2568 (10/02/68) ผลหวยลาว 6 ตัวออกรางวัลดังนี้ 

    ตรวจหวยลาว งวดประจำวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2568

    เลข 6 ตัว : 588774
    เลข 5 ตัว : 88774
    เลข 4 ตัว : 8774
    เลข 3 ตัว : 774
    เลข 2 ตัว : 74

    เลขนามสัตว์

    • 14 ແມວບ້ານ แมวบ้าน
    • 24 ກົບ กบ
    • 33 ແມງມຸມ แมงมุม
    • 34 ກວາງ กวาง

    ผลสลากพัฒนา 5/45

    • 02 / 30 / 31 / 44 / 10 /

    รายละเอียดผลหวย

    หวยลาว 10 ก.พ. 68หวยลาว 10 ก.พ. 68

    เงินรางวัล

    • เลข 4 ตัว ถ้าถูกจะได้เงินรางวัลเท่ากับ จำนวนที่ซื้อคูณด้วย 6,000 ตัวอย่างเช่น ซื้อ 1,000 กีบ จะได้ 6,000,000 กีบ
    • เลข 3 ตัว ถ้าถูกจะได้เงินรางวัลเท่ากับ จำนวนที่ซื้อคูณด้วย 500 ตัวอย่างเช่น ซื้อ 1,000 กีบ จะได้ 500,000 กีบ
    • เลข 2 ตัว ถ้าถูกจะได้เงินรางวัลเท่ากับ จำนวนที่ซื้อคูณด้วย 60 ตัวอย่างเช่น ซื้อ 1,000 กีบ จะได้ 60,000 กีบ
  • KUBET – ปรับเงินเดือนข้าราชการ 2568 ดูฐานเงินเดือนข้าราชการใหม่ ได้ที่นี่

    ปรับเงินเดือนข้าราชการ 2568 เช็กฐานเงินเดือนข้าราชการใหม่ ได้ที่นี่

    อัปเดตล่าสุด ฐานเงินเดือนข้าราชการ 2568 มีการปรับเพิ่มขึ้นสำหรับข้าราชการทุกระดับวุฒิการศึกษา ตั้งแต่ ปวช. – ปวส. – ปริญญาตรี – ปริญญาโท – ปริญญาเอก โดยข้าราชการบรรจุใหม่ จะได้รับเงินเดือนตามอัตราที่เพิ่มขึ้น ตั้งแต่ เดือนพฤษภาคม 2568 เป็นต้นไป

    จากกรณี มติที่ประชุม ครม. เมื่อวันที่ 31 ต.ค. 66 เห็นชอบแนวทางการปรับเงินเดือนข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ของรัฐตามที่ ก.พ. เสนอ แบ่งได้ดังนี้

    • การปรับเงินเดือนของข้าราชการครูและเจ้าหน้าที่ของรัฐ
    • การปรับเงินเดือนเพื่อการครองชีพชั่วคราว

    การปรับเงินเดือนข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ของรัฐ

    การปรับเงินเดือนข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ของรัฐ บังคับใช้เมื่อวันที่ 1 พ.ค. 67 และ 1 พ.ค. 68 แบ่งเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่

    กลุ่มที่ 1 : การปรับอัตราเงินเดือนแรกบรรจุ

    • ปรับอัตราเงินเดือนแรกบรรจุเพิ่ม ปีละ 10% ในปี 2567 และ 2568
    • ปี 2568 ผู้ที่บรรจุด้วยวุฒิปริญญาตรี จะได้รับเงินเดือนไม่น้อยกว่า 18,000 บาท
    • ปรับเงินเดือนแรกบรรจุของทุกวุฒิการศึกษาให้สอดคล้องกัน

    กลุ่มที่ 2 : การปรับเงินชดเชยและเงินเพิ่มเพื่อการครองชีพชั่วคราว

    • ชดเชยผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการปรับเงินเดือนแรกบรรจุ
    • ปรับเงินเพิ่มเพื่อการครองชีพชั่วคราว ดำเนินการโดยกระทรวงการคลัง

    เงินเดือนข้าราชการ 2568 ได้เงินวันไหน?

    • เริ่มปรับฐานเงินเดือนตั้งแต่ พฤษภาคม 2568

    ปรับเงินเดือนข้าราชการบรรจุใหม่ ในปีงบประมาณ 2568

    โดยได้รับเงิน 18,000 บาทต่อเดือน แยกเป็นรายกลุ่มตามวุฒิการศึกษา ดังนี้

    วุฒิการศึกษา ปวช.

    • ปีงบประมาณ 2567 อัตรา 10,340-11,380 บาท
    • ปีงบประมาณ 2568 เพิ่มเป็น 11,380-12,520 บาท

    วุฒิการศึกษา ปวส.

    • ปีงบประมาณ 2567 อัตรา 12,650-13,920 บาท
    • ปีงบประมาณ 2568 เพิ่มเป็น 13,920-15,320 บาท

    วุฒิการศึกษาปริญญาตรี

    • ปีงบประมาณ 2567 อัตรา 16,500-18,150 บาท
    • ปีงบประมาณ 2568 เพิ่มเป็น 18,150-19,970 บาท

    วุฒิการศึกษาปริญญาโท

    • ปีงบประมาณ 2567 อัตรา 19,250-21,180 บาท
    • ปีงบประมาณ 2568 เพิ่มเป็น 21,180-23,300 บาท

    วุฒิการศึกษาปริญญาเอก

    • ปีงบประมาณ 2567 อัตรา 23,100-25,410 บาท
    • ปีงบประมาณ 2568 เพิ่มเป็น 25,410-27,960 บาท

    สรุป

    การปรับเงินเดือนข้าราชการ เป็นไปตามมติ ครม. โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 1 พฤษภาคม 2568 ซึ่งข้าราชการบรรจุใหม่จะได้รับอัตราเงินเดือนที่สูงขึ้น โดยเฉพาะผู้ที่บรรจุด้วยวุฒิปริญญาตรี จะได้รับเงินไม่น้อยกว่า 18,000 บาทต่อเดือน และมีการปรับอัตราเงินเดือนของทุกวุฒิการศึกษาให้สอดคล้องกัน

    อ่านเพิ่มเติม

  • KUBET – อดีตผู้ประกาศข่าว “ไก่ มีสุข” ชีวิตหลังลาออก เปิดคาเฟ่ สร้างโรงงานอบขนม บรรยากาศสวยมาก

    ไก่ มีสุข อดีตผู้ประกาศข่าวช่อง 3 เปิดร้านคาเฟ่ สร้างโรงงานผลิตขนม บรรยากาศน่ารักมาก

    อดีตผู้ประกาศข่าวคนดังแห่งช่อง 3 ไก่ มีสุข หลังจากลาออกจากบทบาทการเป็นพิธีกรเป็นผู้ประกาศ เธอกลับมาอยู่ที่บ้านเกิดจังหวัดพิษณุโลก พร้อมกับสร้างอาณาจักรมีสุขแลนด์ บ้านกลางสวนที่โอบล้อมไปด้วยธรรมชาติ วิวสวยงามองเห็นภูเขา ต้องบอกว่าเป็นชีวิตที่หลายคนใฝ่ฝันมาก วิถีเรียบง่ายแบบสโลว์ไลฟ์ 

    นอกจากนี้ ไก่ มีสุข ยังสร้างธุรกิจเล็กๆ ที่เกิดจากความชอบของตนเอง ด้วยการทำเบเกอรี่ ต้องบอกว่ารสชาติอร่อยถูกใจหลายคนมาก จากความชอบความตั้งใจจนกลายมาเป็นร้านคาเฟ่และกำลังจะทำโรงงานอบขนมส่งทั่วราชอาณาจักรแล้ว บอกเลยว่าไม่ธรรมดาจริงๆ 

    ทั้งนี้ ไก่ มีสุข ได้เขียนเรื่องราวดีๆ แห่งความภาคภูมิใจไว้ว่า “มดน้อยๆ ค่อยๆ ทำรังใหม่…เรากำลังจัดแต่งที่นี่เป็น ฮับ เป็นโรงงานเล็กๆ เพื่อจด อย.ไว้อบขนมส่งขายทั่วราชอาณาจักรแล้วนะคะ และหน้าร้านก็เป็นคาเฟ่ขนาดกลางพร้อมเสิร์ฟ ขนมอบ (ที่พวกเราผลิตเอง) และกาแฟหอมอร่อย คุณภาพคับแก้วเหมือนเดิม แถมด้วยขนมเรา อบ สด ใหม่ทุกวันนะคะ” 

    “เรา สาม คน พี่น้องรวม ตัวกันแล้วให้แข็งแกร่งและกว้างขวางมากขึ้น หน้ากลม-มีสุขแลนด์-กี่เข่ง”

    เรียกว่าประสบความสำเร็จอย่างงดงาม ยอดออเดอร์สุดปังมากๆ ปรบมือรัวๆ เลย

  • KUBET – เปิดประวัติ “บอดี้การ์ดหญิง” นายกอิ๊งค์ ขณะเยือนจีน ทั้งสวย ทั้งเก่ง ทำหลุดโฟกัส

    “บอดี้การ์ดสาวสวยที่สุดในจีน” กลายเป็นกระแสโด่งดังจากการคุ้มครอง “นายกอิ๊งค์” ขณะมาเยือนจีน ประวัติไม่ธรรมดา ทั้งสวย ทั้งเก๋ง ทำชาวเน็ตหลุดโฟกัส

    เมื่อเร็ว ๆ นี้ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีไทย ได้เดินทางเยือนจีน โดยมีบอดี้การ์ดสาวผู้ได้รับฉายาว่า “บอดี้การ์ดสาวสวยที่สุดในจีน” อย่าง เหยียนเยว่เซี่ย คอยคุ้มกันอย่างใกล้ชิด

    ตลอดการปรากฏตัวในงานต่าง ๆ ชาวเน็ตจำนวนมากชื่นชมเธอว่า “สง่างามและทรงพลัง”, “สายตาเฉียบคม ทั้งสวยและเท่”, “ดวงตากลมโตงดงามมาก” และ “เดี๋ยวนี้บอดี้การ์ดสวยขนาดนี้เลยหรือ”

    ประวัติ เหยียนเยว่เซี่ย เจ้าของฉายา “บอดี้การ์ดหญิงที่สวยที่สุดของจีน” 

    เหยียนเยว่เซี่ย เกิดในครอบครัวศิลปะการต่อสู้ที่มณฑลเหอหนาน ตั้งแต่วัยเยาว์เธอได้แสดงความสนใจอย่างลึกซึ้งต่อวิทยายุทธ์และการต่อสู้ ด้วยความมุ่งมั่นและความพยายามอย่างไม่ย่อท้อ เธอได้ฝึกฝนตนเองจนเชี่ยวชาญในด้านศิลปะการต่อสู้ โดยเคยเข้าศึกษาเพิ่มเติมที่วัดเส้าหลินจนมีฝีมือเป็นเลิศ

    ด้วยผลการเรียนอันยอดเยี่ยม เธอสอบเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยกีฬาแห่งกรุงปักกิ่งในสาขาวิชาศิลปะการต่อสู้ และเคยเอาชนะนักคาราเต้แชมป์จากญี่ปุ่นถึง 5 คนจนเป็นที่เลื่องลือ เหล่าผู้คนในวงการต่างยกย่องเธอว่าเป็น “ฮัวมู่หลานแห่งเหอหนาน”

    เมื่อเติบโตขึ้น เหยียนเยว่เซี่ยได้เข้ารับราชการทหาร ซึ่งทำให้เธอเชี่ยวชาญทักษะเพิ่มเติมทั้งการยิงปืน การต่อสู้ด้วยมือเปล่า การป้องกันและหลีกเลี่ยงการถูกติดตาม ทำให้เธอก้าวสู่การเป็นนักต่อสู้ครบเครื่อง

    หลังปลดประจำการ เธอได้รับหน้าที่เป็นบอดี้การ์ดในจงหนานไห่ และในปี 2023 ระหว่างการแข่งขันเอเชียนเกมส์ที่เมืองหางโจว เหยียนเยว่เซี่ยได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติภารกิจสำคัญในการคุ้มกันสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งของซีเรีย อัสมา อัล-อัสซาด ซึ่งในครั้งนั้นใบหน้าที่สง่างามและเปี่ยมด้วยความมุ่งมั่นของเธอได้รับความสนใจอย่างล้นหลาม

    การที่นายกรัฐมนตรีแพทองธารเลือกให้เหยียนเยว่เซี่ยทำหน้าที่เป็นบอดี้การ์ดในภารกิจเยือนจีนครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการแสดงความไว้วางใจในความสามารถของเธอแล้ว ยังเป็นการแสดงให้โลกเห็นถึงความแข็งแกร่งและความสามารถของกำลังรักษาความปลอดภัยของจีนอีกด้วย

  • KUBET – สาเหตุเสียชีวิต “เชฟหมี ครัวกากๆ” อ.ตุล คมกฤช อุ่ยเต็กเค่ง จากไปกะทันหันด้วยวัย 43 ปี

    เปิดสาเหตุเสียชีวิต “เชฟหมี ครัวกากๆ” อาจารย์ตุล ผศ. คมกฤช อุ่ยเต็กเค่ง จากไปกะทันหันด้วยวัย 43 ปี 

    จากกรณีการเสียชีวิตของ ผศ. คมกฤช อุ่ยเต็กเค่ง อาจารย์คณะอักษรศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร หรือที่รู้จักในชื่อ “เชฟหมี ครัวกากๆ” ยูทูบเบอร์ยุคแรกๆ ของไทย จากการทำอาหารที่มีลีลาเฉพาะตัว ใช้วัตถุดิบบ้านๆ ที่หาได้ในครัวทำอาหาร เรียกได้ว่า มีอะไรก็ใส่ๆ ไป

    นายวิจักขณ์ พานิช ได้เพิ่มเติมข้อมูลในเฟซบุ๊ก Vichak Panich ระบุสาเหตุการเสียชีวิตว่า ผศ. คมกฤช อุ่ยเต็กเค่ง หรือ อ.ตุล จากโลกนี้ไปอย่างสงบเมื่อ 20.51 ของวันนี้ (8 กุมภาพันธ์ 2568) ในวัย 43 ปี 4 เดือน ด้วยภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน

    ประวัติอาจารย์ตุล ผศ. คมกฤช อุ่ยเต็กเค่ง จบการศึกษา ศิลปศาสตรบัณฑิต (การสื่อสารมวลชน) จากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และอักษรศาสตร์มหาบัณฑิต (ปรัชญา) จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

    มีความเชี่ยวชาญในด้านปรัชญาอินเดีย ศาสนาฮินดู ศาสนาในสังคมปัจจุบัน และปรัชญาอไทฺวตเวทานตะ มีผลงานวิชาการ อาทิ วิทยานิพนธ์เรื่อง “มายา กับสถานภาพของความดี – ชั่วในปรัชญาเวทานตะของศังกราจารย์” บทความ “พระพิฆเนศวร์ : การบูชาตามหลักศาสนาฮินดู” บทความ “Ganesh Chaturthi : คเณศจตุรถี วันเกิดพระคเณศ” และ “ความเข้าใจเรื่องโยคะ” เป็นต้น และยังเคยเป็น สุดยอดแฟนพันธุ์แท้ เรื่อง ตำนานเทพเจ้า อีกด้วย

    การจากไปของ อ.ตุล คมกฤช อุ่ยเต็กเค่ง นับเป็นการสูญเสียบุคลากรสำคัญของวงการวิชาการด้านศาสนาของไทยเป็นอย่างยิ่ง

  • KUBET – เงินดิจิทัลเฟส 3 แจก 10,000 บาท ใช้สิทธิ์ครั้งแรกได้ที่ไหน

    เงินดิจิทัลเฟส 3 คลังเตือนคนที่ได้รับสิทธิ์ 10,000 บาท ดิจิทัลวอลเล็ต ต้องใช้จ่ายในพื้นที่จำกัดเท่านั้น

    นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ระบุว่า เงินดิจิทัลเฟส 3 จะเป็นการแจกเงินผ่านกระเป๋าอิเล็กทรอนิกส์ ไม่สามารถถอนออกมาเป็นเงินสดได้ แตกต่างจากเงินดิจิทัลเฟส 1 และเฟส 2

    ซึ่งเงินดิจิทัลเฟส 3 จะกำหนดเงื่อนไขใช้จ่ายได้กับร้านที่มีการลงทะเบียนไว้กับกระทรวงการคลัง และการใช้จ่ายเงินดิจิทัลเฟส 3 รอบแรกจะต้องอยู่ภายในเขตอำเภอตามบัตรประชาชนของแต่ละคนเท่านั้น

    คุณสมบัติผู้มีสิทธิ์รับเงินดิจิทัลเฟส 3

    • มีสัญชาติไทย
    • อายุ 16-60 ปี
    • รายได้ไม่เกิน 840,000 บาทต่อปี (สำหรับปีภาษี 2566)
    • มีเงินฝากรวมไม่เกิน 500,000 บาท (ณ 31 มีนาคม 2567)
    • ไม่เป็นผู้ต้องโทษจำคุก
    • ไม่เคยถูกระงับสิทธิ์หรือถูกเรียกเงินคืนในโครงการของรัฐ
    • ไม่เป็นผู้ฝ่าฝืนเงื่อนไขของมาตรการ/โครงการอื่นๆ ของรัฐ

    ผู้มีสิทธิ์รับเงินดิจิทัลเฟส 3 ต้องเตรียมตัวรับเงินผ่านแอปฯ ทางรัฐ

    • ติดตั้งแอปพลิเคชันทางรัฐ
    • เตรียมบัตรประชาชน
    • ภาพถ่ายปัจจุบัน (พื้นหลังสีขาว)
    • เบอร์โทรศัพท์และอีเมลที่ใช้งานได้
    • เตรียมพื้นที่มือถืออย่างน้อย 100 MB

    การใช้จ่ายเงินดิจิทัลเฟส 3

    • ยืนยันใช้ผ่านระบบดิจิทัลวอลเล็ตเท่านั้น
    • ระบบอยู่ระหว่างการทดสอบให้มีประสิทธิภาพสูงสุด

    อ่านเพิ่มเติม

  • KUBET – ข่าวช็อก..อ.ตุล คมกฤช อุ่ยเต็กเค่ง หรือ เชฟหมี ครัวกากๆ เสียชีวิตแล้ว

    ข่าวช็อก..สิ้น เชฟหมี ครัวกากๆ หรือ อ.ตุล คมกฤช อุ่ยเต็กเค่ง เพิ่งเปิดร้านอาหารใหม่เมื่อไม่นาน

    นับเป็นข่าวช็อกทั้งโซเชียล และเป็นความสูญเสียครั้งใหญ่ในแวดวงนักวิชาการ รวมทั้งแวดวงอาหาร หลัง นายวิจักขณ์ พานิช นักวิชาการด้านศาสนา เผยแพร่ข้อความผ่านเฟซบุ๊กแจ้งข่าวการเสียชีวิตของ ผศ. คมกฤช อุ่ยเต็กเค่ง อาจารย์คณะอักษรศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ระบุว่า

    “ตุล – อ.ตุล คมกฤช อุ่ยเต็กเค่ง

    ผู้เป็นที่รักของทุกคนจากไปอย่างสงบ เมื่อ 20.51 ของวันนี้ (8 กุมภาพันธ์ 2568)

    ญาติจะนำศพไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิดที่ จ.ระนอง รายละเอียดจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง

    สิ่งที่ดีที่สุดที่ทุกท่านสามารถทำได้เมื่อได้รับทราบข่าวนี้ คือ ร่วมภาวนาส่ง อ.ตุล จากที่ใดก็ได้ ร่วมส่งกัลยาณมิตรอันประเสริฐสู่ดินแดนสุขาวดีร่วมกัน”

    สำหรับ อ.ตุล ผศ.คมกฤช โด่งดังเป็นที่รู้จักในชื่อ “เชฟหมี ครัวกากๆ” จากการทำคลิปเผยแพร่ทางช่องยูทูป ในรายการ ‘ครัวกากๆ’ ด้วยลีลาเฉพาะตัว ก่อนที่จะทำให้แฟนๆ ที่ติดตาม อึ้งภายหลัง เพราะมารู้ว่า อ.ตุล แท้จริงเป็นอาจารย์ และเป็นนักวิชาการ ที่มีผลงานวิชาการที่มีชื่อเสียง อาทิ ผี พราหมณ์ พุทธ ในศาสนาไทย รวมถึงเขียนคอลัมน์ประจำในนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ ในคอลัมน์ ผี พราหมณ์ พุทธ

    ที่น่าใจหายยิ่งกว่านั้น คือ อ.ตุล เพิ่งจะเปิดกิจการร้านอาหาร “ครัวระนอง” ไปไม่เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ย่านบางขุนนนท์

     

  • KUBET – “ฟลามินี” แข้งรวยสุดอันดับ 2 ของโลก “CR7, เมสซี, เบ็คแฮม” เอามารวมกันยังเทียบไม่ติด!

    ธุรกิจฟุตบอลเฟื่องฟูมานานหลายทศวรรษ ถือเป็นกีฬาที่ได้รับความนิยมและมีผู้เล่นมากที่สุดในโลก มีการลงทุนมากมายจนเติบโตอย่างต่อเนื่อง และการยกระดับของซาอุดี โปร ลีก ในช่วง 2-3 ปีหลัง ที่พร้อมทุ่มค่าเหนื่อยให้ผู้เล่นมากขึ้นกว่าเดิม ยิ่งทำให้วงการลูกหนังโลกสั่นสะเทือนขึ้นไปอีก

    อย่างไรก็ตาม สำหรับนักฟุตบอลแล้ว ยังมีขุมทรัพย์อีกมากมายที่ได้มานอกสนาม หลายคนได้ใช้ความสามารถด้านกีฬามาช่วยตัดสินใจทางธุรกิจที่ชาญฉลาด ในปัจจุบันนักฟุตบอลจำนวนไม่น้อยที่ผันตัวมาเป็น นักธุรกิจ, ผู้ประกอบการ หลังจากที่พวกเขาเลิกเล่น จนเรียกได้ว่า การทำเงินไม่ได้จบลงตอนที่แขวนสตั๊ดเสมอไป
    gettyimages-500064120ชื่อของ มาติเยอ ฟลามินี อดีตกองกลางทีมชาติฝรั่งเศส ถูกยกมาพูดถึงอีกครั้งแม้เจ้าตัวจะแขวนสตั๊ดไปตั้งแต่ 6 ปีที่แล้ว แต่ปัจจุบันในวัยย่าง 41 ปี เขาได้ชื่อว่าเป็นนักฟุตบอลที่รวยที่สุดอันดับ 2 ของโลก มีทรัพย์สินมากกว่า คริสเตียโน โรนัลโด และ ลิโอเนล เมสซี หรือแม้แต่ เดวิด เบ็คแฮม เอามากองรวมกันเสียอีก!

    ในฐานะนักฟุตบอล ฟลามินี ก็ถือเป็นมิดฟิลด์ชื่อดังคนนึงของวงการ เมื่อเคยสังกัดทีมดังอย่าง โอลิมปิก มาร์กเซย, อาร์เซนอล, เอซี มิลาน รวมถึงติดทีมชาติฝรั่งเศสอีก 3 นัด แต่ค่าเหนื่อยตอนค้าแข้งนั้นเทียบไม่ได้เลยแม้แต่เศษเสี้ยวกับเงินที่เขาหาได้จากการทำธุรกิจของเขา
    gettyimages-1347969802-594x59น้อยคนจะรู้ว่า ฟลามินี คือผู้ก่อตั้งร่วมและซีอีโอของบริษัท GF Biochemicals ซึ่งเป็นบริษัทแรกในโลกที่สามารถผลิต กรดเลวูลินิก (levulinic acid) สารทดแทนปิโตรเลียมจากชีวภาพ ซึ่งเป็นทางเลือกที่ยั่งยืน สารชนิดนี้สามารถใช้ทดแทนเชื้อเพลิงฟอสซิลในผลิตภัณฑ์ เช่น พลาสติกและผงซักฟอกได้ ซึ่งบริษัทของเขาถือเป็นเจ้าตลาดในแวดวงอุตสาหกรรมนี้และสามารถทำกำไรได้มหาศาลทุกปี

    ตามรายงานของ esquire ระบุว่า ฟลามินี มีเงินสดและทรัพย์สินอยู่ที่ 21,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 7.4 แสนล้านบาท ร่ำรวยเป็นอันดับที่ 2 ของโลกในแวดวงนักฟุตบอล (รวมหมดทั้งที่ยังเล่นอยู่และเลิกไปแล้ว) เป็นรองเพียงแค่อันดับ 1 อย่าง เจ้าชายฟาอิก โบลเกียห์ เชื้อพระวงศ์ชาวบรูไน ที่ปัจจุบันเล่นให้กับ ราชบุรี เอฟซี ที่มีทรัพย์สินอยู่ที่ 31,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1.05 ล้านล้านบาท
    mathieuflamini_1738983506299ส่วนอันดับ 3-5 นั้น ได้แก่ คริสเตียโน โรนัลโด 780 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 26,400 ล้านบาท), เดวิด เบ็คแฮม 630 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 21,400 ล้านบาท) และ ลิโอเนล เมสซี 625 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 21,000 ล้านบาท)

    “สมัยเด็ก ผมมีความหลงใหล 2 อย่าง คือ ฟุตบอล และ ธรรมชาติ ผมเกิดและเติบโตในเมืองมาร์กเซยที่อยู่ติดกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียน”

    “น้อยคนจะรู้ว่า ผมตระหนักถึงปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เกี่ยวข้องกับพลาสติกในมหาสมุทรและมลพิษทางเคมีตั้งแต่ยังเด็กมากๆ” ฟลามินี กล่าว

  • KUBET – ชายแค่เจ็บคอ ช็อกกลายเป็น “มะเร็ง” ระยะสุดท้าย โกรธจัดโยน “2 ต้นเหตุ” ในครัวทิ้ง!!!

    ชายคิดว่าแค่ปวดคอเพราะพูดเยอะ ไปหาหมอถึงกับช็อก ตรวจเจอมะเร็งกระเพาะระยะสุดท้าย ต้นเหตุคืออาหาร 2 อย่างที่อยู่ในครัว

    ชายชื่อ “จาง” อายุ 63 ปี จากไต้หวัน มีอาการเจ็บคอ เจ้าตัวคาดว่าน่าจะมาจากการพูดเยอะตามอาชีพของเขา หรือจากอากาศที่เย็นลง แต่เมื่ออาการเริ่มรุนแรงขึ้นจนทำให้เขากินอาหารลำบากและน้ำหนักลดมาก เขาจึงตัดสินใจไปหาหมอ

    ในตอนแรกเขาไปพบแพทย์ที่แผนกหูคอจมูก แต่แพทย์สงสัยและส่งต่อเขาไปที่แผนกทางเดินอาหาร  หลังจากตรวจสอบจึงพบว่าอาการปวดคอที่เขาคิดว่าเป็นผลจากการพูดเยอะ แท้จริงกลายเป็นอาการของมะเร็งกระเพาะอาหารระยะสุดท้าย ที่มีการแพร่กระจายไปหลายส่วนแล้ว

    เมื่อได้รับข่าวร้าย เขาตกใจมากจนไม่อยากเชื่อว่าการวินิจฉัยของแพทย์จะถูกต้อง จนกระทั่งได้ฟังคำอธิบายอย่างละเอียดเขาถึงได้ยอมรับ และกลับบ้านโยน “เกลือและผักดอง” ทิ้งจากห้องครัวทันที เนื่องจากอาหารเหล่านี้เป็นสาเหตุของโรคร้ายที่กำลังเผชิญ

    แพทย์อธิบายว่า การกินเกลือและผักดองมากเกินไป เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดมะเร็งกระเพาะอาหาร โดยการรับประทานเกลือในปริมาณมาก จะทำให้เกิดการระคายเคืองในกระเพาะอาหาร ซึ่งกระตุ้นให้เกิดการอักเสบและอาจกลายเป็นมะเร็งได้นอกจากนี้ การรับประทานผักดองที่ยังไม่หมักอย่างเหมาะสม ก็ทำให้เกิดสารเคมีที่ก่อมะเร็งที่เรียกว่า “ไนโตรซามีน”

    ดังนั้น เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดมะเร็งกระเพาะอาหาร ควรระวังอาการต่างๆ เช่น เจ็บท้องส่วนบน คลื่นไส้ น้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ ท้องอืด การถ่ายอุจจาระเป็นสีดำ มีกลิ่นปากผิดปกติ หากพบอาการเหล่านี้ ควรไปพบหมอเพื่อการตรวจสอบทันที

  • KUBET – สาวอายุไม่ถึง 30 ป่วยมะเร็ง ผลตรวจในร่างกายเต็มไปด้วย “พลาสติก” สะสมจากการใช้ชีวิต

    สาวอายุไม่ถึง 30 ป่วยมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก ผลตรวจในร่างกายมีแต่ “ไมโครพลาสติก” จากการใช้ชีวิต

    ดร.หลิว โปเริน (Liu Boren) เป็นแพทย์ด้านโภชนาการจากไต้หวัน เตือนว่า มีสิ่งของรอบตัวเราจำนวนมากที่อาจปล่อยสารพลาสติกและไมโครพลาสติกออกมาเมื่อใช้งาน โดยเฉพาะในกระบวนการรับประทานและปรุงอาหาร เขายกตัวอย่างกรณีผู้ป่วยหญิงวัยเกือบ 30 ปีที่ตรวจพบมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก ซึ่งสาเหตุหนึ่งมาจากพฤติกรรมการใช้ภาชนะที่ปล่อยไมโครพลาสติกและสารพลาสติกเข้าสู่ร่างกาย ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่พบได้ทั่วไป

    หญิงสาวรายนี้มาพบแพทย์เนื่องจากมีอาการปวดท้องเรื้อรังและประจำเดือนผิดปกติ เมื่อตรวจวิเคราะห์ ทีมแพทย์พบระดับไมโครพลาสติกและสารพลาสติกในร่างกายสูงผิดปกติ ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เธอเป็นมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูกระยะท้าย ขณะที่กำลังวางแผนแต่งงาน

    พฤติกรรมเสี่ยงของผู้ป่วย เมื่อสอบถามรายละเอียด พบว่าเธอมักใช้ภาชนะที่ปล่อยสารอันตรายออกมา เช่น

    • ใส่ซุปและก๋วยเตี๋ยวร้อนในถุงพลาสติกและกล่องโฟม
    • ใส่อาหารกลางวันในกล่องพลาสติกใช้แล้วทิ้งคุณภาพต่ำ
    • ดื่มกาแฟร้อนจากแก้วพลาสติกทุกวัน
    • สัมผัสกับกระดาษใบเสร็จรับเงินที่มีสารพลาสติกเป็นประจำจากงานที่ทำ

    ไมโครพลาสติกและสารพลาสติกก่อมะเร็งได้อย่างไร?

    ดร.หลิว อธิบายว่า

    • ไมโครพลาสติก (Microplastic) คือเศษพลาสติกขนาดเล็กไม่เกิน 5 มม. ที่เกิดจากการแตกตัวของผลิตภัณฑ์พลาสติก เช่น ถุงพลาสติก ขวดน้ำ และกล่องโฟม
    • สารพลาสติก (Plasticizers) เช่น BPA (Bisphenol A) และ Phthalates เป็นสารเติมแต่งที่ช่วยให้พลาสติกมีความยืดหยุ่นและทนทาน พบได้ในถุงพลาสติก ขวดน้ำ กล่องโฟม และกระดาษใบเสร็จรับเงิน

    ทั้งสองสารนี้สามารถเข้าสู่ร่างกายผ่านอาหาร น้ำดื่ม การสูดดม หรือดูดซึมทางผิวหนัง โดยเฉพาะเมื่อใช้ภาชนะที่มีไมโครพลาสติกและสารพลาสติกใส่อาหารร้อน อาหารที่มีไขมัน หรือมีความเป็นกรดสูง เช่น น้ำมะนาวและน้ำส้มสายชู

    กระบวนการก่อมะเร็ง

    • BPA และ Phthalates รบกวนฮอร์โมน ส่งเสริมการเจริญเติบโตผิดปกติของเซลล์ และลดประสิทธิภาพการขับสารพิษของตับ
    • ไมโครพลาสติก สะสมในเลือด ตับ ไต ปอด และสมอง ก่อให้เกิดการอักเสบเรื้อรัง และนำพาสารพิษเข้าสู่ร่างกาย
    • ผลกระทบโดยตรง กับมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก BPA กระตุ้นฮอร์โมนเอสโตรเจน ทำให้เนื้อเยื่อมดลูกเจริญผิดปกติ ไมโครพลาสติกก่อให้เกิดการอักเสบเรื้อรังและทำให้ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอลง

    นอกจากนี้ ไมโครพลาสติกและสารพลาสติกยังเกี่ยวข้องกับปัญหาสุขภาพอื่น ๆ เช่น

    • ภาวะมีบุตรยากและความผิดปกติของทารกในครรภ์
    • ภูมิคุ้มกันอ่อนแอและเพิ่มการอักเสบในร่างกาย
    • โรคไต ตับ และระบบประสาท
    • ปัญหาระบบทางเดินหายใจและโรคหัวใจ
    • ความผิดปกติของระบบเผาผลาญ เช่น โรคอ้วนและเบาหวาน

    วิธีลดความเสี่ยงจากไมโครพลาสติกและสารพลาสติก

    ดร.หลิว แนะนำแนวทางป้องกันดังนี้

    • ลดการใช้พลาสติก โดยเฉพาะพลาสติกใช้แล้วทิ้ง
    • หลีกเลี่ยงการใส่อาหารร้อนในถุงพลาสติกหรือกล่องพลาสติกที่ไม่ทนความร้อน
    • ใช้แก้วเซรามิกหรือแก้วแก้วแทนแก้วพลาสติก
    • หลีกเลี่ยงการอุ่นอาหารในกล่องพลาสติก ควรใช้ภาชนะทนความร้อนเช่นแก้วหรือเซรามิก
    • ไม่ใช้ขวดน้ำพลาสติกซ้ำหลายครั้ง
    • ไม่ดื่มน้ำจากขวดพลาสติกที่เก็บในที่ร้อนหรือโดนแสงแดดนาน
    • เลือกรับประทานอาหารสด หลีกเลี่ยงอาหารสำเร็จรูปที่บรรจุในพลาสติก
    • ล้างอาหารให้สะอาดก่อนรับประทาน
    • เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ปลอด BPA และ Phthalates
    • หลีกเลี่ยงการสัมผัสกระดาษใบเสร็จรับเงินที่มีสารพลาสติก
    • รับประทานอาหารที่ช่วยขับสารพิษออกจากร่างกาย เช่น ผักตระกูลกะหล่ำ (ช่วยล้างพิษตับ), เห็ด (เสริมภูมิคุ้มกัน), กระเทียมและหัวหอม (ต้านอักเสบ), และปลาไขมันสูง (ลดการอักเสบและปกป้องเซลล์)

    พฤติกรรมการใช้ภาชนะพลาสติกที่ไม่เหมาะสมอาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพร้ายแรง เช่น มะเร็ง ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ และโรคเรื้อรังอื่น ๆ การหลีกเลี่ยงพลาสติกที่มีสารอันตรายและเลือกรับประทานอาหารที่ช่วยขับสารพิษออกจากร่างกาย สามารถช่วยลดความเสี่ยงได้