Blog

การขับรถทางไกลต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน จะทำให้ความร้อนของเครื่องยนต์และเกียร์ขึ้นสูง หลายคนจึงเลือกเปิดฝากระโปรงหน้าเพื่อระบายความร้อน แต่ความเป็นจริงการเปิดฝากระโปรงหน้าหลังขับทางไกลจำเป็นหรือไม่? บทความนี้ Sanook Auto มีคำตอบมาฝากกันครับ

ข้อดีของการเปิดฝากระโปรงหน้า

การเปิดฝากระโปรงหน้าหลังขับทางไกลมีข้อดีหลัก ๆ คือช่วยระบายความร้อนออกจากห้องเครื่องได้เร็วขึ้น โดยเฉพาะในสภาพอากาศร้อนจัด ซึ่งอาจช่วยยืดอายุการใช้งานของชิ้นส่วนบางอย่างที่ทำจากพลาสติกหรือยางได้

นอกจากนี้ ยังช่วยลดความร้อนสะสมในห้องเครื่อง ซึ่งอาจช่วยป้องกันปัญหาความร้อนสูง โดยเฉพาะรถติดตั้งระบบก๊าซ LPG / CNG ที่มีความร้อนสูงกว่าน้ำมันล้วน

ข้อเสียของการเปิดกระโปรงหน้า

อย่างไรก็ตาม การเปิดฝากระโปรงหน้าทิ้งไว้ก็มีข้อเสียที่ต้องพิจารณาเช่นกัน ประการแรกคือความเสี่ยงต่อสิ่งแปลกปลอม เช่น ฝุ่นละออง หรือสัตว์ขนาดเล็ก ที่อาจเข้าไปในห้องเครื่องได้ ประการต่อมาคือความเสี่ยงต่อการโจรกรรมชิ้นส่วนภายในห้องเครื่อง โดยเฉพาะในบางพื้นที่ที่ไม่ปลอดภัย

แม้ว่าชิ้นส่วนบางอย่างอาจมีมูลค่าไม่มาก แต่หากถูกถอดออกไปโดยไม่รู้ตัว อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อเครื่องยนต์ได้ เช่น ก้านวัดระดับน้ำมันเครื่อง ฯลฯ

สรุปแล้วหลังขับทางไกลต้องเปิดฝากระโปรงหน้าหรือไม่

โดยทั่วไปแล้ว รถยนต์สมัยใหม่มีระบบระบายความร้อนที่มีประสิทธิภาพดีพอที่จะระบายความร้อนได้เอง การเปิดฝากระโปรงหน้าจึงอาจไม่จำเป็นเสมอไป อย่างไรก็ตาม หากรถของคุณติดตั้งระบบแก๊ส LPG การเปิดฝากระโปรงหน้าอาจช่วยระบายความร้อนได้ดีขึ้น และลดความเสี่ยงในการเกิดปัญหาเกี่ยวกับระบบแก๊สได้

แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือความปลอดภัย หากคุณตัดสินใจเปิดฝากระโปรงหน้า ควรจอดรถในที่ปลอดภัย และระมัดระวังการโจรกรรมด้วย

โตเป็นสาวขึ้นทุกวันแล้ว สำหรับ น้องมายู ลูกสาวสุดที่รักของ เมย์ เฟื่องอารมย์ กับสามี หนุ่ม กรรชัย ที่ตอนนี้มาอายุ 10 ขวบเต็มเป็นที่เรียบร้อย

ล่าสุด เมย์ เฟื่องอารมย์ ก็ได้เผยคลิปขณะที่พา น้องมายู ไปตัดผมเปลี่ยนลุคใหม่ พร้อมเขียนแคปชั่นว่า “มายูอยากตัดผมเปลี่ยนลุคค่ะ #mayukamnerdploy”

งานนี้แฟนๆ ต่างก็เข้ามาคอมเมนต์ชื่นชมกันยกใหญ่ เพราะ น้องมายู ออร่าความสวยเฉิดฉายมากจริงๆ เห็นแบบนี้แล้ว พ่อหนุ่ม คงต้องไว้หนวดยาวๆ เพิ่มความเข้มรอแล้วจ้า

“แจ้งพ่อหนุ่มด่วนนนนน เตรียมเลี้ยงหนวดแทนผมยาวด่วนเลย”, “น่ารักจัง”, “น่ารักค่ะ ยิ้มเหมือนพี่หนุ่มเลยแต่สวยเหมือนแม่ค่ะ”, “พี่หนุ่มผมยาวชัดๆ”, “งื้อสวยมากกเลยค่ะ”

 

หนูแหม่ม สุริวิภา ตัดสินใจทำศัลยกรรมยกหน้าใหม่ในวัย 58 ปี ออกมาเป๊ะมาก ย้อนวัยไปสมัยวัยรุ่นเลย  

นักแสดงและพิธีกรสาวคนเก่ง แหม่ม สุริวิภา ต้องบอกว่าวันนี้เธอมีความสุขมากๆ กับสามี บ๊อบบี้ และลูกสาว น้องแอลลี่ และลูกสาวคนล่าสุด น้องไอริส หากมีเวลาว่างเธอจะแทคทีมสามีและลูกๆ เดินทางทำกิจกรรมกับการท่องเที่ยวอยู่เสมอๆ เป็นภาพที่น่ารักและสัมผัสได้ถึงความอบอุ่น

ในบทบาทของการทำงาน หนูแหม่ม นั่งเป็นพิธีกรในรายการโต๊ะหนูแหม่ม ทางช่อง workpoint แต่ตอนนี้เธอขอลาพักชั่วคราว เพื่อไปปฏิบัติภารกิจอัปเลเวลความสวยที่ประเทศเกาหลีใต้ เรียกว่าเป็นการตัดสินใจยกหน้าใหม่ในวัย 58 ปี หลายคนต่างรอชมหน้าใหม่สวยเป๊ะของ พี่หนูแหม่ม กันเป็นแถวเลย 

ล่าสุด พี่หนูแหม่ม ได้ลงภาพหน้าล่าสุดหลังเพิ่งศัลยกรรมผ่านมา 14 วัน หลายคนเห็นแล้วต่างร้องว้าวดังๆ เพราะสวยและเด็กลงมากๆ เหมือนสมัยเพิ่งเข้าวงการใหม่ๆ เลยทีเดียว

ซึ่ง พี่หนูแหม่ม ได้เขียนบอกเล่าไว้ว่า “หมอคะ….???หมออยู่กับ mommy ตอนสาวๆ ตอนวัยรุ่นใช่ป่ะ? หมอเคยเห็น mommy ใช่ป่ะ ??? พูดค่ะ …มือฝีเย็บและรสนิยมล้วนๆ…ทั้งคุณหมอและคุณเอ๋ค่ะ” 

รอชมหน้าใหม่ของ พี่หนูแหม่ม อีก 1 เดือนได้เลย รับรองเข้าที่แบบเป๊ะ สวยเต็มเฟรมแน่นอน

สิงโต สกลรัฐ ควงแฟนสาว อีฟ ณิชกานต์ เข้าพิธีแต่งงานตามแบบประเพณีไทย เพื่อนพี่น้องในวงการร่วมยินดี

นักแสดงหนุ่มสุดหล่อ สิงโต-สกลรัฐ พันเทศ หลังจากทำเซอร์ไพรส์คุกเข่าขอแฟนสาวนอกวงการ อีฟ ณิชกานต์ แต่งงานไปเมื่อเดือนตุลาคมปี 2567 ท่ามกลางความยินดีของเพื่อนพ้องพี่น้องและแฟนละคร 

ซึ่ง สิงโต สกลรัฐ เคยให้สัมภาษณ์ไว้ถึงเส้นทางรักความรักกับ อีฟ ไว้ว่าเคยเรียนอยู่โรงเรียนมัธยมเดียวกันที่จังหวัดขอนแก่น อีฟ เป็นรุ่นพี่หนึ่งปี ตอนนั้นยังไม่รู้จักกัน แต่เมื่อ 3-4 ปีที่แล้วรูว่าเขาโสด เลยเขาไปจีบ จากวันนั้นถึงวันนี้ 3 ปี กับโมเมนต์ขอแต่งงานเป็นภาพที่กำลังสร้างบ้านเป็นเรือนหอ ต้องบอกว่าน่ารักและโรแมนติกมาก   

ล่าสุด วันนี้ (20 ก.พ.) สิงโต สกลรัฐ ถือฤกษ์ดีเกี่ยวก้อยควงเจ้าสาวคนสวย อีฟ ณิชกานต์ เข้าพิธีแต่งงานที่บ้านเจ้าสาวในจังหวัดขอนแก่น ต้องบอกว่าเป็นงานแต่งที่น่ารักอบอุ่นมาก และงานนี้ พี่เอ ศุภชัย ได้เดินทางมาร่วมแสดงความยินดีด้วย 

พร้อมกับเขียนอวยพรไว้ว่า “เดินทางมาถึงวันแต่งงานของลูกชายอีก1คน เจอกันมาตั้งแต่น้องสิงโตอยู่ม6 ดีใจกับแม่น้อยนะคะ เห็นกันมาตั้งแต่วันแรก ดูแลกันมาตลอด ขอบคุณครอบครัวน้องอีฟ ครอบครัวเจ้าสาวนะคะที่รับลูกชายพี่เอเข้าไปเป็นตนในครอบครัวอีกคนนึง พี่เอรักน้องๆและแม่ๆนะคะ ถ้าใครมาขอนแก่น แวะมาตลอดต้นตาล ที่ขอนแก่นมาอุดหนุนน้องอีฟและน้องสิงโตกันนะคะ วันนี้พี่เอดีใจและมีความสุขมากๆเลยค่ะ รักน้องทั้งสองคนนะคะ” 

ต้องบอกว่าเจ้าบ่าวหล่อและเจ้าสาวสวยน่ารักมากจริงๆ  

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการมีอายุยืนยาว ชี้ “เล็บมือ” เป็นสัญญาณสำคัญที่บ่งบอกว่าจะมีอายุยืนยาวเพียงใด

หากไม่ใช่คนที่ต้องทำเล็บทุกๆ 2-3 สัปดาห์ หลายคนอาจไม่ค่อยใส่ใจเล็บมือเท่าไหร่ แต่จริงๆ แล้ว เล็บมือของเราอาจบอกได้ดีถึงระยะเวลาที่เหลือในชีวิต ตามที่แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการมีอายุยืนยาวกล่าว

ดร.เดวิด ซินแคลร์ เป็นที่รู้จักในวงการพันธุศาสตร์ และมีชื่อเสียงจากการวิจัยเกี่ยวกับสาเหตุที่ทำให้แก่ลง และวิธีชะลอผลกระทบจากเวลา และยังสอนที่โรงเรียนแพทย์ฮาร์วาร์ดตั้งแต่ปี 1999

อาจารย์จากออสเตรเลีย วัย 55 ปี รายนี้ เผยว่า คนเราสามารถทราบได้ว่าร่างกายของตัวเองยังมีพลังเหลืออยู่มากแค่ไหน แค่สังเกตการเติบโตของเล็บมือ

“อัตราการเจริญเติบโตของเล็บเป็นตัวบ่งชี้ที่ดีมากว่าคุณกำลังแก่ลงหรือไม่” ดร. ซินแคลร์ กล่าวในตอนหนึ่งของพอดแคสต์ Lifespan ของเขา

“ทุกครั้งที่ผมต้องตัดเล็บ ผมจะคิดว่า เมื่อไหร่ที่ตัดเล็บครั้งล่าสุด?”

เขาอธิบายว่า สุขภาพของเล็บสามารถบอกได้มากเกี่ยวกับอัตราการสร้างเซลล์ใหม่ที่แข็งแรงของร่างกายเรา และยิ่งกระบวนการนี้เกิดขึ้นเร็วเท่าไหร่ ก็ยิ่งดีเท่านั้น

ดร.เดวิด ซินแคลร์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการมีอายุยืนยาว

ตามที่ ดร.ซินแคลร์ กล่าว การหมุนเวียนของเซลล์ที่รวดเร็วหมายถึงอายุทางชีวภาพที่เยาว์วัยกว่า เพราะเมื่ออายุมากขึ้น กระบวนการนี้จะช้าลง

“ทั้งหมดนี้เกิดจากการศึกษาที่ทำในปี 1979 ซึ่งพวกเขาแปะแถบวัดขนาดเล็กๆ ไว้ที่เล็บของผู้คนและวัดผลในระยะเวลาหลายปี” ผู้เชี่ยวชาญกล่าว

การวิจัยพบว่า อัตราการเจริญเติบโตของเล็บมือจะลดลงประมาณ 0.5% ทุกปีหลังจากที่ผู้เข้าร่วมการทดลองอายุ 30 ปี

“และจากการศึกษาหลายพันคน ตอนนี้เรารู้แล้วว่าอัตราการเจริญเติบโตของเล็บจะลดลงประมาณ 0.5% ต่อปี” ดร.ซินแคลร์ กล่าวต่อ

“ถ้าคุณวัดมัน นี่คือสัญญาณที่ดีมากว่าอายุทางชีวภาพของคุณเป็นอย่างไร”

ดร.ซินแคลร์ ยอมรับว่า แม้เขาจะไม่ได้วัดเล็บของตัวเองในตอนนี้ แต่เขาก็ “ใส่ใจว่าเล็บของผมยังเติบโตได้เร็วเหมือนเดิมหรือไม่”

ด้าน แมทธิว ลาพลานท์ ผู้ร่วมรายการพอดแคสต์ ยอมรับว่าเขาก็ไม่ได้ติดตามความยาวของเล็บมือของตัวเองเช่นกัน โดยกล่าวว่า “ผมกัดเล็บ ซึ่งรู้ว่าเป็นนิสัยที่แย่มาก”

โดยพื้นฐานแล้ว วิทยาศาสตร์บ่งชี้ว่า หากเล็บของเรายังเติบโตเร็วเมื่อเทียบกับคนอื่นในวัยเดียวกัน แสดงว่าเราอาจแก่ช้ากว่าพวกเขา

เมื่ออายุมากขึ้น ร่างกายจะผลิตเคราตินน้อยลง ทำให้เล็บมืออ่อนแอลงบ้าง ตามที่ ดร.มิชีล เฮนรี ผู้ก่อตั้ง Skin and Aesthetic Surgery of Manhattan กล่าว

เธอกล่าวไว้ก่อนหน้านี้ใน Huff Post ว่า “เมื่อเราแก่ลง ร่างกายเริ่มผลิตโปรตีนธรรมชาติที่พบในเล็บน้อยลง ซึ่งทำให้เล็บเปราะแห้ง และเสี่ยงต่อการแตก”

“โปรตีนเคราตินเหล่านี้ยังพบในรากผมของเรา ซึ่งเป็นเหตุผลที่เรามักเห็นการเปลี่ยนแปลงของเนื้อผมเมื่อเราแก่ขึ้น”

“ปัญหาของสาว ‘โหนกนูน’ เมื่ออวัยวะตรงนั้นโหนกนูนเด่นเกินไป ทำให้ใช้ชีวิตยาก”

การมีลักษณะโหนกนูนในบริเวณอวัยวะเพศของผู้หญิงถือเป็นเรื่องธรรมชาติที่พบได้ทั่วไป แต่สำหรับบางคน การที่โหนกนูนเด่นเกินไปอาจทำให้เกิดปัญหาในการใช้ชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นความไม่สบายกาย ความไม่มั่นใจ หรือแม้แต่ความลำบากในการเลือกเสื้อผ้าและทำกิจกรรมบางอย่าง เรื่องเหล่านี้อาจกลายเป็นปัญหาที่สร้างความอึดอัดให้กับชีวิตได้

1. ความไม่สบายในการใส่เสื้อผ้ารัดรูป

สาวๆ ที่มีลักษณะโหนกนูนเด่นชัดมักจะเจอปัญหาเวลาต้องใส่เสื้อผ้ารัดรูป เช่น กางเกงยีนส์ ชุดออกกำลังกาย หรือแม้แต่ชุดว่ายน้ำ ซึ่งทำให้เกิดการเสียดสีหรือกดทับบริเวณดังกล่าว บางคนรู้สึกไม่สบายตัว แถมอาจทำให้เกิดการบาดเจ็บหรือรอยแดงขึ้นได้ ปัญหานี้อาจทำให้ต้องคิดหนักเวลาจะเลือกเสื้อผ้า หรือทำให้รู้สึกไม่มั่นใจเวลาต้องออกจากบ้าน

ผลการศึกษา: มีการศึกษาจาก Journal of Sexual Medicine ในปี 2018 ที่พบว่า ผู้หญิงประมาณ 18% มีปัญหาจากการเสียดสีและอับชื้นในบริเวณโหนกนูนเมื่อใส่เสื้อผ้ารัดรูป โดยเฉพาะในผู้หญิงที่มีลักษณะโหนกนูนเด่นชัด

2. การออกกำลังกายและการทำกิจกรรมที่ลำบากขึ้น

เวลาที่ทำกิจกรรมต่างๆ เช่น วิ่ง ขี่จักรยาน หรือเล่นโยคะ ผู้หญิงที่มีโหนกนูนชัดเจนมักจะรู้สึกไม่สบาย เพราะเกิดการเสียดสีและอาจทำให้ผิวบริเวณนั้นระคายเคือง จนบางคนถึงขั้นหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมเหล่านี้ไปเลย ทั้งที่ปกติก็อยากออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ แต่พอเจอปัญหาแบบนี้ก็รู้สึกไม่อยากทำกิจกรรมเท่าเดิม

ผลการสำรวจ: การสำรวจจาก International Journal of Sports Medicine ในปี 2019 พบว่า 12% ของผู้หญิงที่ออกกำลังกายประเภทวิ่งและปั่นจักรยานมีปัญหาจากการเสียดสีบริเวณโหนกนูน โดยเฉพาะผู้ที่มีลักษณะเด่นชัด

3. รู้สึกไม่มั่นใจเมื่อถูกคนอื่นจ้องมอง

หลายคนรู้สึกไม่มั่นใจเวลาที่ต้องใส่เสื้อผ้าที่เน้นรูปร่าง หรือเมื่อต้องอยู่ในสถานการณ์ที่เสี่ยงจะถูกคนอื่นจ้องมองบริเวณนั้น เช่น การใส่บิกินี่หรือกางเกงรัดรูป ทำให้เกิดความกังวลว่า คนอื่นจะสังเกตเห็นและอาจจะวิจารณ์ ความรู้สึกเหล่านี้กดดันและอาจทำให้เสียความมั่นใจในตัวเองได้

งานวิจัยด้านจิตวิทยา: มีงานวิจัยจากวารสาร Body Image ในปี 2020 ที่ระบุว่า ผู้หญิงที่มีลักษณะโหนกนูนเด่นชัดมีโอกาสสูงที่จะรู้สึกไม่มั่นใจในรูปร่างตัวเองมากกว่าผู้หญิงที่มีโหนกนูนธรรมดา โดย 28% ของผู้หญิงกลุ่มนี้รู้สึกกังวลเมื่ออยู่ในสถานการณ์ที่ถูกคนอื่นจ้องมอง

4. ปัญหาสุขภาพจากการเสียดสี

นอกจากปัญหาทางใจแล้ว การมีลักษณะโหนกนูนเด่นชัดยังส่งผลต่อสุขภาพอีกด้วย เช่น การเกิดอาการอับชื้นหรือการเสียดสี ซึ่งอาจทำให้เกิดการติดเชื้อได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะเมื่อใส่เสื้อผ้ารัดแน่นเป็นเวลานาน การดูแลรักษาบริเวณนี้จึงเป็นเรื่องสำคัญเพื่อป้องกันปัญหาที่อาจตามมา

ผลการวิจัย: งานวิจัยที่เผยแพร่ในวารสาร Dermatology Research and Practice ในปี 2021 พบว่า 15% ของผู้หญิงที่มีลักษณะโหนกนูนเด่นชัดมีโอกาสติดเชื้อราและแบคทีเรียบริเวณดังกล่าวมากกว่าผู้หญิงทั่วไป เนื่องจากความชื้นและการเสียดสีที่เกิดขึ้นบ่อยๆ

5. วิธีการดูแลตัวเองและแก้ไขปัญหา

การแก้ปัญหาสำหรับสาวๆ ที่มีลักษณะโหนกนูนเด่นชัดมีหลายวิธี ตั้งแต่การเลือกเสื้อผ้าที่ใส่สบายและไม่รัดแน่นเกินไป เช่น ชุดชั้นในที่ระบายอากาศดี หรือเลือกเสื้อผ้าหลวมๆ ในชีวิตประจำวัน รวมถึงการดูแลความสะอาดและลดการอับชื้น หากปัญหานี้รบกวนมาก ผู้หญิงบางคนอาจพิจารณาทำศัลยกรรมเพื่อลดขนาดบริเวณโหนกนูนเพื่อเพิ่มความมั่นใจในชีวิตประจำวัน

บทสรุป

การมีโหนกนูนเด่นชัดอาจเป็นปัญหาที่สร้างความไม่สะดวกสบายให้กับผู้หญิงหลายคน แต่การหาวิธีแก้ไขและดูแลตัวเองอย่างเหมาะสมสามารถช่วยให้กลับมาใช้ชีวิตได้อย่างมั่นใจและสะดวกขึ้นในทุกๆ วัน

ใครมีผมหงอกฟังทางนี้! “หมอสุรัตน์” เปิดชื่อผักที่คนไทยรู้จักดีทั้งนั้น ทั้งหาง่าย และราคาถูก มีสารลูทีโอลินสูงช่วยป้องกันอาการผมหงอกได้

“ผมหงอก” เกิดจากหลายปัจจัย ทั้งตามธรรมชาติ กรรมพันธุ์ โรค และการขาดสารอาหาร ซึ่งการมีหงอกอาจทำให้หลายคนเกิดความไม่มั่นใจ บางรายอาจต้องใช้วิธีย้อมผมเพื่อปกปิดผมหงอก ส่งผลเสียต่อสุขภาพหนังศีรษะ

ล่าสุด ผศ.นพ.สุรัตน์ ตันประเวช แพทย์เชี่ยวชาญด้านสมองและระบบประสาท ได้ออกมาเปิดเผยผ่านเฟซบุ๊กเพจ “สาระสมองกับ อจ.หมอสุรัตน์” ระบุ มีงานวิจัยชี้ชัด ลูทีโอลิน (luteolin) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่พบในผักบางชนิด อาจมีศักยภาพในการป้องกันผมหงอก

โดย หมอสุรัตน์ ได้ให้รายละเอียดว่า การศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสาร Antioxidants ได้ทดลองกับหนูที่ถูกออกแบบให้มีผมหงอกเมื่ออายุมากขึ้น นักวิจัยได้ทดสอบสารต้านอนุมูลอิสระสามชนิด

ได้แก่ เฮสเพอเรทิน ไดออสมิติน และลูทีโอลิน พบว่าเฉพาะลูทีโอลินเท่านั้นที่สามารถลดการเกิดผมหงอกในหนูได้

หนูที่ได้รับการรักษาด้วยลูทีโอลินทั้งภายใน (รับประทาน) และภายนอก (ทาบนผิวหนัง) ทุกวันเป็นเวลา 16 สัปดาห์ แสดงให้เห็นว่ามีผมหงอกน้อยลงเมื่อเทียบกับกลุ่มที่ไม่ได้รับการรักษา

นักวิจัยสันนิษฐานว่าลูทีโอลินช่วยแก้ไขปัญหาการส่งสัญญาณระหว่างเอนโดทีลินส์ในเซลล์ต้นกำเนิดเคราติโนไซต์และตัวรับในเซลล์ต้นกำเนิดเมลาโนไซต์ ซึ่งนำไปสู่การลดลงของผมหงอก

พืชที่มีลูทีโอลินสูงในบ้านเรา
• พริกเขียวและพริกเผ็ด – รวมถึงพริกหวานสีเขียว
• ฟักทอง – เป็นแหล่งลูทีโอลินที่ดี และยังให้วิตามินและแร่ธาตุที่ช่วยบำรุงเส้นผม
• ขึ้นฉ่าย (Celery) – อุดมไปด้วยลูทีโอลินและมีฤทธิ์ต้านการอักเสบ… อ่านหมอสุรัตน์ ยังได้กล่าวเพิ่มเติมว่า แม้งานวิจัยยังไม่มีในคน แต่ก็รับประทานได้เลยเพราะมันดีต่อร่างกายด้วย

อย่างไรก็ตาม หลังโพสต์ออกไป ก็มีคนมาให้ความคิดเห็นเพิ่มเติมว่า ขึ้นฉ่าย มี Psoralen ทำให้ผิวไวต่อ UVA ได้มากขึ้น โดยเฉพาะหากนำมาปั่นสดๆ ควรทานแต่พอดีๆ และอย่าลืมทากันแดดซ้ำ

 หมอเบนซ์ เตือนก๋วยเตี๋ยว “เค็มไตวาย” ของจริง โซเดียมยิ่งกว่าบะหมี่ซอง เทียบชัดๆ เฉลยเมนูไหนร้ายที่สุด!

หมอเบนซ์ หรือ นพ. โฆษิต เอี้ยวฉาย แพทย์ชำนาญการศัลยกรรมจมูก รพ.มาสเตอร์พีช ให้ความรู้เรื่องอาหารการกินใกล้ตัว ผ่านช่องติ๊กต็อก @dr.benz_masterpiece ในประเด็นเรื่อง “บะหมี่ซองโซเดียมเยอะจริงหรือ?”

โดยคุณหมอบอกว่า “ใครว่าบะหมี่ซองโซเดียมเยอะ คุณกังวลผิดที่แล้ว ก๋วยเตี๋ยวที่เรากินทุกวันนี้ต่างหาก ที่เค็มไตวายของจริง”

พร้อมยกข้อมูลจากสภาผู้บริโภค ที่สำรวจร้านก๋วยเตี๋ยวเจ้าดังจำนวน 10 ร้าน พบว่าโซเดียมจัดเต็มทุกร้าน เมื่อเทียบกับบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่มีปริมาณโซเดียมอยู่ที่ 1,600 ต่อซอง ในขณะที่ก๋วยเตี๋ยวปริมาณสูงสุดพุ่งไปถึง 3,820 ต่อชาม ซึ่งตามหลักโภชนาการที่ถูกต้องนั้น ควรบริโภคโซเดียมไม่เกิน 2,000 มก./วัน

คุณหมอยังเน้นย้ำด้วยว่า “จำไว้นะครับ หมี่หมูน้ำตก เค็มกว่าบะหมี่หมู่แดง แต่ที่สุดในปฐพีนั้นคือ เย็นตาโฟ” ซึ่งจากขอมูลระบุว่า เย็นตาโฟหนึ่งชาม มีปริมาณโซเดียมอยู่ที่ 2,233-2,723 มก.

•  กูรูต่างชาติ ไปทั่วโลกค้นหา 3 เมนู “ดีที่สุด” กินให้อายุยืนร้อยปี มีอาหารไทยติดด้วย 1 ชาม!
• มีของไทย 2 รส!!! จัดอันดับท็อป 10 “บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป” ในเอเชีย ที่เหมาะกินกับข้าว

 

เว็บไซต์ เดลี เมล รายงานข่าวเศร้า เมื่อนักยกน้ำหนักดาวรุ่งเสียชีวิตอย่าน่าเศร้า เนื่องจากบาร์เหล็กหนัก 600 ปอนด์ หรือราว 272 กก. ทับคอระหว่างการฝึกซ้อม

เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ยัชติกา อาชาร์ยา (Yashtika Acharya) นักยกน้ำหนักดาวรุ่งวัย 17 ปี เจ้าของรางวัลเหรียญทองในการแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติของอินเดีย ทำการฝึกซ้อมที่เมืองบิคาเนอร์ รัฐราชสถาน โดยภาพจากกล้องวงจรปิดเผยให้เห็นช่วงเวลาอันน่าสะเทือนใจ ขณะที่ อาชาร์ยา พลาดท่าเสียหลักล้มลงไปด้านหลัง ทำให้บาร์เหล็กหล่นทับคอ จนเธอล้มลงแน่นิ่งกับพื้น ท่ามกลางความตกใจของโค้ชและคนอื่นๆ

นักยกน้ำหนักดาวรุ่งถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน แต่แพทย์ไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้ และเสียชีวิตในเวลาต่อมา ทางครอบครัวของ อาชาร์ยา ไม่ได้ติดใจถึงสาเหตุของการเสียชีวิต หรือยื่นร้องเรียนใดๆ เมื่อได้เห็นคลิปจากกล้องวงจรปิดที่แสดงให้เห็นอุบัติเหตุอย่างไม่คาดคิด

อาชาร์ยา ถือเป็นนักกีฬายกน้ำหนักอนาคตไกลของแดนภารตะ เมื่อเธอมีดีกรีเหรียญทองจากการแข่งขัน Junior National Games หรือแชมป์กีฬาเยาวชนแห่งชาติของอินเดีย และเตรียมจะก้าวสู่ทีมชาติชุดใหญ่ในอนาคตอันใกล้ แต่ก้ต้องมาเคราะห์ร้ายเสียชีวิตไปเสียก่อน

ทำเอาชาวเน็ตจับตากันรัวๆ สำหรับนางเอกสาว มารี เบิร์นเนอร์ ที่เพิ่งจะโสดมาพักใหญ่ แต่ล่าสุดก็มีข่าวลือเรื่องรักครั้งใหม่ หลังเจ้าตัวบินลัดฟ้าไปสัมผัสบรรยากาศสุดโรแมนติก ชมแสงเหนือที่ ประเทศนอร์เวย์ แต่ที่ทำให้หลายคนหลุดโฟกัสก็คือ เธอไม่ได้ไปคนเดียว

มีตาดีแอบเห็นว่า มารีมีหนุ่มไฮโซร่วมทริปไปด้วย และล่าสุดก็มีคลิปออกมาขณะเธอกำลังแฮงค์เอาท์กับกลุ่มเพื่อน โดยมีหนุ่มคนสนิทอยู่ข้างกาย งานนี้ทำเอาชาวเน็ตพากันสืบวุ่นว่าผู้ชายคนนี้คือใคร? และดูเหมือนคำตอบจะพุ่งไปที่ บอส อัศม์กรณ์ สิ่งห์สีกรกุล นักธุรกิจชื่อดังและอดีตสามีของ เชอรีน ณัฐจารี หรเวชกุล น้องสาวของนิชคุณ

อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ยังไม่มีการคอนเฟิร์มจากปากมารีว่า หนุ่มบอสคือรักครั้งใหม่หรือเป็นแค่เพื่อนสนิทกันแน่ งานนี้ต้องรอฟังจากเจ้าตัวเอง แต่บอกเลยว่าเคมีดีขนาดนี้ แฟนๆ อดลุ้นไม่ได้เลยจริงๆ