Blog

  • KUBET – สลด พบศพดาว OnlyFans วัย 21 ในห้องพัก เผยโพสต์สุดท้าย แฟนๆ แห่อาลัย

    ดาว OnlyFans วัย 21 ถูกพบเป็นศพในห้อง หลังพ่อแจ้งความคนหายกว่า 2 สัปดาห์ เผยโพสต์สุดท้ายก่อนเสียชีวิต

    ดาว OnlyFans จูลี ลักซี่ (Juli Luxie) ถูกพบเป็นศพในอะพาร์ตเมนต์ทางตอนใต้ของปารีส เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 6 มีนาคม ขณะอายุเพียง 21 ปี

    สำนักข่าว Le Parisien รายงานว่า เธอไม่รับสายโทรศัพท์มานานกว่า 2 สัปดาห์ และเงียบหายไปจากโซเชียลมีเดีย ซึ่งปกติแล้วเธอจะโพสต์อย่างสม่ำเสมอ

    จูลี ลักซี่ สร้างรายได้จากเนื้อหาบนแพลตฟอร์มสำหรับผู้ใหญ่ และมีผู้ติดตามบนอินสตาแกรมกว่า 39,500 คน โพสต์สุดท้ายของเธอเป็นภาพริมสระน้ำ พร้อมแคปชันภาษาอังกฤษว่า “มาว่ายน้ำกับฉันสิ” 

    แม้โพสต์ล่าสุดบนอินสตาแกรมจะเป็นช่วงเดือนมกราคม แต่เธอเคยอัปโหลดภาพเซลฟี่หน้ากระจกบน X (เดิมคือ Twitter) เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ในนาม Julie Diablotine

    หลังจาก จูลี ลักซี่ ขาดการติดต่อไป พ่อของเธอรู้สึกผิดปกติและแจ้งตำรวจ เมื่อเจ้าหน้าที่มาถึง พวกเขาพบว่าประตูล็อกจากด้านใน และในที่สุดก็พบร่างของเธออยู่ในทางเดินของอะพาร์ตเมนต์

    ทางการฝรั่งเศสได้เปิดการสอบสวน แต่ไม่พบหลักฐานบ่งชี้ว่าเป็นคดีอาชญากรรมหรือมีเงื่อนงำต้องสงสัย อย่างไรก็ตาม Le Parisien รายงานว่าตำรวจพบร่องรอยเลือดภายในที่พักของเธอ ซึ่งตั้งอยู่ในเขตชานเมืองปารีส

    นอกจากนี้ ยังพบขวดไนตรัสออกไซด์ หรือที่เรียกว่า แก๊สหัวเราะ ในที่เกิดเหตุ ขณะนี้อยู่ระหว่างการชันสูตรเพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตของเธอ

    หลังข่าวการเสียชีวิตของ จูลี ลักซี่ แพร่ออกไป แฟนๆ และผู้ติดตามต่างหลั่งไหลเข้าสู่โซเชียลมีเดียของเธอ เพื่อร่วมไว้อาลัยผ่านคอมเมนต์

    “ขอให้เธอไปสู่สุคติ ยังเด็กเกินไปที่จะจากไป” หนึ่งในผู้ติดตามเขียนไว้ใต้โพสต์ล่าสุดของเธอบนอินสตาแกรม

    อีกคนกล่าวว่า “เส้นทางชีวิตเป็นของเธอเอง ไม่มีใครมีสิทธิ์ดูถูก แม้แต่หลังจากที่เธอจากไปแล้ว”

  • KUBET – ย้อนรอย 16 ปี โศกนาฏกรรมนักสำรวจถ้ำ สิ้นใจทรมานในช่องแคบ ศพอยู่ที่เดิม “ชั่วนิรันดร์”

    ย้อนรอย 16 ปี โศกนาฏกรรมถ้ำมรณะ นักสำรวจติดช่องแคบ ห้อยหัวนานกว่า 24 ชั่วโมง ช่วยชีวิตไม่สำเร็จและนำศพออกมาไม่ได้ 

    24 พฤศจิกายน 2009 หรือ เมื่อเกือบ 16 ปีที่แล้ว แพทย์ฝึกหัดและนักสำรวจชาวอเมริกัน John Edward Jones ได้ติดอยู่ในถ้ำ Nutty Putty และเสียชีวิตอย่างน่าเศร้า เหตุการณ์อุบัติเหตุและการค้นหาช่วยเหลือเขาได้กลายเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางเพราะความโศกเศร้า จนถึงขนาดที่สื่อเรียกมันว่า “การตายที่แย่ที่สุดที่สามารถจินตนาการได้”

    นักสำรวจถ้ำคนนี้ชอบท้าทายตัวเองและมีประสบการณ์ แต่เขาโชคร้ายเมื่อเขาไปถึงทะเลทรายยูทาห์ในวันที่ 24 พฤศจิกายน 2009 โดยมีพี่ชายที่เป็นนักผจญภัยเหมือนเขาไปด้วยกัน ในระหว่างที่อยู่ในถ้ำ โจนส์ได้เดินทางผิดทางและติดอยู่ในช่องทางที่ยังไม่ได้ทำแผนที่

    เขาติดอยู่ในท่าทางห้อยหัวกว่า 24 ชั่วโมงในถ้ำ และถึงแม้ว่าหลายคนจะมาช่วยเหลือ โจนส์ก็ยังต้องทนทุกข์ “การตายที่แย่ที่สุดที่สามารถจินตนาการได้” หลังจากความพยายามช่วยเหลือที่ไม่ประสบความสำเร็จและแม้กระทั่งการทำลายถ้ำเพื่อดึงร่างของเขาออกก็ไม่สามารถทำได้ ทางการจึงได้ปิดถ้ำ Nutty Putty และปล่อยให้ John Edward Jones อยู่ภายใน

    โจนส์ (ตอนนั้นอายุ 26 ปี) ได้รับการรำลึกถึงด้วยป้ายและพวงหรีดที่ทางเข้าถ้ำ เรื่องราวโศกนาฏกรรมนี้กลายเป็นที่รู้จักจนมีภาพยนตร์สารคดีสร้างขึ้นเพื่อถ่ายทอดเหตุการณ์ที่น่าสลด

    ช่องแคบที่ซึ่งชายผู้โชคร้ายเสียชีวิต, มีขนาดเพียง 25 ซม. x 45 ซม. และตั้งอยู่ห่างจากทางเข้าถ้ำ 122 เมตร ด้วยความสูง 1.8 เมตร, โจนส์ไม่สามารถได้รับการช่วยเหลือ ทีมกู้ภัยได้ลองทุกวิธีการ, แต่ทุกครั้งที่เขาหายใจ, อกของโจนส์ขยายขึ้นและทำให้เขาติดอยู่ในช่องทางแคบ ๆ ลึกขึ้น

    15 ปีต่อมา ในเดือนพฤศจิกายน 2024 ข่าวของ ABC4 Utah เกี่ยวกับการตายของแพทย์ฝึกหัดนี้ถูกนำเสนอ โดยสรุปวิธีที่โจนส์ติดอยู่และความพยายามในการช่วยเหลือที่ตามมา ผู้สื่อข่าวอธิบายว่าเขาติดอยู่ในรอยแยกเล็ก ๆ และกล่าวเสริมว่า “ในช่วงเวลากว่า 1 วัน ทีมค้นหาและกู้ภัยได้ลองหลายวิธีเพื่อดึงโจนส์ออกมา แต่ทุกวิธีก็ล้มเหลว การพยายามครั้งที่ 4 ในการดึงโจนส์ออกมา ระบบเชือกและรอกที่ใช้ก็ขาด ทำให้โจนส์ตกกลับเข้าไปในถ้ำลึกยิ่งกว่าเดิม”

    ในการกล่าวถึงเหตุการณ์ครบรอบ 15 ปี, ผู้สื่อข่าวกล่าวต่อไปว่า “หลังจากที่เขานอนคว่ำอยู่ในท่าทางห้อยหัวมากกว่า 24 ชั่วโมง ผลกระทบจากแรงโน้มถ่วงได้ส่งผลกระทบต่อร่างกายของโจนส์ และในช่วงเที่ยงคืนโจนส์ได้รับการประกาศว่าเสียชีวิต ทางการระบุว่าการกู้ร่างของโจนส์นั้นอันตรายเกินไปและได้ปิดผนึกถ้ำเป็นสถานที่พักผ่อนสุดท้ายของเขา ป้ายหนึ่งถูกตั้งที่ทางเข้าถ้ำเพื่อรำลึกถึงโจนส์”

  • KUBET – อายุ 60 ปีขึ้นไป ควรกินอาหารเช้าเวลาไหนดีที่สุด? ไม่ใช่ 7 โมงเช้าอย่างที่หลายคนคิด

    หลังอายุ 60 ปีขึ้นไป ควรกินอะไรเป็น “อาหารเช้า” และกินเวลาไหนดีที่สุด? ไม่ใช่ 7 โมงเช้า อย่างที่หลายคนคิด

    การทานอาหารเช้าอย่างถูกวิธีจะช่วยส่งเสริมสุขภาพและอายุยืนของผู้สูงวัยได้อย่างมาก แต่ละคนมีเวลาในการตื่นเช้าที่แตกต่างกัน บางคนตื่นตรง 7 โมงเช้า แต่บางคนอาจนอนถึง 8 หรือ 9 โมงเช้าก่อนจะเริ่มเตรียมอาหารเช้า

    โดยเฉพาะหลังจากอายุ 60 ปี หลายคนเริ่มสังเกตว่าตนเองไม่สามารถทานอาหารเช้าได้เหมือนตอนที่ยังเด็ก และมื้อแรกของวันดูเหมือนจะมีความสำคัญมากขึ้น

    ดังนั้นคำถามที่เกิดขึ้นคือ: หลังอายุ 60 ปี ควรทานอาหารเช้าอย่างไร? ควรกินตอนเวลาไหน? หมอเตือนว่า การทานอาหารเช้าไม่ถูกวิธีไม่เพียงแต่จะส่งผลกระทบต่อกระเพาะอาหาร แต่ยังส่งผลต่อสุขภาพในด้านอื่นๆ ด้วย

    ทำไมอาหารเช้าถึงสำคัญสำหรับผู้ที่มีอายุมากกว่า 60 ปี?

    สำหรับผู้สูงวัย อาหารเช้าที่มีคุณภาพมีผลต่อสุขภาพตลอดทั้งวันอย่างมาก อาหารเช้าไม่ใช่แค่การทานมื้อแรกของวัน แต่ยังเป็นแหล่งพลังงานและสารอาหารสำคัญ

    เมื่ออายุมากขึ้น ระบบการทำงานของร่างกายเริ่มเสื่อมถอย โดยเฉพาะระบบย่อยอาหารและการเผาผลาญ ดังนั้นการทานอาหารเช้าในเวลาที่เหมาะสมและครบถ้วน จะช่วยให้ร่างกายมีพลังงานเพียงพอ และยังช่วยป้องกันโรคเรื้อรังบางชนิด เช่น ความดันโลหิตสูง เบาหวาน หรืออ้วนได้

    เวลาอาหารเช้าที่เหมาะสม

    เวลาทานอาหารเช้าก็สำคัญไม่น้อยเช่นกัน ช่วงเช้าระบบชีวภาพของร่างกายยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ กระเพาะอาหารและลำไส้ยังคงอยู่ในกระบวนการเริ่มต้น หากทานอาหารเช้าเร็วเกินไป ระบบย่อยอาหารยังไม่พร้อม อาจทำให้เกิดความดันที่กระเพาะได้

    ในทางกลับกัน หากทานอาหารเช้าช้าเกินไป ร่างกายอาจพลาดช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการดูดซึมสารอาหาร การอดอาหารนานเกินไปอาจทำให้กรดในกระเพาะหลั่งออกมาเยอะ ทำลายเยื่อบุกระเพาะ และหากเป็นนานอาจนำไปสู่โรคกระเพาะได้

    เวลาทานอาหารเช้าที่ดีที่สุดไม่ได้อยู่ที่เวลาใดเวลาหนึ่ง แต่ควรทานภายใน 30 นาทีถึง 1 ชั่วโมงหลังตื่นนอน ในช่วงนี้ระบบย่อยอาหารจะทำงานได้ดีขึ้น และสามารถดูดซึมสารอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม ควรหลีกเลี่ยงการตื่นสายและทานอาหารเช้าใกล้กับมื้ออาหารอื่นๆ ในวันนั้น

    สำหรับผู้สูงอายุที่ต้องทานยาทุกวันเพื่อควบคุมโรคเรื้อรัง ควรระวังในขณะทานอาหารเช้า: หลีกเลี่ยงการทานยาในขณะท้องว่างหากยานั้นอาจทำให้ระคายเคืองกระเพาะอาหาร ไม่ควรทานอาหารที่มีน้ำตาลหรือไขมันสูงก่อนหรือหลังการทานยา เพื่อป้องกันไม่ให้ยาสูญเสียประสิทธิภาพ

    M I N E I A M A R T I N S

    ผู้สูงอายุควรทานอาหารเช้าอย่างไร?

    1. ให้ความสำคัญกับอาหารที่มีไฟเบอร์สูงและดัชนีน้ำตาลต่ำ

    ผู้สูงอายุมักพบปัญหาน้ำตาลในเลือดสูงหรือไขมันในเลือดสูง ดังนั้นอาหารที่มีดัชนีน้ำตาลต่ำ (GI ต่ำ) จึงเป็นตัวเลือกที่ดี เช่น

    • ธัญพืชเต็มเมล็ด (ขนมปังโฮลวีต, ข้าวโอ๊ต, ข้าวกล้อง) ช่วยในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
    • อาหารที่มีไฟเบอร์สูงช่วยกระตุ้นการย่อยอาหารและป้องกันอาการท้องผูก
    1. เสริมโปรตีนเพื่อรักษาสุขภาพ

    โปรตีนช่วยให้ร่างกายรักษามวลกล้ามเนื้อ เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน และยืดระยะเวลาอิ่มท้อง อาหารที่มีโปรตีนสูงที่เหมาะสำหรับมื้อเช้าประกอบด้วย: ไข่, นม, เต้าหู้, เนื้อไม่ติดมัน หรือผลิตภัณฑ์จากนมที่ไขมันต่ำ เช่น โยเกิร์ต, ชีสไขมันต่ำ

    1. รับประทานผักใบเขียวและผลไม้ให้มาก

    ผักและผลไม้ให้วิตามิน เกลือแร่ และสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยชะลอกระบวนการชรา เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน และลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจ

    อย่างไรก็ตาม ควรหลีกเลี่ยงผลไม้ที่มีน้ำตาลสูง เช่น องุ่นและกล้วย หากเป็นผู้ป่วยเบาหวาน

    1. จำกัดอาหารที่มีน้ำมันและอาหารแปรรูป

    อาหารที่มีน้ำมันมาก เช่น ขนมทอด ขนมปังทอด หรือเบอร์เกอร์อาจทำให้ย่อยยากและเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคอ้วนและความดันโลหิตสูง ควรเลือกอาหารที่ย่อยง่ายและมีประโยชน์ เช่น ข้าวต้ม นมถั่วเหลือง หรือขนมปังโฮลเกรนแทน

    การข้ามมื้อเช้าช่วยให้ร่างกายเบาขึ้นหรือไม่?

    บางคนเชื่อว่าการข้ามมื้อเช้าจะทำให้ร่างกายเบาขึ้น แต่สำหรับผู้ที่อายุเกิน 60 ปี การข้ามมื้อเช้าไม่ใช่ทางเลือกที่ดีนัก

    การข้ามมื้อเช้าสามารถทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำลง ส่งผลให้รู้สึกอ่อนเพลีย วิงเวียน และอาจถึงขั้นเป็นลมได้ กระเพาะอาหารที่ว่างนานเกินไปก็เสี่ยงต่อการเกิดโรคกระเพาะ

    การไม่ทานอาหารเช้าจะทำให้กระบวนการเผาผลาญผิดปกติ ร่างกายสะสมไขมันและเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด นอกจากนี้หลายคนที่ข้ามมื้อเช้าจะมีแนวโน้มทานมื้อกลางวันมากเกินไป ซึ่งจะเพิ่มความดันให้กระเพาะอาหารและทำให้เกิดอาการย่อยไม่ดีและน้ำหนักขึ้น

    เพื่อสุขภาพที่ดี ควรเลือกอาหารเช้าที่ย่อยง่าย อุดมไปด้วยโปรตีนและไฟเบอร์ และหลีกเลี่ยงอาหารที่มีน้ำมันมาก ควรเตรียมอาหารเช้าง่ายๆ เช่น โยเกิร์ต ซีเรียลธัญพืช หรือถั่วต่างๆ และควรผสมผสานมื้อเช้ากับการออกกำลังกายเบาๆ เพื่อเสริมสร้างสุขภาพ

    อาหารเช้าไม่ใช่แค่การทานอาหารเพียงมื้อหนึ่ง แต่เป็นการเริ่มต้นวันใหม่อย่างมีสุขภาพ ดังนั้นหลังอายุ 60 ปี ควรให้ความสำคัญกับเวลาและคุณภาพของมื้อเช้าเพื่อรักษาสุขภาพในระยะยาว

  • KUBET – “หนูเล็ก” ยอมบอกความจริงแล้ว เหตุผลที่ประกาศขายพูลวิลล่าที่เขาใหญ่

    ทำเอาหลายคนเสียดายแทนเลย หลังจากที่สาวอารมณ์ดีอย่าง หนูเล็ก ภัทรวดี หรือ หนูเล็ก ก่อนบ่าย ได้ออกมาโพสต์ประกาศขายพูลวิลล่าที่เขาใหญ่ ซึ่งบ้านนั้นสวยมาก และกิจการก็ดูไปได้ดี จนหลายคนอยากรู้ความจริงว่าทำไมถึงขาย

    จนล่าสุด หนูเล็ก ก่อนบ่าย ได้ออกมาโพสต์บอกความจริงถึงเหตุผลที่ขายแล้ว กับโพสต์นี้ที่เขียนแคปชั่นไว้ว่า

    “บ้านคือดีมากแต่ทำไมขายหลายคนอยากรู้ความจริง

    หนูมีโปรเจ็คใหม่ ไม่อยากกู้ธนาคาร แค่นั้นเองเลยค่ะ ถ้ามีใครให้ยืมเงิน 0% ก็จะไม่ขาย เคยโพสต์แล้ว 55555

    บ้านเดี่ยว 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ บ้านเลขที่ 218/21 ต.หมูสี อ.ปากช่อง พื้นที่ 139.6 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 228 ตร.ม. สระว่ายน้ำ ขนาด 3×7 เมตร สระว่ายน้ำระบบเกลือซีทรู ขนาด 3×7 เมตร 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำพักได้ไม่เกิน 14 ท่าน 3 ห้องนอน3 ห้องน้ำ”

    และลงท้ายที่ หนูเล็ก บอกว่าจะให้ราคาพิเศษ ให้ทักมาได้เลย

  • KUBET – รพ.สัตว์ ถึงกับอึ้ง ผู้หญิงโทรถาม “นอนแก้ผ้าแล้วหมาขึ้นขี่ จะท้องไหม?” แนะให้ไปหาหมอ

    รพ.สัตว์ ถึงกับอึ้ง ผู้หญิงโทรถาม “นอนแก้ผ้าแล้วหมาขึ้นขี่ จะท้องไหม?” เจ้าหน้าที่แนะให้ไปหาหมอ

    เมื่อเร็ว ๆ นี้ พนักงานหญิงของโรงพยาบาลสัตว์แห่งหนึ่งได้แชร์เคสสุดแปลก หญิงเจ้าของสุนัขโทรมาสอบถามว่า ขณะเธอนอนเปลือยกาย สุนัขของเธอที่ยังไม่ได้ทำหมันขึ้นขี่เธอ เธอจึงกังวลว่าจะตั้งครรภ์หรือไม่ พนักงานแนะนำให้ไปพบแพทย์แผนกสูตินรีเวช แต่ไม่กี่วันต่อมา หญิงคนเดิมโทรกลับมาอีกครั้ง ถามว่า “สุนัขของฉันยังขึ้นขี่ฉันอยู่ตลอด ควรทำอย่างไรดี?” นอกจากนี้ เธอยังโทรไปสอบถามโรงพยาบาลสัตว์หลายแห่งด้วยคำถามเดียวกัน

    ผู้โพสต์เล่าในฟอรั่ม Dcard ว่า เธอทำงานที่โรงพยาบาลสัตว์ 24 ชั่วโมง และก่อนเลิกงานตอนเช้าได้รับโทรศัพท์จากหญิงเจ้าของสุนัข โดยหญิงคนนั้นถามว่า “เมื่อคืนฉันนอนอยู่ แล้วสุนัขพันธุ์โกลเด้นรีทรีฟเวอร์ของฉันขึ้นขี่ ฉันจะตั้งครรภ์ไหม?” และ “ฉันนอนเปลือยกาย และสุนัขของฉันยังไม่ได้ทำหมัน มันมักจะขึ้นขี่ฉันตอนฉันหลับ”

    ผู้โพสต์จึงตอบว่า “แนะนำให้คุณไปตรวจที่โรงพยาบาล และพาสุนัขไปทำหมันโดยเร็ว” หญิงเจ้าของสุนัขถามว่าควรไปแผนกไหน ผู้โพสต์ตอบว่า “ควรไปสูตินรีเวช”

    ผ่านไปไม่กี่วัน หญิงคนนั้นโทรมาอีกครั้งและถามว่า “สุนัขของฉันยังคงขึ้นขี่ฉันอยู่ ทำอย่างไรดี?” ผู้โพสต์จึงตอบว่า “รีบพาไปให้สัตวแพทย์ประเมินและทำหมันเถอะ!”

    เธอเล่าว่า “คุยกันเกือบครึ่งชั่วโมง วนเวียนอยู่เรื่องเดิม จนภายหลังได้ยินจากโรงพยาบาลสัตว์แห่งอื่นว่าหญิงคนนี้โทรไปสอบถามที่นั่นด้วยคำถามเดียวกัน กลายเป็นเรื่องหลอนในวงการโรงพยาบาลสัตว์เลยทีเดียว”

    หลังจากโพสต์นี้ถูกเผยแพร่ออกไป มีชาวเน็ตจำนวนมากเข้ามาแสดงความคิดเห็น เช่น

    • “ข้อมูลแน่นมาก แต่เธอควรไปพบจิตแพทย์ด้วยนะ”
    • “มนุษย์กับสุนัขมีความแตกต่างของโครโมโซม ไม่สามารถตั้งครรภ์ได้”
    • “ถึงจะไม่ตั้งครรภ์ แต่ไม่รู้ว่าเธออยากหยุดพฤติกรรมนี้จริง ๆ หรือแค่คิดว่าไม่ท้องเลยปล่อยให้เกิดขึ้นต่อไป ถ้าอยากหยุด ควรฝึกให้สุนัขนอนในกรงก่อนนอน”
  • KUBET – งานแต่ง “นิกกี้ นิโคล-ไฮโซหมูแฮม” ทายาทพันล้านแบรนด์ AIIZ อลังการมาก

    นิกกี้ นิโคล เข้าพิธีวิวาห์แล้วกับ ไฮโซหมูแฮม ทายาทพันล้านแบรนด์ดัง AIIZ บรรยากาศอบอุ่นโรแมนติกและอลังการสมฐานะมาก

    นักแสดงสาว นิกกี้-นิโคล กิตติวัฒน์ ทายาทฝาแฝดของอดีตนางแบบคนดัง รุ่งนภา กิตติวัฒน์ ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนสิงหาคม ปี 2567 เธอได้ลงภาพเป็นโมเมนต์แห่งความซาบซึ้งใจ เมื่อแฟนหนุ่ม ไฮโซหมูแฮม-ธารินทร์ ธนากิจอำนวย ทายาทพันล้านแบรนด์ดัง AIIZ ได้ทำเซอร์ไพรส์คุกเข่าขอแต่งงาน ท่ามกลางความยินดีของสองครอบครัวและเพื่อนสนิทของทั้งสองคน 

    ล่าสุด วานนี้ (16 มี.ค.) นิกกี้ นิโคล ได้เข้าพิธีวิวาห์กับ หมูแฮม-ธารินทร์ ธนากิจอำนวย บรรยากาศเป็นอย่างอบอุ่นและชื่นมื่นมากๆ เจ้าสาวสวยราวกับเจ้าหญิงเลยทีเดียว ส่วนเจ้าบ่าวก็หล่อสมาร์ทสุดๆ เรียกว่าเหมาะสมกันราวกับกิ่งทองใบหยกเลยจริงๆ 

    ภายในนอกจากจะมีครอบครัวญาติสนิทของทั้งเจ้าบ่าวเจ้าสาวแล้ว  ยังมีบุคคลจากแวดวงธุรกิจและแวดวงบันเทิงไปร่วมแสดงความยินดีกันอย่างล้นหลามเลยทีเดียว อาทิ มิลลี่ คามิลล่า นางเอกสาวซึ่งเป็นพี่สาวฝาแฝดของ นิกกี้ นิโคล และยังมี เอ ศุภชัย, ศรีริต้า เจนเซ่น, กรณ์ ณรงค์เดช, ซอนญ่า สิงหะ, สรัย วัชรพล เป็นต้น 

     

     

  • KUBET – กูรูความปลอดภัยอาหาร เผยชื่อ 3 สิ่งในซุปเปอร์ฯ ที่ “ไม่กินเด็ดขาด” เพราะเสี่ยงเชื้อถึงชีวิต!

    3 อาหารจากซุปเปอร์มาร์เก็ต ที่ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยอาหารเตือนว่า “อาจฆ่าคุณได้” เพราะเสี่ยงต่อการติดเชื้อที่อาจรุนแรงถึงขั้นอันตรายต่อชีวิต

    ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยอาหาร กล่าวถึงการเลือกซื้ออาหารจากซุปเปอร์มาร์เก็ต ที่อาจดูเหมือนสะดวกสบายเหมาะกับไลฟ์สไตล์คนยุคปัจจุบัน แต่อาหารบางประเภทอาจทำให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อที่อาจร้ายแรงถึงชีวิตได้ โดนเตือนถึงอาหาร 3 ประเภทที่ควรหลีกเลี่ยง

    ดร.ไบรอัน ก๊วก นักวิทยาศาสตร์อาหาร และที่ปรึกษาอุตสาหกรรมอาหารของสหรัฐฯ ได้เตือนถึง ผลไม้ที่หั่นล่วงหน้า ผลไม้ที่หั่นไว้ล่วงหน้า เช่น มะม่วง แตงโม และสับปะรด เป็นอาหารที่มีความเสี่ยงสูงต่อการปนเปื้อนของแบคทีเรียอันตราย เช่น E. coli โดยเหตุผลหลักคือ การหั่นผลไม้ทำให้เปลือกที่ช่วยป้องกันถูกทำลาย และเนื้อผลไม้สัมผัสกับอากาศ ซึ่งเป็นสภาพแวดล้อมที่เหมาะสำหรับแบคทีเรียในการเจริญเติบโต

    ในขณะเดียวกัน ศจ.คาลี ไนล นักจุลชีววิทยาจากมหาวิทยาลัยเดลาแวร์ พูดถึงประเด็น ต้นอ่อน (Sprouts) ต้นอ่อนต่างๆ มักใช้ในสลัด ซุป หรือแซนด์วิช เป็นอีกหนึ่งอาหารที่เสี่ยงต่อการปนเปื้อนของแบคทีเรียที่อันตราย เช่น Salmonella และ Listeria ซึ่งสามารถเจริญเติบโตในสภาพแวดล้อมที่อบอุ่นและชื้น ที่เหมาะสมกับการเพาะปลูกต้นอ่อน โดยผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า แม้การปรุงอาหารอาจช่วยลดความเสี่ยงได้ แต่หากไม่ได้ทำการต้มหรือปรุงจนสุกเต็มที่ ก็อาจเสี่ยงต่อการติดเชื้อ

    ทั้งนี้ ดร.ก๊วก ยังเตือนถึง นมดิบ (Raw Milk) นมที่ไม่ได้ผ่านการพาสเจอไรซ์ เป็นผลิตภัณฑ์ที่ยังคงมีแบคทีเรียอันตราย เช่น E. coli, Listeria, และ Campylobacter ที่อาจทำให้เกิดอันตรายต่อร่างกายได้ โดยเฉพาะในกลุ่มคนที่มีความเสี่ยงสูง เช่น ผู้สูงอายุ หญิงตั้งครรภ์ และเด็กเล็ก แม้ว่าผู้สนับสนุนนมดิบจะอ้างว่ามีประโยชน์ต่อสุขภาพ แต่การบริโภคนมดิบยังคงมีความเสี่ยงสูงในด้านความปลอดภัย

    “มีคนจำนวนมากที่กล่าวอ้างว่านมดิบมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย แต่มันก็ไม่คุ้มกับความเสี่ยง เพราะยังมีจุลินทรีย์ก่อโรคจำนวนมากที่ยังมีชีวิตอยู่ในนมนั้น โดยเฉพาะถ้ามาจากโรงงานแปรรูปโดยตรง” ดร.ก๊วก กล่าว

    ดังนั้น ท้ายที่สุดควรจำไว้เสมอว่า การเลือกซื้อและบริโภคอาหารอย่างระมัดระวังเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะในกรณีของอาหารที่มีความเสี่ยงสูงเช่นนี้ เพื่อหลีกเลี่ยงการติดเชื้อที่อาจมีอันตรายต่อสุขภาพและชีวิตของเรา

  • KUBET – หญิงวัย 33 ปี ป่วยมะเร็งลำไส้ หนีจากห้องผ่าตัดหลังรับโทรศัพท์ แพทย์อึ้งเมื่อรู้เหตุผล

    หญิงวัย 33 ปี ป่วยมะเร็งลำไส้ หนีออกจากห้องผ่าตัดหลังรับโทรศัพท์ แพทย์อึ้งเมื่อรู้เหตุผล เสียดายคนไข้ทิ้งโอกาสรอดชีวิต 

    เมื่อผู้ป่วยหญิงที่กำลังจะเข้ารับการวางยาสลบก่อนผ่าตัดมะเร็งได้รับโทรศัพท์สายหนึ่ง หลังจากคุยโทรศัพท์เสร็จ เธอตัดสินใจขอออกจากโรงพยาบาลและยกเลิกการผ่าตัด

    ปฏิเสธการรักษาเพราะคำแนะนำของหมอพื้นบ้าน

    เมื่อไม่นานมานี้ นพ.ฮา ไฮ นาม รองหัวหน้าภาควิชาศัลยกรรม 1 โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในเวียดนาม ได้รับผู้ป่วยหญิงวัย 33 ปี ซึ่งได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ระยะเริ่มต้น แพทย์ได้อธิบายให้เธอทราบว่า มะเร็งในระยะนี้สามารถรักษาให้หายขาดได้ โดยหลังจากผ่าตัด เธอจะได้รับการทำเคมีบำบัดเพิ่มเติม และมีโอกาสหายสูง

    ในวันผ่าตัด ทุกอย่างถูกเตรียมพร้อม ผู้ป่วยกำลังจะถูกวางยาสลบ แต่ทันใดนั้น เธอได้รับโทรศัพท์จากแม่ของเธอและแม่สามี ทั้งสองคนบอกให้เธอยกเลิกการผ่าตัดทันที

    เมื่อแพทย์สอบถามถึงเหตุผล ครอบครัวของเธออ้างว่าหมอพื้นบ้านแนะนำว่า “ไม่ควรผ่าตัด เพราะอาจเป็นอันตราย”

    แพทย์และผู้ป่วยต่างตกตะลึงกับสิ่งที่ได้ยิน แม่ของเธอยืนยันว่าเธอพบหมอพื้นบ้านที่สามารถรักษาโรคนี้ได้โดยไม่ต้องผ่าตัด

    สุดท้าย ผู้ป่วยหญิงวัย 33 ปี ไม่สามารถตัดสินใจด้วยตัวเองได้ และตัดสินใจ “วิ่งออกจากห้องผ่าตัด” ก่อนขอออกจากโรงพยาบาลเพื่อกลับไปรักษาตามความเชื่อของแม่และแม่สามี

    โอกาสรอดที่ถูกปฏิเสธ

    ดร.นามกล่าวว่า รู้สึกเสียดายกับกรณีของผู้ป่วยรายนี้ เพราะหากเธอเข้ารับการผ่าตัด เธอมีโอกาสหายขาด แต่การปฏิเสธการรักษาจะทำให้มะเร็งลุกลามรวดเร็วขึ้น และหากวันหนึ่งเธอกลับมารักษาอีกครั้ง โรคอาจเข้าสู่ระยะสุดท้าย ซึ่งทำให้การรักษายากขึ้นมาก

    ปัจจุบัน มีผู้ป่วยจำนวนมากที่ขาดความรู้และหลงเชื่อ “หมอเทวดา” จนปฏิเสธการรักษาทางการแพทย์ ซึ่งส่งผลให้แพทย์ไม่สามารถช่วยเหลือพวกเขาได้

    มะเร็งลุกลามจากระยะ 1 เป็นระยะ 4 เพราะเชื่อหมอพื้นบ้าน

    ดร.เหงียน ซุย อานห์ จากศูนย์มะเร็ง โรงพยาบาลพหุสาขาฟงดง เคยพบกรณีของผู้ป่วยหญิงวัย 42 ปี จากเมืองไฮฟอง ซึ่งป่วยเป็นมะเร็งเต้านมระยะเริ่มต้น

    เมื่อเดือนมีนาคม 2023 เธอคลำพบก้อนเนื้อที่เต้านมขวาและมีอาการปวดเล็กน้อย เมื่อตรวจพบว่าเป็นมะเร็งเต้านมระยะต้น แพทย์ได้แนะนำให้เธอเข้ารับการผ่าตัด ซึ่งสามารถรักษาให้หายขาดได้

    ในตอนแรกเธอยอมรับการรักษา แต่ต่อมาเธอกลับปฏิเสธและเลือกใช้ยาสมุนไพรของหมอพื้นบ้านแทน

    “หมอพื้นบ้านรับประกันว่าเพียงแค่ดื่มและใช้ยาพอกก็สามารถหายได้โดยไม่ต้องผ่าตัด” เธอเล่าว่า ในช่วงแรกหลังใช้ยา อาการของเธอดีขึ้น เธอจึงไม่กลับไปตรวจซ้ำ และคิดว่าโรคถูกควบคุมได้

    แต่ไม่นาน เธอกลับรู้สึกว่าก้อนเนื้อเติบโตขึ้น อาการปวดทวีความรุนแรง ผิวหนังบริเวณก้อนเนื้อแข็งตัว เมื่อเธอไปพบแพทย์อีกครั้ง ผลตรวจพบว่า มะเร็งได้ลุกลามจากระยะ 1 ไปเป็นระยะ 4

    แพทย์พบว่า เธอมีเนื้องอกขนาด 25×52 มม. ต่อมน้ำเหลืองขยายตัว และตรวจพบจุดเงาบนปอด

    ความสำคัญของการเข้ารับการรักษาที่เหมาะสม

    ดร.อานห์กล่าวว่า กรณีของผู้ป่วยรายนี้เป็นเรื่องน่าเสียดาย เพราะหากเธอรับการรักษาตามคำแนะนำของแพทย์ เธอมีโอกาสหายขาด แต่มะเร็งกลับลุกลามไปไกลเกินกว่าที่จะควบคุมได้

    ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า มะเร็งที่สามารถผ่าตัดได้ถือเป็นโรคที่มีโอกาสรักษาให้หายขาด การผ่าตัดเป็นขั้นตอนสำคัญในการกำจัดเซลล์มะเร็ง หลังจากนั้นแพทย์จะประเมินว่าจำเป็นต้องใช้เคมีบำบัดหรือการฉายรังสีเพิ่มเติมหรือไม่

    การปฏิเสธการรักษาอาจหมายถึงการสูญเสียโอกาสรอดชีวิตที่มีค่าที่สุด

  • KUBET – ด.ช.อายุแค่ 10 ปี มีไขมันพอกตับ รู้สิ่งที่กินทุกวันแล้วหายสงสัย จาก 3 เมนูโปรดของเด็กๆ

    เด็กชายวัย 10 ปี มีภาวะไขมันพอกตับ หมอรู้อาหารที่กินทุกวันแล้วหายสงสัย เหตุจาก 3 เมนูโปรดของเด็กๆ หลายคน

    “เสี่ยวเฉิน” นักเรียนชั้น ป.4 วัย 10 ปี จากไต้หวัน ไปโรงพยาบาลเพราะเป็นหวัด แต่เมื่อตรวจร่างกายอย่างละเอียด แพทย์พบว่าเขาหนักถึง 50 กก. และมีค่าดัชนีมวลกาย (BMI) ที่ 25 จัดอยู่ในเกณฑ์อ้วน เมื่อทำอัลตราซาวด์ช่องท้อง พบว่าตับของเขามีสีขาวผิดปกติ และได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นภาวะไขมันพอกตับ

    แพทย์จาง อวี้ซาน จากแผนกฉุกเฉินเด็ก โรงพยาบาล Chi Mei พบว่า เสี่ยวเฉินชอบกินข้าวขาว อาหารทอด และดื่มมิลค์เชคทุกวัน หลังเลิกเรียนก็มักเล่นเกมจนดึกและไม่ออกกำลังกายเลย ส่งผลให้ไขมันสะสมในตับและกระทบต่อสุขภาพ

    แพทย์แนะนำให้พ่อแม่ปรับพฤติกรรมการกินของลูก ลดน้ำตาลและอาหารที่ให้พลังงานสูง พร้อมส่งเสริมให้เด็กออกกำลังกายเป็นประจำ เพื่อป้องกันปัญหาสุขภาพและผลกระทบทางจิตใจ เช่น การขาดความมั่นใจและการถูกโดดเดี่ยวทางสังคม นอกจากนี้ ยังได้จัดทำแผนดูแลสุขภาพเฉพาะสำหรับเสี่ยวเฉิน หลังจากปรับพฤติกรรมเป็นเวลา 3 เดือน เขาสามารถลดน้ำหนักได้ 5 กก. และกำลังมุ่งหน้าสู่การมีสุขภาพที่ดีขึ้น

    แพทย์จาง อวี้ซาน กล่าวว่า หลักเกณฑ์ในการระบุว่าเด็กมีน้ำหนักเกินหรือน้ำหนักตัวเกินเกณฑ์ คือ ดัชนีมวลกาย (BMI) ของเด็กเกินขอบเขตที่กำหนดสำหรับอายุและเพศของเด็ก (มากกว่า 85% สำหรับกลุ่มอายุนี้ถือว่า “น้ำหนักเกิน” และมากกว่า 95% ถือว่า “อ้วน”)

    ซึ่งไม่เพียงส่งผลต่อรูปร่างภายนอกของเด็ก แต่ยังสามารถก่อให้เกิดความเสี่ยงทางสุขภาพหลายประการ เช่น เบาหวาน โรคหัวใจ ไขมันพอกตับ หยุดหายใจขณะนอนหลับ และอื่น ๆ

    นอกจากนี้ สถานการณ์น้ำหนักเกินในเด็กยังสามารถส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิต ทำให้เกิดความรู้สึกขาดความมั่นใจ วิตกกังวล ซึมเศร้า หรือแม้กระทั่งการถูกกลั่นแกล้งในโรงเรียน ซึ่งมีผลต่อการพัฒนาทางกายภาพและจิตใจของเด็ก

    5 อาหารช่วยลดไขมันพอกตับ

    • ผักตระกูลกะหล่ำ: เช่น บรอกโคลี กะหล่ำปลี ขึ้นฉ่าย และผักอื่น ๆ ที่มีซัลโฟราเฟน ซึ่งช่วยล้างพิษในตับและอุดมไปด้วยไฟเบอร์และวิตามินที่ช่วยเพิ่มการเผาผลาญ ลดไขมันในตับและไขมันภายในร่างกาย

    • กระเทียม: กระเทียมอุดมไปด้วยกำมะถันและสารช่วยลดน้ำหนักและไขมันในผู้ป่วยที่มีไขมันพอกตับ สารอัลลิซินในกระเทียมช่วยเสริมความสามารถในการล้างพิษของตับ การศึกษาปี 2020 พบว่า ผู้ป่วยที่มีไขมันพอกตับไม่เกี่ยวกับการดื่มแอลกอฮอล์ที่รับประทานผงกระเทียม 800 มก. ต่อวันเป็นเวลา 15 สัปดาห์ สามารถลดไขมันในตับและปรับปรุงระดับเอนไซม์ได้

    • อาหารที่มีกรดไขมันโอเมก้า-3: กรดไขมันโอเมก้า-3 เป็นกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อร่างกาย ช่วยลดการอักเสบในร่างกาย คุณสามารถเลือกอาหารอย่างอะโวคาโด วอลนัท ปลาแซลมอน หรือปลาทูน่าในมื้ออาหารของคุณ

    • ขมิ้น: ขมิ้นที่มีสารเคอร์คูมินในปริมาณสูงสามารถลดสัญญาณความเสียหายของตับในผู้ที่มีไขมันพอกตับไม่เกี่ยวกับการดื่มแอลกอฮอล์ การเสริมขมิ้นช่วยลดระดับเอนไซม์ alanine aminotransferase (ALT) และ aspartate aminotransferase (AST) ซึ่งสูงผิดปกติในผู้ป่วยไขมันพอกตับ

    • ถั่วเหลืองและถั่วชนิดต่าง ๆ: อาหารกลุ่มนี้ช่วยลดความเสี่ยงของไขมันพอกตับไม่เกี่ยวกับการดื่มแอลกอฮอล์ การบริโภคถั่วสามารถช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดและไขมันไตรกลีเซอไรด์ในผู้ที่มีภาวะอ้วน ลดผลกระทบจากไขมันพอกตับได้

  • KUBET – รวมเลขเด็ด 16/3/68 มาแรง เลขดังทุกสำนัก เลข อดีตพระยันตระ แม่น้ำหนึ่ง ปฏิทินจีน

    เลขเด็ดงวดนี้ 16 มีนาคม 2568 เราลองไปดูกันดีกว่าว่าเลขงวดนี้จะมีเลขไหนเด่น ข่าวไหนดังบ้าง โดยเราได้รวบรวมมาให้คุณได้ดูกันแล้ว ลองไปดูกันเลย
    *** โปรดใช้วิจารณญาณในการรับชม *

    ข่าวหวย : ส่องเลขเด็ด ป๊ายปาย โอริโอ้ ถอยรถใหม่ เลขทะเบียนสวย

    เลขเด็ดป๊ายปาย

    หลังจากรับรถมา ป๊ายปาย ได้จัดการนำรถเข้าร้านเพื่อตกแต่งออฟชั่น VIP แบบจัดเต็ม และเมื่อรถเสร็จสมบูรณ์ เจ้าตัวก็ได้โพสต์ภาพคู่กับ น้องเทพพระเจิด ลงเฟซบุ๊กส่วนตัว พร้อมแคปชั่นสุดภูมิใจ ส่วนเลขทะเบียนคือ ล-8954

    ที่มา :  เลขเด็ดป๊ายปาย

    ข่าวหวย : คอหวยแห่ส่อง เลขเด็ด อาเล็ก ธีรเดช เลขธูป ชัดมาก

    เลขเด็ดอาเล็กธีรเดชนานๆ ทีจะเห็น อาเล็ก โพสต์ภาพเลขเด็ด โดยเมื่อเลื่อนไปดู ได้ปรากฏเลขธูป 2 อัน ที่ถูกจุดเรียบร้อยแล้ว มีตัวเลขขึ้นมาอย่างชัดเจน คือ 864,449

    ที่มา :  เลขเด็ดอาเล็กธีรเดช

    ข่าวหวย : คอหวยแห่ส่องทะเบียน เจ๊สวยซื้อรถตู้ให้กู้ภัย ลุ้นงวด 16/3/68

    เลขเด็ดเจ๊สวยตัวเลขของทะเบียนรถตู้ คือ 6 5 4 1 เอาไว้เป็นทางเลือกในการเสี่ยงโชคเพราะเชื่อว่าเจ้าที่เจ้าทางในบ้านหลังดังกล่าวอาจจะเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์เนื่องจาก“เจ๊สวย” เคยได้โชคถูกรางวัลติดต่อกันมา ถึง 13 งวด คาดว่างวดนี้คงไม่พลาดอีกเหมือนเคย

    ที่มา : เลขเด็ดเจ๊สวย

    ข่าวหวย : เลขเด็ด อดีตพระยันตระ ละสังขาร คอหวยแห่ส่องลุ้นรวยงวด 16/3/68 

    เลขเด็ดอดีตพระยันตระ

    จากเหตุการณ์การละสังขารของ อดีตพระยันตระ หรือ นายวินัย ละอองสุวรรณ ที่เป็นที่เคารพนับถือของศิษยานุศิษย์จำนวนมาก

    เลขเด็ด “อดีตพระยันตระ” ละสังขาร งวดนี้ แนวทางเลขเด็ด

    • วันที่ละสังขาร: 9 มีนาคม 2025 (09, 03, 2025)
    • อายุ: 73 ปี
    • พรรษา: 51
    • เลขที่ตั้งวัดสุญญตาราม: 9560
    • เลขที่ตั้งวัดสุญญตาราม (รหัสไปรษณีย์): 92026

    ที่มา : เลขเด็ดอดีตพระยันตระ

    ข่าวหวย : เลขเด็ด ม้าสีหมอก ลุ้นงวด 16/3/68 เลขนำโชค 0 กับ 3 มาแรง 

    เลขเด็ดม้าสีหมอก

    เลขเด็ดม้าสีหมอก ในงวดนี้ ให้เน้นไปที่ เลข 0-8 วิ่งบน 0 ได้แก่ 02 07 82 87 และวิ่งล่าง 3 ได้แก่ 31 35 71 75

    ที่มา : เลขเด็ดม้าสีหมอก

    ข่าวหวย : เลขเด็ดปฏิทินจีน งวด 16/3/68 มาแล้ว 5 ฉบับ มีพิเศษเพิ่มด้วย 

    เลขเด็ดปฏิทินจีน

    ผู้ใช้แอปพลิเคชั่น TikTok บัญชี nid8857 ปทุมราชเทคนิคโซล่าเซลท์ ได้โพสต์คลิปปฏิทินจีนแบ่งปันแนวทางให้แก่นักเสี่ยงโชค จำนวน 5 ฉบับ ซึ่งพิเศษกว่าทุกงวด จากเดิมที่มี 4 ฉบับ ได้แก่ 824,3452,1976,5329,50781

    ที่มา : เลขเด็ดปฏิทินจีน

    ข่าวหวย : ลขเด็ดแม่น้ำหนึ่ง งวด 16/3/68 มาแล้ว เลขไหนมาแรง 

    เลขเด็ดแม่น้ำหนึ่ง

    ล่าสุด “แม่น้ำหนึ่ง” ได้ออกมาประกาศแนวทางการให้ เลขเด็ดหวยงวดนี้ 16/3/68 มาแล้ว โดยให้เน้นไปที่ เลข 8 วิ่งรูด 8- 2 จับคู่ 82 86 26 20 80 60 เน้นไปที่ 8260

    ที่มา : เลขเด็ดแม่น้ำหนึ่ง

    คลิกตรวจหวยและข่าวหวยได้ที่นี่