ผู้เขียน: admin

ดาราสาวดาวรุ่ง อายุแค่ 24 ปี หัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน นอนเป็นผัก 3 เดือน ฟื้นขึ้นมาราวปาฏิหาริย์

เซียว เหยียนหนี (肖妍倪) นักแสดงสาวชาวจีน วัย 28 ปี เปิดเผยในการให้สัมภาษณ์ว่า เมื่อเดือนกันยายน ปี 2021 เธอเกิดอาการ หัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน และถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน โดยแพทย์วินิจฉัยว่าอาการหัวใจหยุดเต้นนั้นทำให้สมองขาดเลือด (ภาวะสมองขาดออกซิเจน)

เธออยู่ในอาการโคม่าและเข้าสู่สภาพผัก (Vegetative State) เป็นเวลา 3 เดือน แต่ในที่สุดเธอก็ ฟื้นขึ้นมาได้อย่างปาฏิหาริย์ ตลอดช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา เธอจึงต้องเข้ารับการฟื้นฟูสมรรถภาพร่างกายทำกายภาพบำบัดอย่างต่อเนื่อง

เซียว เหยียนหนี ยังเปิดเผยเพิ่มเติมว่า แพทย์ไม่สามารถระบุสาเหตุที่แน่ชัดของอาการหัวใจหยุดเต้นได้ เพราะไม่มีสัญญาณเตือนใด ๆ ล่วงหน้า เธอคาดว่าอาจเกิดจากการทำงานหนักเกินไป เนื่องจากเธอเริ่มเข้าสู่วงการบันเทิงตั้งแต่อายุ 16 ปี และในช่วง 9 ปีที่ผ่านมา เธอถ่ายละครจำนวนมาก ต้องตื่นแต่งหน้าตั้งแต่ตี 5 เริ่มถ่ายงานตอน 6 โมงเช้า และบางครั้งทำงานยาวถึงหลังเที่ยงคืน แม้จะเลิกงานดึกมาก เธอก็ยังไปออกกำลังกายต่อ

ความปรารถนาของเธอในตอนนี้ คืออยากกลับไปแสดงละครอีกครั้งหลังจากหายดี

เซียว เหยียนหนี (ชื่อเดิม 马佳冶 / หม่าจาเหย่) เกิดเมื่อปี 1997 เคยรับบท “เหอเหม่ย” ในละครเรื่อง หัวหน้าห้องที่รัก (班长“殿下”) และมีผลงานร่วมแสดงในซีรีส์จีนอีกหลายเรื่อง จบการศึกษาจากสถาบันภาพยนตร์ปักกิ่ง (Beijing Film Academy) และเดิมทีเธอมีแววจะกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ของวงการบันเทิงแต่กลับมาป่วยเสียก่อน

Tailândia (ไตลังเจีย) แปลตรงตัวจากภาษาโปรตุเกส หมายความว่า “ประเทศไทย” เป็นเมืองขนาดกลางที่ตั้งอยู่ในรัฐปารา (Pará) ทางตอนเหนือของประเทศบราซิล ก่อตั้งเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 1989 เมืองนี้มีพื้นที่ทั้งหมด 4,430.222 ตร.กม. (1,710.518 ตร.ไมล์) และประชากรทั้งหมด 79,297 คน (ข้อมูลปีพ.ศ. 2553)

แม้จะไม่ใช่เมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงระดับโลก แต่ Tailândia ก็มีความน่าสนใจในแง่ของวัฒนธรรมท้องถิ่น การเติบโตทางเศรษฐกิจ และการเป็นตัวอย่างของเมืองในเขตร้อนชื้นที่มีการเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว

เหตุผลที่เมืองนี้ชื่อว่า “Tailândia”

1. การตั้งชื่อโดยแรงบันดาลใจจากต่างประเทศ

ช่วงปี 1980 บราซิลมีการขยายตัวของประชากรจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือเข้าสู่แถบอเมซอน และมีการตั้งถิ่นฐานใหม่หลายแห่ง บ่อยครั้งผู้บุกเบิกหรือนักลงทุนที่เป็นเจ้าของพื้นที่เป็นคนตั้งชื่อเมืองเอง ซึ่งมักใช้ชื่อที่ดู “แปลกใหม่” หรือ “น่าสนใจ” เพื่อดึงดูดผู้คนหรือนักลงทุน

2. กระแสความนิยมในวัฒนธรรมต่างประเทศ

ในยุคนั้น ชื่อของบางประเทศ เช่น ญี่ปุ่น, เยอรมนี หรือแม้แต่ ไทย มักถูกมองว่า “ทันสมัย” หรือ “แปลกใหม่” และมีภาพลักษณ์บางอย่างที่น่าสนใจ เช่น การพัฒนา ความสงบ หรือความแปลกทางวัฒนธรรม ชื่อ “Tailândia” จึงอาจถูกเลือกเพราะฟังดูมีเสน่ห์และแตกต่าง

3. ไม่มีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับประเทศไทย

แม้ชื่อจะเหมือน แต่ Tailândia ในบราซิลไม่ได้มีความเชื่อมโยงโดยตรงกับประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นในแง่วัฒนธรรม การอพยพ หรือความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เป็นเพียงการตั้งชื่อที่มีแรงบันดาลใจแบบ “แฟนซี” ตามใจผู้นำชุมชนในยุคนั้น

4. เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นบ่อยในบราซิล

จริงๆแล้ว บราซิลมีหลายเมืองหรือชุมชนที่ใช้ชื่อของประเทศต่างๆ ซึ่งสะท้อนถึงวัฒนธรรมการตั้งชื่อที่เปิดกว้างและสร้างสรรค์ เช่น:

– Nova Iorque (นิวยอร์ก)
– Palestina (ปาเลสไตน์)
– Canadá (แคนาดา)
– Irlanda (ไอร์แลนด์)

ภูมิศาสตร์และสิ่งแวดล้อม

Tailândia ตั้งอยู่ในภูมิภาคแอมะซอน มีสภาพภูมิอากาศแบบร้อนชื้นตลอดทั้งปี เมืองนี้อยู่ท่ามกลางพื้นที่ป่าและธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ อย่างไรก็ตาม การตัดไม้และการขยายพื้นที่เกษตรกรรมในบริเวณนี้ก็เป็นประเด็นที่มีการพูดถึงอยู่เสมอ เนื่องจากส่งผลต่อระบบนิเวศและสิ่งแวดล้อมของป่าแอมะซอน

เศรษฐกิจ

เศรษฐกิจของ Tailândia พึ่งพาอุตสาหกรรมไม้ การทำฟาร์ม และกิจกรรมทางการเกษตรเป็นหลัก เมืองนี้มีโรงงานแปรรูปไม้หลายแห่ง เป็นหนึ่งในศูนย์กลางของอุตสาหกรรมไม้อย่างไม่เป็นทางการในภูมิภาค แม้จะมีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว แต่ Tailândia ก็เผชิญกับความท้าทายด้านการจัดการทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในระยะยาว

วัฒนธรรมและชีวิตความเป็นอยู่

ประชากรในเมืองมีความหลากหลายทางวัฒนธรรม ผสมผสานระหว่างผู้ย้ายถิ่นจากภาคต่างๆของบราซิล วิถีชีวิตของชาวเมืองมีความเรียบง่ายและใกล้ชิดกับธรรมชาติ มีตลาดท้องถิ่นที่คึกคัก และกิจกรรมชุมชนที่สะท้อนถึงวัฒนธรรมของคนบราซิลอย่างแท้จริง

สรุปคือ เมือง Tailândia ในบราซิลไม่ได้เกี่ยวอะไรกับประเทศไทยโดยตรง แต่เป็นผลมาจากการตั้งชื่อที่ต้องการความโดดเด่น แปลกใหม่ และอาจสะท้อนความประทับใจในชื่อ “ประเทศไทย” ของผู้ตั้งเท่านั้น

หากอยากรู้ว่าเมืองนี้มีอะไรที่ดู “ไทย” บ้างหรือไม่? ตอบได้เลยว่า ไม่มี มีแค่ชื่อเท่านั้นที่เหมือน!

เจ้าบ่าวป้ายแดงฟ้องหย่า เรียกสินสอดคืน โกรธเมียปิดบังเรื่อง “อวัยวะ” ไม่เหมือนคนอื่น ที่ควรมี 1 กลับมี 2 ที่ควรมี 2 กลับมีแค่ 1

เมื่อไม่นานมานี้ ในประเทศจีน มณฑลเจียงซี ชายวัย 31 ปี นามสกุลหลัว ได้แต่งงานกับหญิงสาวนามสกุลหลี่ที่รู้จักกันผ่านแอปนัดดูตัว แต่หลังจากแต่งงานกันได้ไม่นาน เขากลับพบว่าภรรยามีปัญหาสุขภาพร้ายแรงที่ไม่ได้เปิดเผยมาก่อน เช่น มดลูกแฝดแต่กำเนิด และมีไตเพียงข้างเดียว ทำให้ความสัมพันธ์สามีภรรยาแตกร้าวอย่างรวดเร็ว เขาจึงตัดสินใจฟ้องศาลเพื่อขอให้ฝ่ายหญิงคืนเงินสินสอดบางส่วนและทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับพิธีแต่งงาน

ตามรายงานจากสื่อจีน ระบุว่า การหย่าร้างครั้งนี้ได้รับความสนใจอย่างมากจากสังคม เนื่องจากเป็นผลมาจากการพบปัญหาสุขภาพร้ายแรงหลังแต่งงาน หลัวระบุว่าเขาและหลี่รู้จักกันผ่านแพลตฟอร์มหาคู่ และเพียง 13 วันหลังแต่งงาน ฝ่ายหญิงก็เริ่มมีอาการป่วย ตอนแรกเธอไม่ยอมไปตรวจที่โรงพยาบาล แต่ขอใช้ยาจีนในการปรับสมดุลร่างกายแทน

ต่อมา เมื่อไปตรวจที่โรงพยาบาลสตรีและเด็กในมณฑลเจียงซี แพทย์ได้วินิจฉัยว่าเธอเป็นโรคมดลูกแฝด สองปากมดลูก มีผนังกั้นช่องคลอดแนวเฉียง และมีเพียงไตข้างเดียว

หลัวกล่าวว่า ระหว่างตรวจสุขภาพก่อนแต่งงาน ไม่มีการตรวจโรคเหล่านี้ และฝ่ายหญิงก็ไม่เคยแจ้งเรื่องปัญหาสุขภาพมาก่อน เขาสงสัยว่าอีกฝ่ายตั้งใจปกปิดเรื่องนี้ไว้ จึงตัดสินใจขอหย่า เขายังเผยว่า ตลอดระยะเวลาที่ภรรยาเข้ารับการรักษา เขาต้องออกค่าใช้จ่ายไปประมาณ 500,000 หยวน (ราว 2.21 ล้านบาท) ซึ่งแทบจะหมดเงินเก็บของครอบครัว และบางส่วนยังต้องยืมจากพ่อแม่ ทำให้เกิดความกดดันทางการเงินอย่างหนัก

หลังการหย่าร้าง หลัวได้ยื่นฟ้องศาลเพื่อขอคืนสินสอด ทองคำ และแหวนเพชร

ศาลประชาชนเขตหนานชาง ได้ตัดสินในชั้นต้นให้ฝ่ายหญิงคืนสินสอดจำนวน 40,000 หยวน (1.8 แสนบาท) และแหวนเพชร 1 วง อย่างไรก็ตาม หลัวยังไม่พอใจกับผลการตัดสิน เพราะในครั้งแรกเขายื่นขอคืนทรัพย์สินถึง 80% แต่ในชั้นอุทธรณ์เขาได้ลดคำขอลงเหลือ 50%-60% ซึ่งขณะนี้คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาในศาลชั้นสอง และยังไม่มีผลตัดสินสุดท้ายออกมา

เที่ยวบินถูกเลื่อนเวลา เพื่อรอ 6 ผู้โดยสารพิเศษให้มาขึ้นเครื่องทัน พอรู้ว่าเป็นใคร คนทั้งลำเต็มใจล่าช้า 

หลังจากได้รับคำร้องขอฉุกเฉินจากศูนย์ประสานงานการปลูกถ่ายอวัยวะแห่งชาติ สายการบินเวียดนามแอร์ไลน์ (Vietnam Airlines) ได้รีบดำเนินการจัดสรรที่นั่งและขนส่งอวัยวะอย่างเร่งด่วนให้กับคณะแพทย์

เที่ยวบิน VN251 ออกเดินทางจากฮานอยไปโฮจิมินห์เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 7 เมษายน โดยมีภารกิจพิเศษในการขนส่งคณะแพทย์ 6 คนจากโรงพยาบาลทหารกลาง 108 เพื่อเดินทางไปสนับสนุนการผ่าตัดรับบริจาคอวัยวะที่โรงพยาบาลทหาร 175

หลังจากนั้น อวัยวะและทีมแพทย์ได้ถูกลำเลียงอย่างเร่งด่วนต่อไปยังเมืองเว้ด้วยเที่ยวบินเวียดนามแอร์ไลน์ VN1378 และ VN258 จากโฮจิมินห์กลับฮานอย โดยเที่ยวบินนี้ได้ถูกเลื่อนเวลาออกไป 35 นาที เพื่อรอให้คณะแพทย์สามารถขึ้นเครื่องได้ทัน ผู้โดยสารทั้งหมดบนเที่ยวบินแสดงความร่วมมือ อดทนรอด้วยใจเต็มไปด้วยมนุษยธรรม เพื่อภารกิจแห่งชีวิตนี้

ทันทีที่เครื่องบินลงจอด คณะแพทย์และอวัยวะถูกนำส่งไปยังโรงพยาบาลอย่างรวดเร็ว เพื่อดำเนินการปลูกถ่ายในคืนนั้นทันที

ก่อนหน้านี้ หลังจากได้รับคำร้องขอฉุกเฉิน เวียดนามแอร์ไลน์ได้รีบจัดสรรที่นั่ง ออกตั๋วให้กับทีมแพทย์เดินทางไปโฮจิมินห์ และดำเนินการขนส่งอวัยวะไปยังฮานอยและเว้ภายในวันเดียวกัน

เนื่องจากอวัยวะมีระยะเวลาในการเก็บรักษาที่เข้มงวดมาก ทุกขั้นตอนตั้งแต่การเช็กอิน การตรวจสอบความปลอดภัย จนถึงการขึ้นเครื่องบิน ถูกดำเนินการด้วยความรวดเร็วและได้รับการจัดลำดับความสำคัญสูงสุด โดยจัดที่นั่งให้ทีมแพทย์อยู่ใกล้ประตู เพื่อสามารถออกจากเครื่องได้อย่างรวดเร็ว เพื่อให้การเดินทางดำเนินไปได้อย่างราบรื่นและทันเวลา

ด้วยระยะเวลาเก็บรักษาหัวใจสูงสุดเพียง 6 ชั่วโมงนับตั้งแต่ถูกนำออกจากร่างกาย การจัดเที่ยวบิน “นำชีวิตกลับคืน” นี้ต้องอาศัยความพร้อม ความยืดหยุ่น และความแม่นยำสูงสุด ซึ่งมีส่วนช่วยสร้างปาฏิหาริย์ในการช่วยชีวิตผู้ป่วย

 ชาวเน็ตตะลึง “บ้านของประธานแกล้งจน” สุดฮือฮาบน TikTok ภายนอกเก่าโทรม ภายในคือวิลล่าหรู!

กลายเป็นกระแสไวรัลทันที ผู้ใช้งานบนแพลตฟอร์ม TikTok พากันฮือฮาหลังจากรับชมคลิปวิดีโอความยาวเพียง 21 วินาที ที่ถ่ายภาพบ้านหลังหนึ่ง และยอดเข้าชมพุ่งไม่หยุดจนทะลุ 50 ล้านครั้ง โดยสิ่งที่ทำให้ผู้ชมต้องตาค้างก็คือ “ความต่างกันอย่างสิ้นเชิงระหว่างภายนอกและภายในบ้าน”

บ้านหลังนี้เมื่อมองจากภายนอกค่อนข้างเก่าทรุดโทรม ตัวบ้านสร้างด้วยแผ่นไม้อัดบางๆ ที่ตอกติดกันด้วยตะปู ตั้งอยู่บนพื้นดินธรรมดาๆ ราวกับบ้านในพื้นที่ชนบทที่ไม่ได้รับการดูแลมากนัก แต่เมื่อกล้องพาเข้าสู่ภายในบ้าน ภาพที่เห็นกลับทำให้ผู้ชมถึงกับตกตะลึง

เพราะด้านในตกแต่งอย่างหรูหรา ราวกับบ้านพักตากอากาศระดับไฮเอนด์ มีทั้งผนังสีขาวสะอาดตา พื้นปูกระเบื้องเงางาม พร้อมไฟดาวน์ไลท์แบบฝังฝ้าให้แสงอบอุ่น สร้างบรรยากาศน่าอยู่ นอกจากนี้ยังมีเฟอร์นิเจอร์ครบครันทั้งโซฟา ทีวีจอใหญ่ แอร์ เครื่องเสียง และโคมไฟแชนเดอเลียร์

คลิปนี้กลายเป็นประเด็นสนทนาทันที ชาวเน็ตพากันแชร์และแสดงความคิดเห็นอย่างสนุกสนาน เช่น “บ้านหลอกตา” , “บ้านของประธานที่แกล้งจน” , “อย่าตัดสินคนจากภายนอก” , “บ้านแบบนี้เหมาะเอาไว้ลองใจแฟนมาก” , “นี่มันการปลอมตัวระดับตำนาน!”

มีผู้ใช้งานจำนวนไม่น้อยที่ดูคลิปนี้ซ้ำไปซ้ำมา เพราะสงสัยว่านี่คือบ้านหลังเดียวกันจริงหรือไม่ ซึ่งเจ้าของช่อง TikTok ที่โพสต์คลิปดังกล่าวก็ออกมายืนยันว่า นี่คือบ้านในหมู่บ้านแห่งหนึ่งในประเทศอินโดนีเซีย และบ้านลักษณะนี้ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ในพื้นที่มีอยู่หลายหลังเลยทีเดียว

แท้จริงแล้ว บ้านที่เห็นในคลิปคือบ้านที่สร้างอย่างมั่นคงตามมาตรฐานทั่วไป ใช้วัสดุก่อสร้างอย่างอิฐและปูน มีโครงสร้างถาวร แต่ผู้อยู่อาศัยเลือกใช้ไม้เก่าหรือไม้รีไซเคิลมาตกแต่งภายนอก แทนการฉาบปูนหรือทาสี อาจด้วยเหตุผลด้านความชอบส่วนตัว หรือเพื่อเป็นการรักษาความเป็นส่วนตัว

เจ้าของช่องยังกล่าวเพิ่มเติมว่า ไม่ใช่ทุกบ้านในหมู่บ้านนี้จะตกแต่งเช่นนี้ทั้งหมด ความแตกต่างขึ้นอยู่กับฐานะและความต้องการของแต่ละครอบครัว ภายในบ้านหลายหลังจึงได้รับการรีโนเวทหรือปรับปรุงให้สวยงามและทันสมัย โดยเฉพาะบ้านเก่าที่เจ้าของเลือกจะรักษารูปลักษณ์เดิมด้านนอกไว้ ขณะที่ภายในเปลี่ยนใหม่ทั้งหมดให้อาศัยอยู่ได้อย่างสะดวกสบายมากขึ้น

ท้ายที่สุด คลิปไวรัลนี้ไม่เพียงสร้างความสนุกสนานในโลกออนไลน์ แต่ยังชวนให้ตั้งคำถามถึงวิธีคิดของผู้คนเกี่ยวกับ “เปลือกนอก” และ “ตัวตนจริง” ได้อย่างน่าสนใจ บ้านที่ภายนอกเก่าทรุดโทรม แต่อัดแน่นด้วยความหรูหราและสะดวกสบายภายใน อาจเป็นภาพสะท้อนของการไม่ตัดสินใครจากสิ่งที่เห็นเพียงผิวเผินได้เช่นเดียวกัน

•  หนุ่มคิดว่าบ้านจนมา 20 ปี จู่ๆ พ่อเฉลยเป็นเศรษฐี พากลับคฤหาสน์ มีบริษัทใหญ่มาก!!!
• ดูละครเยอะ? สาวปลอมตัวอยู่ “หอพักชาย” หวังตามหาเนื้อคู่ รูมเมทจับโป๊ะด่าเปิง

 

เว็บไซต์ nypost รายงานข่าวสลด เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจสหรัฐฯ เปิดเผยว่า เหยื่อผู้เสียชีวิตจากเหตุเฮลิคอปเตอร์ตกลงในแม่น้ำฮัดสัน เมื่อช่วงบ่ายวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา คือครอบครัวชาวสเปน 5 ราย ซึ่งเดินทางมาเที่ยวที่นครนิวยอร์ก

หนึ่งในผู้เสียชีวิตคือ อากุสติน เอสโกบาร์ ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัท Siemens สาขาประเทศสเปน โดยมีภรรยา เมอร์เซ คัมปรูบี มอนทาล และบุตรทั้งสามเสียชีวิตด้วยในเหตุการณ์ดังกล่าว

เว็บไซต์ของบริษัทนำเที่ยว New York Helicopter Tours ได้เผยแพร่ภาพของครอบครัวเอสโกบาร์ถ่ายหน้าหมู่เฮลิคอปเตอร์รุ่น Bell 206L-4 LongRanger IV ขณะเตรียมออกเดินทางไม่นานก่อนเกิดเหตุเศร้า

รายงานระบุว่า ครอบครัวดังกล่าวเพิ่งเดินทางมาจากเมืองบาร์เซโลนา และมาถึงนิวยอร์กในเช้าวันเดียวกัน โดยลูกทั้งสามคนมีอายุอยู่ในระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นหรือต่ำกว่า

เหตุเฮลิคอปเตอร์ตกเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 15:15 น. ตามเวลาท้องถิ่น โดยมีรายงานว่าเครื่องบินเกิดการแตกหักกลางอากาศ ก่อนจะร่วงลงสู่แม่น้ำฮัดสัน

พยานในที่เกิดเหตุเล่าว่า เห็นใบพัดของเฮลิคอปเตอร์หลุดออกจากตัวเครื่อง ก่อนที่ลำตัวจะดิ่งลงสู่พื้นน้ำอย่างรวดเร็ว
“คุณเห็นได้เลยว่าใบพัดหลุดออกมา แล้วเครื่องก็ตกลงไปทันที” ชาร์ลส์ แม็คซอร์ลีย์ หนึ่งในผู้เห็นเหตุการณ์ กล่าว

เจ้าหน้าที่กู้ภัยยืนยันว่า มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 4 ราย และเสียชีวิตที่โรงพยาบาลอีก 2 ราย โดยขณะนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยชื่อของนักบินได้ และสาเหตุของอุบัติเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ตามข้อมูลจากโปรไฟล์ LinkedIn เอสโกบาร์ มีประสบการณ์ในการบริหารธุรกิจระดับนานาชาติมานานกว่า 25 ปี เคยทำงานในสหรัฐอเมริกา, อเมริกาใต้, สเปน และ เยอรมนี เพิ่งได้รับตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Siemens สาขาสเปน เมื่อปลายปี 2022 นอกจากนี้ เขายังดำรงตำแหน่งซีอีโอระดับโลกของฝ่ายโครงสร้างพื้นฐานทางรางที่ Siemens Mobility ตั้งแต่เดือนตุลาคมปีที่ผ่านมาอีกด้วย

แพทย์เตือน “ขนุน” เป็นแหล่งโภชนาการ แต่คน 5 กลุ่มนี้ “ควรเลี่ยง” 

“ขนุน” เป็นผลไม้เมืองร้อนที่นิยมปลูกกันในหลายประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และถือว่าเป็นอีกหนึ่งผลไม้ที่ใครหลายคนชื่นชอบ เนื่องจากรสชาติหวานหอม และยังถือเป็นแหลงโภชนาการที่หลากหลาย แต่รู้หรือไม่ว่า…. ไม่ใช่ทุกคนที่สามารถรับประทานได้อย่างเกิดประโยชน์ ซ้ำร้ายอาจเกิดโทษต่อสุขภาพร่างกายด้วย

อ้างอิงบทความบนเว็บไซต์โรงพยาบาล Medlatec General Hospital จากประเทศเวียดนาม ที่ได้รับคำปรึกษาจาก Dr.Nguyen Thi Nhung แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งชี้ให้เห็นคุณค่าทางโภชนาการที่หลากหลาย เนื่องจากอุดมไปด้วยวิตามินซี, วิตามินเอ, โพแทสเซียม, ไฟเบอร์, และสารต้านอนุมูลอิสระ จึงสามารถช่วยในเรื่องของการปรับสมดุลระบบย่อยอาหาร เพิ่มพลังงาน รวมทั้งการป้องกันโรคมะเร็ง

อย่างไรก็ดี แม้ว่าขนุนจะมีประโยชน์ต่อสุขภาพดังที่กล่าวไปข้างต้น แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่สามารถรับประทานได้อย่างเกิดผลดี หนังสือพิมพ์ VietNamNet อ้างอิงคำพูดของ Dr.Bui Dac Sang จากสมาคมการแพทย์ตะวันออกฮานอย ที่กล่าวถึงกลุ่มคน 5 กลุ่ม “ไม่ควรรับประทานขนุน” เนื่องจากจะส่งผลเสียต่อสุขภาพ ดังนี้

• ผู้ที่มีภาวะไขมันพอกตับ จากการศึกษาพบว่าขนุนอุดมไปด้วยสารอาหารและวิตามิน อย่างไรก็ตาม ผลไม้ชนิดนี้มีน้ำตาลมากและไม่เป็นผลดีต่อตับ ดังนั้นแพทย์จึงแนะนำว่าผู้ที่เป็นโรคไขมันพอกตับไม่ควรรับประทานขนุนเป็นประจำ หรือแม้กระทั่งควรงดการทานขนุนไปเลย
• ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ผู้ที่เป็นโรคเรื้อรังควรทานขนุนในปริมาณเพียงเล็กน้อยเท่านั้น โดยต้องทำความสะอาดยางให้เกลี้ยง เคี้ยวให้ละเอียด และไม่รับประทานในช่วงบ่ายแก่ๆ ทั้งนี้ แนะนำว่าสำหรับเด็กและผู้สูงอายุ ควรหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ก่อนทานด้วย
• ผู้ป่วยโรคเบาหวาน ผู้ป่วยเบาหวานต้องจำกัดการบริโภคน้ำตาล ในขณะเดียวกันขนุนก็ประกอบด้วยฟรุคโตสและกลูโคสจำนวนมาก น้ำตาลประเภทเหล่านี้จะถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายทันทีเมื่อรับประทาน ส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ดังนั้นผู้ป่วยเบาหวานควรหลีกเลี่ยงการทาน
• ผู้ป่วยโรคไต ผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีโพแทสเซียมสูง เช่น ขนุน การกักเก็บโพแทสเซียมจะทำให้เกิดภาวะโพแทสเซียมในเลือดสูง ซึ่งอาจทำให้หัวใจหยุดเต้นได้ ดังนั้นผู้ป่วยจึงไม่ควรรับประทาน นอกจากนี้ยังควรหลีกเลี่ยงผลไม้ชนิดอื่นๆ อีกหลายชนิด เช่น มังคุด และกล้วยอีกด้วย
• ร่างกายอ่อนแอ สุขภาพไม่ดี เมื่อร่างกายอ่อนแอ หากรับประทานขนุนมากเกินไป อาจทำให้เกิดอาการท้องอืด ไม่สบายตัว หัวใจต้องทำงานหนักขึ้น และเสี่ยงต่อความดันโลหิตสูง ผู้ที่รู้สึกเหนื่อยล้าควรจำกัดผลไม้ชนิดนี้ โดยแพทย์แนะนำว่ากลุ่มคนเหล่านี้สามารถกินขนุนอบแห้งสัก 2-3 ชิ้นแทนได้

คุณหมอยังแนะนำด้วยว่า ควรใส่ใจเรื่องเวลาในการรับประทาน ที่ดีที่สุดคือการกินขนุนหลังอาหาร 2 ชั่วโมง และไม่ควรรับประทานขนุนเมื่อหิว เพื่อหลีกเลี่ยงอาการท้องอืดและอาหารไม่ย่อย และจำกัดการรับประทานขนุนในเวลากลางคืน เนื่องจากขนุนมีเส้นใยอาหารสูง ซึ่งจะทำให้เกิดอาการอาหารไม่ย่อย ไม่สบายตัว และส่งผลต่อการนอนหลับ

• รู้ตัวหรือยัง? “ถั่วดำ” อร่อยและดี แต่เป็นอาหาร “ต้องห้าม” สำหรับคน 4 กลุ่มนี้ ไม่กินดีกว่า!!!
• หนุ่มเชื่อพ่อค้าโฆษณา “ขนุนหวานไร้เมล็ด” ฝ่าออกมาถึงกับเงิบ ใครเห็นก็เวทนา

ร้านอาหารจีนเก่าแก่ในสเปนขาย “เป็ดปักกิ่งปลอม” รู้ว่าเป็นเนื้ออะไรยิ่งสยอง บุกหลังครัวเจ้าหน้าที่แทบอ้วก

มีการบุกตรวจร้านอาหารจีนเก่าแก่แห่งหนึ่งในกรุงมาดริด ประเทศสเปน หลังถูกกล่าวหาว่านำ “นกพิราบข้างถนน” มาทำเป็นเป็ดปักกิ่งขายให้ลูกค้า โดยภาพจากเจ้าหน้าที่เผยให้เห็นสภาพหลังร้านที่สกปรกน่าขยะแขยง จนทางการต้องสั่งปิดกิจการทันที

ตามรายงานของ Daily Mail ระบุว่า ร้านอาหารจีนในเขต Usera ของกรุงมาดริด ถูกปิดลงเมื่อวันที่ 25 มีนาคมที่ผ่านมา หลังพบว่านำซากนกพิราบที่เก็บได้จากถนนมาปรุงเป็นอาหาร และจำหน่ายในเมนูเป็ดปักกิ่ง โดยเจ้าหน้าที่พบเนื้อสัตว์แขวนอยู่บนราวตากผ้า ถุงพลาสติกใส่เนื้อไม่ทราบชนิด และกล่องใส่นกพิราบถอนขนแล้วหลายกล่อง

สื่อท้องถิ่นรายงานเพิ่มเติมว่า ภายในร้านมีตู้แช่เสียถึง 8 เครื่อง และเต็มไปด้วยปลาและเนื้อสัตว์ที่ไม่มีฉลากหรือวันหมดอายุ เครื่องครัวขึ้นสนิม มีแมลงสาบไต่ตามพื้น กับดักหนูวางกระจัดกระจาย และพื้นที่เก็บอาหารไม่มีระบบควบคุมอุณหภูมิที่เหมาะสม นอกจากนี้ยังพบของต้องห้ามอย่าง ปลิงทะเล ซึ่งอยู่ภายใต้กฎหมายคุ้มครองสัตว์ทะเลของสเปน และห้องเก็บของที่ไม่ได้แจ้งต่อทางการ

ตำรวจเชื่อว่านกพิราบเหล่านี้ถูกจับมาจากข้างถนนแล้วนำไปเชือดในครัว เพื่อดัดแปลงเป็นอาหารจีนพื้นเมือง โดยโฆษกตำรวจชี้ว่า แม้การเลี้ยงนกพิราบในสเปนจะไม่ผิดกฎหมาย แต่เนื้อสัตว์ทั้งหมดที่พบในร้าน—including นกพิราบ—ไม่มีเอกสารรับรองแหล่งที่มาอย่างถูกต้อง และเชื่อว่าน่าจะเป็น “นกพิราบจรจัด”

ในโกดังของร้านยังพบอาหารน้ำหนักรวมกว่า 1 ตัน ที่ไม่สามารถระบุแหล่งที่มาได้

ร้านดังกล่าวเปิดให้บริการมานานกว่า 10 ปี ขณะนี้ถูกสั่งปิดอย่างไม่มีกำหนด และเจ้าของร้านกำลังถูกสอบสวนในข้อหาละเมิดกฎหมายด้านสาธารณสุข

จำได้ไหมมีใครกันบ้าง? เปิดภาพ 4 ดาราสาวตัวแม่ ในชุดนักศึกษา สวยเป๊ะ ออร่าเฉิดฉายไม่มีเปลี่ยน

ทำเอาแฟนๆ ถึงกับต้องขยี้ตาแบบรัวๆ กันเลยทีเดียว หลังจากได้ปรากฏเห็นภาพในอดีตของ 4 ดาราสาวตัวแม่ สวมชุดนักศึกษาในวัยเยาว์อยู่ร่วมเฟรมกัน กลายเป็นภาพน่ารักๆ ให้หวนคิดถึงอดีตจริงๆ

โดย 4 ดาราสาวนั้นก็ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็น วิกกี้-สุนิสา เจทท์, หนูเล็ก-ภัทรวดี ปิ่นทอง (หนูเล็ก ก่อนบ่าย), จอย-รินลณี ศรีเพ็ญ และ เบนซ์ พรชิตา ณ สงขลา

ซึ่งหากใครจำได้ ภาพเซ็ทเหล่านี้มาจากละครสุดฮอตเรื่อง ก๊วนคานทองกับแก๊งพ่อปลาไหล ที่ออนแอร์ทางช่อง 3 เมื่อปี พ.ศ.2557 หรือย้อนไป 11 ปีที่แล้วนั่นเองจ้า

พอแฟนๆ ได้เห็นต่างก็เข้ามากดไลก์และคอมเมนต์คิดถึงในทันที อีกทั้งยังพูดเป็นเสียงเดียวกันด้วยว่า 4 สาวอมตะ ความสวยยังเฉิดฉายไม่มีเปลี่ยนเลย

เปิดทรัพย์สิน ไชยชนก ชิดชอบ ลูกชายนายเนวิน ชิดชอบ อดีตนักการเมืองชื่อดัง รวยไม่เบา

สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยบัญชี แสดงทรัพย์สินและหนี้สินของ นาย ไชยชนก ชิดชอบ กรณีเข้ารับตำแหน่ง สส.บุรีรัมย์ เขต 2 พรรคภูมิใจไทย เมื่อวันที่ 4 ก.ค. 2566 พบว่า นายไชยชนก ชิดชอบ แจ้งทรัพย์สิน 161,625,029 บาท หนี้สิน 19,934 บาท โดยมีรายละเอียดดังนี้

• เปิดประวัติ ไชยชนก ชิดชอบ ลูกชายคนโต เนวิน ชิดชอบ

นายไชยชนก ชิดชอบ มีทรัพย์สิน 161,625,029 บาท

• เงินสด 1,500,000 บาท
• เงินฝาก 50,536,446 บาท ทั้งหมด 11 บัญชี
• เงินลงทุน 1 รายการ 12,987,940 บาท เป็นเงินลงทุนในบัญชีของบริษัทหลักทรัพย์พินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน)
• ที่ดิน 7 แปลง 24,108,000 บาท เป็นที่ดินใน อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ และที่ดินในเขตลาดกระบัง กทม.
• โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 2 รายการ 3,632,950 บาท เป็นกรรมสิทธิ์รวมในบ้านพักอาศัยตึก 2 ชั้น 2 หลังในเขตลาดกระบัง กทม.
• ยานพาหนะ 14,500,000 บาท เป็นรถยนต์ 6 คัน เช่น
  • Bentley Continental GT V8 4.0 จำนวน 1 คันมูลค่า 8,000,000 บาท
  • รถจักรยานยนต์ Ducati Multistrada 1200 Enduro 1 คัน มูลค่า 300,000 บาท
• สิทธิและสัมปทาน 27,409,692 บาท เช่น กรรมสิทธิ์หนังสือสัญญาโอนหุ้นจำนวน 7 รายการ
• 6 รายการทำสัญญาวันเดียวกันคือ 18 ม.ค. 2566 ได้แก่
  • บริษัท บี อาร์ เพาเวอร์ จำกัด 7,000,000 บาท
  • หนังสือสัญญาโอนหุ้นบริษัท บี อาร์ กรีน จำกัด 707,000 บาท
  • หนังสือสัญญาโอนหุ้นบริษัท บี.พี.เอ็น.2014 จำกัด 35,000 บาท
  • หนังสือสัญญาโอนหุ้นบริษัท เค2011 สปอร์ต จำกัด 7,350,000 บาท
  • หนังสือสัญญาโอนหุ้นบริษัท บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จำกัด (เจ้าของสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด) 2 ครั้ง มูลค่า 4,809,000 บาท
  • ในวันที่ 29 มี.ค. 2566 มีการทำสัญญาโอนหุ้น 1 รายการคือ บริษัท บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จำกัด 2,520,000 บาท
• ทรัพย์สินอื่น 26,950,000 บาท เป็นนาฬิกา 5 เรือน
  • ยี่ห้อ Patek Philippe Nautilus 5712/A Moon Phase มูลค่า 1,400,000 บาท
  • นาฬิกา Patek Philippe Aquanaut Travel Time 5164A-001 มูลค่า 1,550,000 บาท
  • นาฬิกา Richard Mille RM35-03 Automatic Rafael Nadal มูลค่า 8,000,000 บาท
  • นาฬิกา Richard Mille RM65-01 Chronograph Rose Gold มูลค่า 10,500,000 บาท
  • นาฬิกา Richard Mille RM61-01 Limited Edition 100 มูลค่า 5,500,000 บาท

หนี้สิน 19,934 บาท

• เงินเบิกเกินบัญชี

มีรายได้ต่อปี 1,200,000 บาท

• เงินเดือนทั้งหมด

รายจ่ายต่อปี 600,000 บาท

นายไชยชนก แจ้งยื่นเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในรอบปีภาษีที่ผ่านมา เงินได้พึงประเมิน ตามประมวลกฎหมายรัษฎากร มาตรา 40 (1)-(8) จำนวน 2,733,538 บาท