ผู้เขียน: admin

  • KUBET – ไม่ใช่หอยนางรม! นักโภชนาการแนะนำ 5 อาหาร “กินแล้วอยากมีเซ็กซ์” ที่ไทยมีครบ

    นักโภชนาการไต้หวัน แนะนำ 5 อาหารกระตุ้นอารมณ์ “กินแล้วอยากมีเซ็กซ์” ที่ไทยมีครบทุกอย่าง

    คุณและคู่ของคุณมีความรักร้อนแรงกันบ้างไหม? งานยุ่งจนกลับถึงบ้านก็แค่พับตัวนอนพัก ไม่มีอารมณ์เลยหรือ? นักโภชนาการ ลี่หว่านผิง ชาวไต้หวัน ได้แชร์ผ่านเฟซบุ๊กถึง “5 อาหารกระตุ้นอารมณ์” ที่ช่วยเพิ่มความต้องการทางเพศ “ให้คุณอยากมีเซ็กซ์ในตอนกลางคืน”

    โดยมีทั้ง “หน่อไม้ฝรั่ง” ที่ขึ้นชื่อในยุโรปและอเมริกาว่าเป็นยาช่วยเสริมสมรรถภาพทางเพศ และยังช่วยเพิ่มความตื่นเต้น “แอปเปิ้ล” ที่ช่วยกระตุ้นความต้องการทางเพศของผู้หญิง ส่วน “ปลาไหล” ก็ช่วยทำให้ทั้ง “เล็ก” และ “ใหญ่” แข็งแรงยิ่งขึ้น เธอแนะนำว่าไม่ต้องทานหอยนางรมหรือหอยอีกรอบ

    5 อาหารกระตุ้นอารมณ์ ที่ช่วยเพิ่มความรักและเสริมความสัมพันธ์ให้ร้อนแรงขึ้น มีดังนี้

    1. หน่อไม้ฝรั่ง: เป็นยาสมุนไพรธรรมชาติสำหรับเสริมสมรรถภาพทางเพศในยุโรปและอเมริกา อุดมไปด้วยกรดอะมิโนแอสพาร์ติก ช่วยฟื้นฟูความเหนื่อยล้าและยังมีวิตามิน B6 และโฟเลตที่ช่วยเพิ่มความตื่นเต้น

    2. แอปเปิ้ล: มีสารพอลีฟีนอลและสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือดและเพิ่มอุณหภูมิในร่างกาย ทำให้เกิดการกระตุ้นทางเพศในผู้หญิงได้ดี

    3. เมล็ดฟักทอง: เมล็ดเล็กๆ นี้สามารถปกป้องต่อมลูกหมากของผู้ชาย และยังมีวิตามิน E สูง ช่วยเสริมสมรรถภาพทางเพศ

    4. ช็อกโกแลต: มีทริปโตแฟน ช่วยกระตุ้นศูนย์ควบคุมความสุขในสมอง ทำให้รู้สึกมีความสุขทันทีที่กิน

    5. ปลาไหล: มีคุณสมบัติในการเสริมสมรรถภาพทางเพศ อุดมไปด้วยวิตามินหลายชนิดและฟอสฟาทิดที่ช่วยเสริมพลังสมอง ช่วยทำให้ทั้ง “เล็ก” และ “ใหญ่” แข็งแรงขึ้น

  • KUBET – 5 อาชีพใหม่ยอดฮิต ของอดีต “มนุษย์เงินเดือน” ลาออกจากงานประจำ หันไปทำงานเหล่านี้

    5 อาชีพ ที่มนุษย์เงินเดือน ลาออกจากงานประจำ แล้วเปลี่ยนใจไปทำอาชีพเหล่านี้มากที่สุด

    ในยุคที่การเปลี่ยนแปลงทางสังคมและเทคโนโลยีเติบโตอย่างรวดเร็ว มีมนุษย์เงินเดือนจำนวนมากที่ตัดสินใจลาออกจากงานประจำและหันไปทำอาชีพอื่นที่สามารถให้ความยืดหยุ่น ความพึงพอใจ หรือโอกาสในการเติบโตที่ดีกว่า บทความนี้จะพาไปรู้จักกับ 5 อาชีพที่คนลาออกจากงานประจำมาทำมากที่สุดในประเทศไทย พร้อมเหตุผลและข้อมูลเชิงสถิติจากการสำรวจ

    1. เจ้าของธุรกิจส่วนตัว (Entrepreneur)

    เหตุผล: การเป็นเจ้าของธุรกิจให้ความยืดหยุ่นในการทำงาน และสามารถสร้างรายได้ที่มากกว่าการทำงานประจำได้หากธุรกิจประสบความสำเร็จ นอกจากนี้ยังเป็นการทำงานที่สามารถบริหารจัดการเวลาตามความต้องการของตนเอง
    เสียงสะท้อน: “การทำงานประจำมีข้อจำกัดในด้านเวลาและการเติบโตทางการเงิน แต่การเป็นเจ้าของธุรกิจช่วยให้เรามีอิสระในการตัดสินใจและรายได้ที่ไม่จำกัด” สถิติ: จากการสำรวจโดยหอการค้าไทย (2565) พบว่า 35% ของคนที่ลาออกจากงานประจำหันมาทำธุรกิจส่วนตัว
    แหล่งอ้างอิง: หอการค้าไทย, รายงานการสำรวจธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมในประเทศไทย (2565)

    2. ฟรีแลนซ์ (Freelancer)

    เหตุผล: การทำงานฟรีแลนซ์มอบอิสระในการเลือกเวลาทำงาน สถานที่ทำงาน และประเภทงานที่ต้องการรับผิดชอบ อีกทั้งยังช่วยลดความเครียดจากการต้องทำงานประจำทุกวัน
    เสียงสะท้อน: “ฟรีแลนซ์ทำให้มีอิสระในการจัดสรรเวลาและเลือกงานที่ชอบ ซึ่งช่วยลดความเครียดได้มากเมื่อเทียบกับงานประจำ” สถิติ: สำนักงานสถิติแห่งชาติ (2564) ระบุว่า 28% ของผู้ที่ลาออกจากงานประจำหันมาทำงานฟรีแลนซ์เต็มเวลา
    แหล่งอ้างอิง: สำนักงานสถิติแห่งชาติ, รายงานสำรวจอาชีพอิสระในประเทศไทย (2564)

    3. นักลงทุน (Investor)

    เหตุผล: การลงทุนในตลาดหุ้น อสังหาริมทรัพย์ หรือสินทรัพย์อื่นๆ กลายเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่มีประสบการณ์การเงินหรือมีเงินทุนสำรอง การลงทุนสามารถให้ผลตอบแทนที่สูงกว่างานประจำ และไม่จำเป็นต้องทำงานตามเวลาที่กำหนด
    เสียงสะท้อน: “การลงทุนสามารถสร้างผลตอบแทนได้มากกว่าการทำงานประจำ และทำให้เราไม่ต้องผูกพันกับเวลาเหมือนงานปกติ” สถิติ: จากการสำรวจของสมาคมนักลงทุนไทย (2565) พบว่า 18% ของผู้ที่ลาออกจากงานประจำหันมาทำการลงทุนเต็มเวลา
    แหล่งอ้างอิง: สมาคมนักลงทุนไทย, รายงานการสำรวจนักลงทุนรายย่อย (2565)

    4. คอนเทนต์ครีเอเตอร์ (Content Creator)

    เหตุผล: การเติบโตของแพลตฟอร์มออนไลน์ เช่น YouTube, TikTok และ Instagram ทำให้การสร้างเนื้อหาออนไลน์กลายเป็นอาชีพที่มีโอกาสเติบโตสูง มีรายได้จากโฆษณา การสนับสนุนจากแบรนด์ และยอดผู้ติดตามที่เพิ่มขึ้น
    เสียงสะท้อน: “งานครีเอเตอร์ทำให้เราสามารถทำในสิ่งที่รัก เช่น การทำวิดีโอ การเขียนบทความ และยังสามารถสร้างรายได้จากสิ่งที่ชอบ” สถิติ: การสำรวจจากสมาคมครีเอเตอร์ไทย (2565) ระบุว่า 15% ของคนที่ลาออกจากงานประจำมาทำงานเป็นครีเอเตอร์ออนไลน์
    แหล่งอ้างอิง: สมาคมครีเอเตอร์ไทย, การสำรวจสภาวะการสร้างเนื้อหาออนไลน์ (2565)

    5. ครูและติวเตอร์ (Teacher and Tutor)

    เหตุผล: หลายคนเลือกที่จะหันมาสอนพิเศษหรือเป็นครู เพราะสามารถปรับสมดุลชีวิตการทำงานกับการใช้ชีวิตส่วนตัวได้ดีกว่า อีกทั้งงานด้านการสอนยังสามารถสร้างรายได้ที่ดีและยั่งยืนจากการสอนทั้งออนไลน์และออฟไลน์
    เสียงสะท้อน: “การเป็นติวเตอร์ทำให้เรามีเวลายืดหยุ่น และยังได้ถ่ายทอดความรู้ให้กับนักเรียนซึ่งเป็นสิ่งที่ชอบ ทำให้มีความสุขมากกว่าการทำงานประจำ” สถิติ: จากการสำรวจของกระทรวงศึกษาธิการ (2565) พบว่า 20% ของคนที่ลาออกจากงานประจำหันมาเป็นครูหรือสอนพิเศษ
    แหล่งอ้างอิง: กระทรวงศึกษาธิการ, การสำรวจแนวโน้มอาชีพครูและติวเตอร์ในประเทศไทย (2565)

    อ้างอิง:
    หอการค้าไทย. (2565). รายงานการสำรวจธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมในประเทศไทย
    สำนักงานสถิติแห่งชาติ. (2564). รายงานสำรวจอาชีพอิสระในประเทศไทย.
    สมาคมนักลงทุนไทย. (2565). รายงานการสำรวจนักลงทุนรายย่อย.
    สมาคมครีเอเตอร์ไทย. (2565). การสำรวจสภาวะการสร้างเนื้อหาออนไลน์.
    กระทรวงศึกษาธิการ. (2565). การสำรวจแนวโน้มอาชีพครูและติวเตอร์ในประเทศไทย
  • KUBET – เปิดผลวิจัย “แก้วมังกร” ผลไม้ต้านมะเร็ง แทบทุกคนกินผิดวิธี ทิ้งส่วนที่มีประโยชน์ไปเฉยๆ

    เปิดผลวิจัยจากเกาหลี “แก้วมังกร” ผลไม้ต้านมะเร็ง หลายคนยังกินผิดวิธี ทิ้งส่วนที่มีประโยชน์ไปเฉยๆ

    แก้วมังกร อุดมไปด้วยวิตามิน แร่ธาตุ ไฟเบอร์ โพลีฟีนอล และแอนโทไซยานิน จึงเป็นผลไม้ยอดนิยมที่ช่วยในเรื่องความงามและการลดน้ำหนัก

    ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการจากมูลนิธิต่อต้านมะเร็งระบุว่า แก้วมังกรเนื้อแดงมีปริมาณแอนโทไซยานินสูงกว่าผลเชอร์รี่ถึง 15 เท่า และมากกว่าการองุ่นแดงถึง 28 เท่า ทำให้มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระและต่อต้านอนุมูลอิสระได้ดีกว่าผลไม้อื่น ๆ

    โดยปกติแล้ว แก้วมังกรสามารถรับประทานได้ทั้งเมล็ด ทำให้ร่างกายได้รับวิตามินอี ซึ่งช่วยเสริมสร้างความสามารถในการต้านอนุมูลอิสระของร่างกาย ส่งเสริมกระบวนการเผาผลาญคอเลสเตอรอล และช่วยดูแลสุขภาพหัวใจ

    อย่างไรก็ตาม ยังมีอีกส่วนที่มีประโยชน์ทางโภชนาการสูงและสามารถรับประทานได้ ซึ่งก็คือเปลือกของแก้วมังกร

    ประโยชน์ของเปลือกแก้วมังกร

    นอกจากเนื้อและเมล็ดแล้ว เปลือกแก้วมังกรยังมีคุณค่าทางโภชนาการสูง หลายคนมักปอกเปลือกแล้วทิ้ง ซึ่งนับว่าน่าเสียดาย

    งานวิจัยที่ตีพิมพ์ใน วารสารวิทยาศาสตร์อาหารเกาหลี ระบุว่า เปลือกแก้วมังกรมีปริมาณฟีนอล แอนโทไซยานิน และฟลาโวนอล ไกลโคไซด์ มากกว่าเนื้อแก้วมังกรถึง 3-5 เท่า และยังมีประสิทธิภาพในการต้านอนุมูลอิสระและยับยั้งการแบ่งตัวของเซลล์มะเร็งได้ดีกว่าเนื้อแก้วมังกร

    นักวิจัยแนะนำว่า เมื่อปอกเปลือกแก้วมังกร ไม่จำเป็นต้องปอกลึกเกินไป การเหลือชั้นเปลือกบาง ๆ ไว้ติดกับเนื้อจะเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ นอกจากนี้ เปลือกแก้วมังกรที่ปอกออกไปยังสามารถนำไปปรุงอาหารได้อีกด้วย

    การศึกษายังพบว่า เปลือกแก้วมังกรเนื้อขาวมีคุณสมบัติในการยับยั้งการแบ่งตัวของเซลล์มะเร็งได้ดีกว่าเปลือกแก้วมังกรเนื้อแดง ขณะที่เปลือกแก้วมังกรเนื้อแดงมีคุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระสูงกว่าเปลือกแก้วมังกรเนื้อขาว

    วิธีรับประทานเปลือกแก้วมังกร

    ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการและมูลนิธิดูแลผู้ป่วยมะเร็งของจีนแนะนำว่า เปลือกแก้วมังกรอุดมไปด้วยไฟโตนิวเทรียนท์ และสามารถนำมาใช้ในการปรุงอาหารได้ วิธีรับประทาน เช่น

    • ตัดส่วนหนามออก และใช้ส่วนที่อ่อนของเปลือกแก้วมังกรมาผัดกับเนื้อสัตว์ เช่น ผัดกับหมู หรือใส่ในเมนูหมูเปรี้ยวหวาน ซึ่งช่วยเพิ่มรสชาติและคุณค่าทางโภชนาการ
    • นำเปลือกแก้วมังกรมาปั่นรวมกับนมถั่วเหลืองหรือกับนมสด ทำเป็นสมูทตี้ ซึ่งให้สารต้านอนุมูลอิสระและโปรตีน เหมาะกับทุกเพศทุกวัย

    สรุป เปลือกแก้วมังกรเป็นแหล่งของสารอาหารที่มีประโยชน์สูง โดยเฉพาะสารต้านอนุมูลอิสระและสารต้านมะเร็ง หากนำมาใช้ให้ถูกวิธี นอกจากจะช่วยลดของเสียจากอาหาร ยังสามารถช่วยเพิ่มประโยชน์ต่อสุขภาพได้อีกด้วย

    “แก้วมังกรเนื้อขาว” กับ “แก้วมังกรเนื้อแดง” ต่างกันอย่างไร กินแบบไหนดีกว่า

  • KUBET – “มาช่า” ไม่อยากลงภาพใน รพ. คิดถึงวันวานศิลปินยุค 90 ช่ากำลังจะเสียคนที่รัก

    ทำเอาแฟนๆ แอบเป็นห่วงกันไม่น้อย เมื่อนักร้องเสียงเอกลักษณ์ มาช่า วัฒนพานิช ได้โพสต์รูปภาพเก่าๆ ในวันวาน ร่วมกับศิลปินระดับตำนานยุค 90 หลากหลายคนที่สนิทและเคยร่วมงานด้วย

    ไม่ว่าจะเป็น บอย ถกลเกียรติ, แอมป์ เสาวลักษณ์, คริสติน่า อากีล่าร์, ทาทา ยัง, หนูแหม่ม สุริวิภา เป็นต้น

    พร้อมเขียนแคปชั่นสุดเศร้าเอาไว้ว่า “ชีวิตผ่านไปทุกวัน วันนี้พี่เอาภาพเหล่านี้มาลงคิดถึงเวลานั้นๆ พี่ช่ากำลังจะเสียคนที่ช่ารัก”

    “พี่ช่ารักมากๆ ไม่อยากลงภาพในโรงพยาบาล ขอโทษที … มันเศร้าเกินรับไหว ไม่อยากให้เกิดขี้นเลย……………. ลงภาพดีดี ที่ผ่านมาแทนละกัน…. คิดถึงเวลาที่ผ่านไป #marshairis”

    งานนี้เรียกว่ากำลังใจจากแฟนๆ ต่างส่งเข้ามาให้ มาช่า ล้นหลามเลยทีเดียว

  • KUBET – ผู้หญิงชอบผู้ชาย “ไอ้นั่นใหญ่” จริงหรือ? เผยผลสำรวจ จริงๆ แล้วสาวๆ คิดอย่างไรกันแน่

    ผู้หญิงชอบผู้ชายที่เจ้าโลกใหญ่จริงหรือไม่? เผยผลสำรวจความคิดเห็นจริงๆ พวกเธอคิดอย่างไรกันแน่

    เรื่องขนาดของอวัยวะเพศชายเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงบ่อยครั้งในสังคม โดยเฉพาะความเชื่อที่ว่าผู้หญิงชอบผู้ชายที่มี “เจ้าโลก” ขนาดใหญ่ อย่างไรก็ตาม คำถามที่ว่าผู้หญิงจริงๆ แล้วคิดอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ คำตอบจากการวิจัยและการสำรวจความคิดเห็นหลายชิ้นอาจให้คำตอบที่แตกต่างจากความเชื่อที่แพร่หลาย

    ผลสำรวจความคิดเห็น: ผู้หญิงคิดอย่างไรกับขนาดของอวัยวะเพศชาย?

    หนึ่งในผลสำรวจที่ได้รับการเผยแพร่โดย British Journal of Urology International (BJUI) ในปี 2015 ได้ทำการศึกษาความคิดเห็นของผู้หญิง 75 คน ที่มีอายุระหว่าง 18-65 ปี เกี่ยวกับความสำคัญของขนาดอวัยวะเพศชาย ผลการสำรวจพบว่า ผู้หญิงส่วนใหญ่ไม่ได้ให้ความสำคัญกับขนาดเป็นหลัก แต่กลับเน้นไปที่คุณสมบัติอื่นๆ ของคู่รัก เช่น บุคลิกภาพ ความเอาใจใส่ และการใช้เวลาอยู่ร่วมกัน

    จากการสำรวจพบว่า:

    • 45% ของผู้หญิง ระบุว่าขนาดอวัยวะเพศมีความสำคัญบ้าง แต่ไม่ใช่ปัจจัยหลักที่กำหนดคุณภาพของความสัมพันธ์
    • 20% ของผู้หญิง ระบุว่าขนาดอวัยวะเพศมีความสำคัญมาก แต่เป็นเพียงหนึ่งในหลายปัจจัย
    • 35% ของผู้หญิง ระบุว่า ขนาดไม่สำคัญเลย โดยให้ความสำคัญกับการกระทำและความเอาใจใส่มากกว่า

    อีกหนึ่งการศึกษาที่น่าสนใจคือการสำรวจโดย PLOS ONE ในปี 2013 ซึ่งได้ทำการวิจัยโดยใช้ภาพจำลอง 3 มิติของผู้ชายที่มีขนาดอวัยวะเพศและรูปร่างที่แตกต่างกัน เพื่อสอบถามความคิดเห็นของผู้หญิง 105 คนเกี่ยวกับขนาดอวัยวะเพศ ผลสำรวจชี้ให้เห็นว่า ผู้หญิงให้ความสำคัญกับขนาดอวัยวะเพศในระดับปานกลาง แต่ไม่ได้หมายความว่าขนาดที่ใหญ่ที่สุดจะเป็นที่ต้องการเสมอไป ขนาดที่อยู่ในเกณฑ์เฉลี่ยมักได้รับการประเมินว่ามีความน่าสนใจมากกว่า

    ตัวอย่างความคิดเห็นจากผู้หญิงกลุ่มตัวอย่าง

    จากการศึกษาของ PLOS ONE ผู้หญิงบางคนได้แสดงความเห็นเพิ่มเติมเกี่ยวกับความสำคัญของขนาดอวัยวะเพศ โดยมีตัวอย่างคำตอบที่น่าสนใจดังนี้:

    • “ฉันคิดว่าขนาดอาจจะสำคัญบ้าง แต่ถ้าผู้ชายไม่เอาใจใส่หรือไม่รู้วิธีทำให้เรารู้สึกดี ขนาดก็ไม่มีความหมายอะไรเลย” — ผู้หญิงอายุ 30 ปี
    • “ขนาดใหญ่ไม่ได้แปลว่าจะให้ความสุขได้มากกว่าเสมอไป ฉันคิดว่าการรู้จักทำให้เรารู้สึกสบายใจและพอใจนั้นสำคัญกว่า” — ผู้หญิงอายุ 27 ปี
    • “ขนาดกลางๆ น่าจะดีที่สุด เพราะใหญ่เกินไปก็อาจทำให้รู้สึกไม่สบาย” — ผู้หญิงอายุ 25 ปี

    เทคนิคในการมีเซ็กซ์ที่สำคัญมากกว่าขนาด

    ประเด็นที่น่าสนใจคือ ขนาดอาจไม่ใช่ปัจจัยหลักที่ทำให้ผู้หญิงประทับใจในการมีเพศสัมพันธ์ แต่สิ่งที่ผู้หญิงให้ความสำคัญมากกว่า คือทักษะและความเอาใจใส่ในระหว่างการมีเซ็กซ์ การสื่อสารและความสามารถในการทำให้คู่รักรู้สึกสบายใจและปลอดภัยระหว่างการมีเพศสัมพันธ์เป็นสิ่งที่ผู้หญิงมักให้ความสำคัญ

    จากการสำรวจหลายชิ้น เช่น งานวิจัยจาก Journal of Sexual Medicine ในปี 2017 พบว่า เทคนิคและการกระตุ้นที่ถูกจุด เป็นปัจจัยที่ทำให้ผู้หญิงมีความสุขกับการมีเพศสัมพันธ์มากที่สุด ตัวอย่างเช่น การสื่อสารที่ดีระหว่างคู่รัก การใช้เวลาในการเล้าโลม (Foreplay) และการรู้จักสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลาย ล้วนเป็นปัจจัยที่ทำให้ผู้หญิงรู้สึกพึงพอใจมากกว่าขนาดของอวัยวะเพศ

    การจัดอันดับปัจจัยที่ผู้หญิงให้ความสำคัญมากกว่า

    ผลสำรวจจาก Journal of Sex Research ในปี 2018 ได้สอบถามกลุ่มผู้หญิงเกี่ยวกับปัจจัยที่พวกเธอให้ความสำคัญในการมีเซ็กซ์ พบว่ามีการจัดอันดับปัจจัยสำคัญดังนี้:

    1. การเอาใจใส่และการสื่อสาร – การเข้าใจความต้องการและความรู้สึกของอีกฝ่าย
    2. เทคนิคและการกระตุ้นที่ถูกต้อง – การรู้จักวิธีทำให้คู่รักรู้สึกดี
    3. การสร้างบรรยากาศที่ดี – การทำให้คู่รักรู้สึกสบายใจและผ่อนคลาย
    4. ความรู้สึกสนิทสนมและใกล้ชิด – การมีความผูกพันทางอารมณ์ระหว่างกัน
    5. ขนาดของอวัยวะเพศ – อยู่ในระดับที่ต่ำกว่าปัจจัยอื่นๆ

    สรุป: ขนาดไม่ใช่ทุกอย่าง

    จากผลการสำรวจหลายครั้ง สามารถสรุปได้ว่า ขนาดของอวัยวะเพศชายอาจมีความสำคัญในระดับหนึ่งสำหรับผู้หญิงบางคน แต่ไม่ได้เป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุด ผู้หญิงส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับปัจจัยอื่นๆ เช่น การเอาใจใส่ ความเข้าใจ การสื่อสาร และเทคนิคในการมีเซ็กซ์ ขนาดอาจเป็นเพียงแค่ปัจจัยเสริมเล็กน้อยในความสัมพันธ์ที่ดีและการมีเซ็กซ์ที่น่าพึงพอใจ

    แหล่งอ้างอิง:

    • Veale, D., Miles, S., Bramley, S., et al. (2015). Psychological Factors in Men with Perceived Small Penis Size: A Cross-Sectional Survey. British Journal of Urology International (BJUI).
    • Mautz, B. S., Wong, B. B., Peters, R. A., Jennions, M. D. (2013). Penis Size Interacts with Body Shape and Height to Influence Male Attractiveness. PLOS ONE, 8(4), e60583.
    • Lehmiller, J. (2018). What Women Really Want in Bed: The Most Important Factors for Female Sexual Satisfaction. Journal of Sex Research.
    • Herbenick, D., Reece, M., Schick, V., Sanders, S. A., Dodge, B., & Fortenberry, J. D. (2017). Sexual Behavior in the United States: Results from the 2017 National Survey of Sexual Health and Behavior. Journal of Sexual Medicine.
  • KUBET – วันเกิด “แต้ว ณฐพร” สามีจัดปาร์ตี้สุดอบอุ่น สมฐานะสะใภ้หมื่นล้านบ้านพรประภา

    วันเกิด แต้ว ณฐพร ในฐานะสะใภ้หมื่นล้านบ้านพรประภา สามีสุดที่รัก ประณัย พรประภา ของขวัญสุดคลาสสิก

    นางเอกสาว แต้ว ณฐพร หลังแต่งงานกับ ประณัย พรประภา นักธุรกิจทายาทอาณาจักรสยามกลการ เธอคือสะใภ้หมื่นล้านป้ายแดงแห่งบ้านพรประภา จากภาพวันวิวาห์ของ แต้ว-ประณัย มีบุคคลดังจากหลากหลายวงการเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกันอย่างล้นหลามเลยทีเดียว เป็นวันแห่งความทรงจำและเรื่องราวดีๆ 

    และอีกหนึ่งวันดีๆ ของ แต้ว ณฐพร คือวันคล้ายวันเกิดในวันที่ 6 ก.พ.นี้ สามีแสนดีได้จัดปาร์ตี้เล็กๆ อย่างอบอุ่น มีเพื่อนสนิทมาร่วมอวยพรและดินเนอร์ อาทิ แมท ภีรนีย์, มิ้นต์ ชาลิดา และ มิว นิษฐา กันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา 

    อีกหนึ่งไฮไลท์ของวันเกิด แต้ว นอกจากจะเป่าเค้กสวยๆ แล้ว สามีสุดที่รัก ณัย ประณัย ยังได้มอบของขวัญสุดคลาสสิกเป็นดอกไม้ช่อสวยช่อใหญ่ 

    นี่แค่เป็นออเดิร์ฟเริ่มต้นเท่านั้น ของขวัญวันเกิดสุดพิเศษมีมาแน่นอน ส่วนจะเป็นอะไรนั้นไม่รู้ว่า แต้ว จะมีเฉลยหรือไม่ 

  • KUBET – สาววัย 22 ฉี่สีเข้มเหมือนชา หมอบอก “ไตใช้ไม่ได้แล้ว” เปิดนิสัย 3 ข้อ ที่หลายคนชอบทำ

    สาววัย 22 ฉี่สีเข้มเหมือนชา หมอบอก “ไตสองข้างใช้ไม่ได้แล้ว” เปิดนิสัย 3 ข้อ นำไปสู่หายนะ อาหารที่กิน-น้ำที่ดื่ม-เวลาที่นอน

    ในช่วงวัยที่สวยงามที่สุดของชีวิต ขณะที่ทุกครอบครัวกำลังเฉลิมฉลองเทศกาลตรุษจีน เสี่ยวอวี่ หญิงสาววัย 22 ปี จากเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน กลับต้องนอนอยู่บนเตียงผู้ป่วย เนื่องจากภาวะไตวายระยะสุดท้าย

    เสี่ยวอวี่เป็นหญิงสาวที่ร่าเริงและชอบการผจญภัย แต่เมื่อประมาณหนึ่งปีก่อน เธอเริ่มรู้สึกไม่สบายตัวเล็กน้อยแต่ไม่ได้ใส่ใจมากนัก จนกระทั่งช่วงครึ่งหลังของปี 2024 อาการของเธอแย่ลง เธอมักจะรู้สึกคลื่นไส้ เหนื่อยล้า ปัสสาวะลำบาก และเมื่อลองสังเกต ปัสสาวะของเธอมีสีเข้มคล้ายชาที่ตั้งทิ้งไว้ เมื่อครอบครัวพาไปพบแพทย์ ก็ได้รับข่าวร้ายว่า “ไตทั้งสองข้างของเธอเสียหายจนใช้งานไม่ได้แล้ว”

    โดยเฉพาะ เสี่ยวอวี่ถูกวินิจฉัยว่าเป็นไตวายระยะสุดท้ายและภาวะยูเรียในเลือดสูง ตามที่แพทย์ผู้ดูแลอธิบาย ภาวะไตวายหมายถึงการที่ไตสูญเสียความสามารถในการกรองของเสียออกจากเลือดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนภาวะยูเรียในเลือดสูงเกิดขึ้นเมื่อไตไม่สามารถขับของเสียออกจากเลือดได้ ทำให้สารพิษ เช่น ยูเรียไนโตรเจนและครีเอตินีนสะสมในร่างกาย ซึ่งเป็นสัญญาณของไตวายระยะสุดท้าย หากไม่ได้รับการรักษา อาจส่งผลกระทบร้ายแรงต่อระบบประสาท หัวใจ และระบบย่อยอาหาร รวมถึงอาจเป็นอันตรายถึงชีวิต

    ชีวิตที่เปลี่ยนไปเพราะพฤติกรรม “1 กิน 1 ดื่ม 1 นอน”

    ในตอนแรก เสี่ยวอวี่ตกใจและไม่อยากเชื่อกับผลวินิจฉัย เพราะเธอยังอายุน้อยและคิดว่าอาการของเธอไม่ได้รุนแรงนัก แต่เมื่อแพทย์ทำการวิเคราะห์พฤติกรรมการใช้ชีวิตและตรวจสอบประวัติสุขภาพของเธอ เสี่ยวอวี่กลับรู้สึกเสียใจและละอายใจ เพราะต้นเหตุของโรคมาจากพฤติกรรมการกิน การดื่ม และการใช้ชีวิตตอนกลางคืนของเธอเอง

    1. การกิน: ชอบกินของทอด

    เสี่ยวอวี่ชื่นชอบอาหารทอด โดยเฉพาะไก่ทอดและมันฝรั่งทอด เธอกินมันแทบทุกวันติดต่อกันเป็นเวลานานกว่า 4 ปี การบริโภคอาหารทอดมากเกินไปเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคอ้วน ความดันโลหิตสูง และโรคเบาหวาน ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยที่ส่งผลเสียต่อไต ไขมันทรานส์และน้ำมันที่ใช้ทอดซ้ำทำให้เกิดสารอนุมูลอิสระที่กระตุ้นการอักเสบ ส่งผลให้ไตทำงานหนักเกินไปและอาจนำไปสู่ภาวะไตวายเรื้อรัง

    2. การดื่ม: ติดชานมไข่มุก

    เช่นเดียวกับวัยรุ่นจีนจำนวนมาก เสี่ยวอวี่ดื่มชานมแทบทุกวัน โดยบางวันเธอดื่มมากถึง 5 แก้ว โดยเฉพาะช่วงสุดสัปดาห์หรือเวลาที่เธอเครียด แพทย์ของเธอระบุว่าน้ำตาลเทียมเป็นภัยร้ายต่อไต น้ำตาลในปริมาณสูงสามารถกระตุ้นระดับอินซูลินและเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคเบาหวาน ซึ่งหากเป็นเรื้อรัง อาจทำให้เกิดภาวะไตเสื่อมและนำไปสู่ไตวาย นอกจากนี้ ชานมยังมีปริมาณฟอสฟอรัสสูง ทำให้ไตต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อนำออกจากร่างกาย ซึ่งเมื่อสะสมเป็นเวลานาน อาจทำให้ประสิทธิภาพในการกรองของไตลดลงและนำไปสู่ไตวายเรื้อรัง

    3. การใช้ชีวิตตอนกลางคืน: นอนดึก

    ตั้งแต่เรียนจบมัธยมปลาย เสี่ยวอวี่แทบไม่เคยนอนก่อนตี 1 โดยเวลานอนปกติของเธออยู่ระหว่างตี 2 ถึงตี 3 การอดนอนเป็นเวลานานส่งผลให้วงจรชีวิตและกระบวนการขับสารพิษของไตรวนลูปผิดปกติ เมื่อไตไม่ได้รับการพักผ่อนที่เพียงพอ ความสามารถในการกรองของเสียจะลดลง และหากสะสมเป็นเวลานาน อาจนำไปสู่ภาวะไตวาย นอกจากนี้ การนอนดึกยังเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคความดันโลหิตสูง โรคอ้วน และโรคเบาหวาน ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ไตเสื่อมสภาพเร็วขึ้น

    เรื่องราวของเสี่ยวอวี่เป็นบทเรียนสำคัญเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพไต พฤติกรรมการกินและใช้ชีวิตในปัจจุบันอาจดูเหมือนไม่มีผลเสียในทันที แต่หากสะสมไปนาน ๆ อาจนำไปสู่โรคร้ายแรงโดยไม่ทันตั้งตัว การเลือกรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ ลดน้ำตาล หลีกเลี่ยงอาหารทอด และพักผ่อนให้เพียงพอ เป็นสิ่งที่ช่วยให้ไตทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและป้องกันปัญหาสุขภาพร้ายแรงในอนาคต

  • KUBET – นั่งเครื่องบินเจอ “เด็กเตะเก้าอี้ไม่หยุด” คนแนะวิธีแก้เผ็ด ทำอีกฝ่ายร้องไห้ขอโทษเอง

    นั่งเครื่องบินเจอเด็กนั่งข้างหลัง “เตะเก้าอี้” ไม่หยุด แถมพ่อแม่ไม่สนใจ ชาวเน็ตเผยวิธีแก้เผ็ด แค่ 5 นาที ทำอีกฝ่ายร้องไห้ขอโทษเอง

    หลายคนมักใช้ช่วงวันหยุดไปท่องเที่ยวต่างประเทศ แต่มีชาวเน็ตคนหนึ่งขอคำแนะนำหลังเจอเหตุการณ์บนเครื่องบิน เด็กที่นั่งข้างหลังเตะพนักเก้าอี้ของเขาไม่หยุด พ่อแม่ยังพูดท้าทายอีก โพสต์นี้กลายเป็นที่ถกเถียงอย่างมาก ชาวเน็ตบางคนยังแชร์วิธีโต้กลับแบบเด็ดๆ ซึ่งทำมาแล้วได้ผลมาให้

    เจ้าของโพสต์เล่าใน Threads ว่า ขณะนั่งเครื่องบินเขาเจอเด็กข้างหลังเตะพนักเก้าอี้ไม่หยุด ตอนแรกพยายามอดทนคิดว่าจะผ่านไปได้ แต่เด็กกลับเตะไม่เลิก เมื่อทนไม่ไหวจึงบอกพ่อแม่ของเด็ก แต่กลับโดนสวนกลับว่า “อยากสบายก็จ่ายไปนั่งชั้นธุรกิจสิ” ทำเอาเขางงหนัก และอยากถามความคิดเห็นว่า “ถ้าเป็นคุณจะทำยังไง?”

    ClickerHappy

    โพสต์ดังกล่าวกลายเป็นประเด็นร้อนในหมู่ชาวเน็ตทันที หลายคนแนะนำว่า “บอกผู้ปกครองไปเลยว่า นี่ครั้งแรกที่ขึ้นเครื่องเหรอ? ไม่ว่าจะนั่งชั้นไหนก็เตะพนักเก้าอี้ไม่ได้หรอก” หรือ “ฉันให้พนักงานมาจัดการ เพราะพูดตรง ๆ ด้วยตัวเองมักจบด้วยการทะเลาะ”

    บางคนยังแชร์ประสบการณ์ว่า “ฉันกับน้องเคยเจอเด็กเตะเก้าอี้บนเครื่อง พูดหลายครั้งแล้วก็ยังไม่หยุด สุดท้ายเมื่อน้องฉันโมโหด่าไปทีเดียว เด็กเงียบยาวจนเครื่องลงเลย”

    ยังมีคนแชร์วิธีโต้กลับสุดเด็ดที่เรียกยอดไลก์กว่า 10,000 ครั้ง เจ้าของเรื่องเล่าว่า “เคยเจอแบบนี้เหมือนกัน ผมคุยกับผู้โดยสารข้างหลัง ขอเปลี่ยนที่นั่งสัก 10 นาที แล้วบอกพนักงานต้อนรับ จากนั้นก็เตะเก้าอี้เด็กกลับเต็มแรงทั้งโยกทั้งสั่น ไม่ถึง 5 นาที แม่เด็กรีบขอโทษ ส่วนเด็กก็ร้องไห้ขอโทษ”

  • KUBET – “เบลล่า” กับครอบครัว “วิล ชวิณ” ชัดเจนว่าที่สะใภ้แสนล้าน บ้านเจียรวนนท์

    เบลล่า โมเมนต์ปาร์ตี้อบอุ่นในครอบครัวของ วิล ชวิณ ชัดเจนตำแหน่งว่าที่สะใภ้บ้านเจียรวนนท์ 

    เป็นภาพที่น่ารักมากในงานวันเกิดของหลานชายของ วิล-ชวิณ เจียรวนนท์ ต้องบอกว่าเป็นการรวมตัวแบบครอบครัวใหญ่ที่อบอุ่นมาก และในงานเลี้ยงเล็กๆ แต่น่ารักนี้จากภาพทำยิ้มตามไปด้วยเลย เพราะมีนางเอกสาว เบลล่า ราณี ได้มาร่วมอวยพรวันเกิดหนุ่มน้อย และได้เจอกับคุณพ่อคุณแม่ของ วิล ชวิณ อีกด้วย 

    บอกเลยว่าภาพดังกล่าวทำแฟนคลับต่างกรี๊ดดังๆ เพราะ วิล ชวิณ ชัดเจนกับความสัมพันธ์มากๆ พาสาว เบลล่า ร่วมเป็นหนึ่งในครอบครัวของเขาเอง 

    ชัดเจนแล้วว่า เบลล่า ราณี พร้อมกับตำแหน่งว่าที่สะใภ้แห่งบ้านเจียรวนนท์ สะใภ้แสนล้าน แน่นอนที่สุด  

  • KUBET – 7 อาชีพ ที่ “คนใน” เตือนให้ “หนีไป!” คนนอกมองดูดี แต่คนที่ทำอยู่แสนทรมาน

    7 อาชีพ ที่คนในวงการเตือนให้หนีไป! เสียงสะท้อนจากคนทำงาน: “กูไม่น่าเลย!”

    ในสังคมปัจจุบัน การเลือกอาชีพที่ถูกใจและมีความมั่นคงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก หลายคนมองเห็นความสำเร็จและความน่าสนใจของอาชีพต่างๆ แต่เบื้องหลังกลับเต็มไปด้วยความท้าทายและอุปสรรคที่คนในวงการนั้นๆ เตือนว่า “กูไม่น่าเลย” นี่คือ 7 อาชีพที่มักจะมีเสียงสะท้อนเชิงลบจากผู้ที่ทำงานอยู่ พร้อมกับเหตุผลที่ควรไตร่ตรองให้ดีก่อนจะตัดสินใจ

    1. นักข่าว

    เสียงสะท้อน: “เวลางานไม่แน่นอน ชีวิตไม่มีความเป็นส่วนตัว เสี่ยงทั้งจากการทำข่าวและแรงกดดันที่ต้องแข่งกับเวลา”
    นักข่าวต้องเตรียมพร้อมสำหรับการทำงานตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นการรายงานข่าวด่วนหรือติดตามข่าวสารในพื้นที่อันตราย ส่งผลให้ชีวิตส่วนตัวแทบไม่มี จากการสำรวจขององค์กรวิจัยแรงงาน พบว่า 68% ของนักข่าวทำงานมากกว่า 50 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ โดยเฉพาะนักข่าวภาคสนามที่ต้องเผชิญกับความเสี่ยงทั้งด้านสุขภาพและความปลอดภัย

    2. แพทย์

    เสียงสะท้อน: “กว่าจะเรียนจบ กว่าจะเป็นแพทย์ ต้องเสียสละเวลาส่วนตัวมากมาย ชีวิตถูกผูกติดกับโรงพยาบาลแทบตลอด”
    แพทย์คืออาชีพที่มีความรับผิดชอบสูง ต้องเสียสละเวลาเรียนรู้ในช่วงการฝึกงานยาวนาน ทั้งต้องเผชิญกับแรงกดดันจากการรับผิดชอบชีวิตคนไข้ โดยผลสำรวจจากสมาคมแพทย์เผยว่า 58% ของแพทย์ใหม่ประสบกับอาการเหนื่อยล้าทั้งทางร่างกายและจิตใจ และหลายคนยอมรับว่าชีวิตส่วนตัวและครอบครัวถูกทิ้งไว้ข้างหลังเพื่อการทำงาน

    3. ทนายความ

    เสียงสะท้อน: “ชีวิตคือการต่อสู้ในห้องพิจารณาคดีและการประชุม เสี่ยงต่อความเครียดสูงจากงานที่ต้องการความละเอียดรอบคอบ”
    การเป็นทนายต้องเผชิญกับความซับซ้อนของคดี ความกดดันจากการแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวข้องกับชีวิตและทรัพย์สินของผู้อื่น การทำงานในเวลาที่นานเกินมาตรฐาน ผลสำรวจของสมาคมนักกฎหมายระบุว่า 55% ของนักกฎหมายรายงานว่าพวกเขาเผชิญกับความเครียดสูงจนส่งผลกระทบต่อสุขภาพและชีวิตส่วนตัว

    4. พนักงานขาย

    เสียงสะท้อน: “งานนี้ไม่ใช่แค่ขาย แต่ต้องรับมือกับเป้าหมายและความกดดันทางยอดขายตลอดเวลา”
    พนักงานขายอาจดูเป็นอาชีพที่มีโอกาสทำรายได้สูงจากค่าคอมมิชชั่น แต่รายได้ไม่คงที่และขึ้นอยู่กับยอดขายโดยตรง โดย 60% ของพนักงานขายที่ตอบแบบสำรวจจากสมาคมธุรกิจรายงานว่า พวกเขารู้สึกถึงความไม่มั่นคงในรายได้ หากยอดขายไม่ดี รายได้ก็จะลดลงอย่างมาก และยังต้องรับมือกับแรงกดดันจากการต้องทำเป้าให้ถึงตามที่บริษัทกำหนด

    5. โปรแกรมเมอร์

    เสียงสะท้อน: “งานเขียนโค้ดไม่ได้มีแค่เขียน ต้องคอยแก้ไขปัญหาและพัฒนาตลอดเวลา ไม่มีเวลาหยุด”
    โปรแกรมเมอร์อาจเป็นอาชีพที่มีรายได้สูงและโอกาสงานเยอะ แต่กลับมาพร้อมกับความกดดันและความเหนื่อยล้าจากการทำงานที่ต้องแก้ไขปัญหาและเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว ผลการสำรวจของ Stack Overflow ระบุว่า 40% ของโปรแกรมเมอร์ประสบกับปัญหาการหมดไฟจากการทำงาน (burnout) เนื่องจากต้องรับมือกับความคาดหวังที่สูงและเวลาทำงานที่ยืดยาว

    6. อาชีพครู

    เสียงสะท้อน: “งานครูไม่ใช่แค่สอน แต่ต้องรับภาระอื่นๆ ทั้งการเตรียมการสอน การประเมิน และภารกิจที่ไม่เกี่ยวข้องกับการเรียนการสอน”
    แม้อาชีพครูจะได้รับการยกย่องว่าเป็นอาชีพที่สร้างอนาคต แต่ในความเป็นจริง ครูต้องรับภาระงานที่หลากหลายมากกว่าแค่การสอนในห้องเรียน ผลสำรวจจากองค์กรวิจัยการศึกษาแสดงให้เห็นว่า 65% ของครูรู้สึกว่าภาระงานที่ไม่เกี่ยวข้องกับการสอน เช่น การประเมิน การเตรียมการสอน และการจัดการเอกสาร ส่งผลให้มีเวลาให้นักเรียนไม่เพียงพอและทำให้ครูหลายคนหมดไฟ

    7. พนักงานสายการบิน

    เสียงสะท้อน: “ชีวิตอยู่บนฟ้าแต่หัวใจอยู่ที่พื้น ต้องเผชิญกับการทำงานในเวลาที่ไม่แน่นอนและการเดินทางที่เหนื่อยล้า”
    พนักงานสายการบินทั้งแอร์โฮสเตสและนักบินอาจดูเป็นอาชีพที่ได้เดินทางทั่วโลก แต่ความจริงแล้วต้องแลกกับการทำงานในเวลาที่ไม่เป็นมาตรฐาน การเดินทางข้ามเขตเวลาทำให้เกิดความเหนื่อยล้า และการพักผ่อนที่ไม่เพียงพอจากการทำงานที่ต่อเนื่อง โดยผลสำรวจจากอุตสาหกรรมสายการบินเผยว่า 50% ของพนักงานในสายการบินมีปัญหาเรื่องการนอนหลับและการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงของเวลา

    ทุกอาชีพมีความท้าทายและภาระงานที่ซ่อนอยู่หลังความสำเร็จ ไม่ว่าจะเป็นการจัดการกับความกดดันหรือการเสียสละชีวิตส่วนตัว คนที่ประสบความสำเร็จในแต่ละอาชีพมักเป็นผู้ที่สามารถรับมือกับความเหนื่อยล้าและความท้าทายเหล่านี้ได้อย่างเข้มแข็ง