ผู้เขียน: admin

  • KUBET – สถิติหวยออกวันอาทิตย์ งวดนี้ 16/3/68 สถิติย้อนหลัง 10 ปี หวยงวด 16 มีนาคม 2568

    สลากกินแบ่งรัฐบาล งวด 16/3/68 หวยงวด 16 มี.ค. 68 นี้ ตรงกับ วันอาทิตย์ ก่อนถึงวันหวยออกก็จะต้องมีการคำนวณเลขเด็ด หาข่าวหวยตามที่ต่างๆ วันนี้ Sanook News ได้รวบรวม สถิติหวยออกวันอาทิตย์ ย้อนหลัง 10 ปี เพื่อเป็นแนวทางสำหรับคนที่จะซื้อลอตเตอรี่งวดนี้ มีเลขอะไรบ้าง

    สถิติหวยออกวันอาทิตย์ เลขที่ออกซ้ำ

    เลขท้าย 2 ตัว ออกซ้ำ 3 ครั้ง : 40 79

    เลขท้าย 2 ตัว ออกซ้ำ 2 ครั้ง : 15 18 62 98 94

    เลขท้าย 2 ตัว ออกซ้ำ 1 ครั้ง : 01 02 14 20 25 29 34 45 50 52 66 69 71 81 83 85 87 88

    เลขท้าย 3 ตัว ออกซ้ำ 2 ครั้ง :  008 297 498 780

    เลขท้าย 3 ตัว ออกซ้ำ 1 ครั้ง : 004 013 030 031 032 062 066 074 083 127 129 155 160 166 179 210 217 227 241 245 250 274 276 286 305 324 364 369 390 397 400 409 422 426 439 457 462 473 480 521 530 551 566 587 597 606 615 624 636 638 648 701 709 733 743 781 785 786 797 799 800 807 813 823 857 878 884 904 918 924 952 970

    สถิติหวยออกวันอาทิตย์ ย้อนหลัง 10 ปี

    วันอาทิตย์ 16 ก.พ. 2568

    รางวัลที่ 1 847377
    เลขหน้า 3 ตัว 613 268 
    เลขท้าย 3 ตัว 652 001
    เลขท้าย 2 ตัว 50

    วันอาทิตย์ 1 ธ.ค. 2567

    รางวัลที่ 1 669843
    เลขหน้า 3 ตัว 559 626
    เลขท้าย 3 ตัว 098 654
    เลขท้าย 2 ตัว 61

    วันอาทิตย์ที่ 1 ก.ย. 2567

    รางวัลที่ 1 คือ 199606
    เลขท้าย 2 ตัว 94
    เลขหน้า 3 ตัว 173 220
    เลขท้าย 3 ตัว 094 388

    วันอาทิตย์ที่ 16 มิ.ย. 2567

    รางวัลที่ 1 คือ 518504
    เลขท้าย 2 ตัว 31
    เลขหน้า 3 ตัว 016 428
    เลขท้าย 3 ตัว 426 447

    วันอาทิตย์ที่ 1 ต.ค. 2566
    รางวัลที่ 1 คือ 727202
    เลขท้าย 2 ตัว 66
    เลขหน้า 3 ตัว 355, 324
    เลขท้าย 3 ตัว 426, 615

    วันอาทิตย์ที่ 16 ก.ค. 2566
    รางวัลที่ 1 คือ 169530
    เลขท้าย 2 ตัว 62
    เลขหน้า 3 ตัว 384, 261
    เลขท้าย 3 ตัว 066, 780

    วันอาทิตย์ที่ 16 เม.ย. 2566
    รางวัลที่ 1 คือ 984906
    เลขท้าย 2 ตัว 71
    เลขหน้า 3 ตัว 678, 670
    เลขท้าย 3 ตัว 797, 551

    วันอาทิตย์ที่ 16 ต.ค. 2565
    รางวัลที่ 1 คือ 613106
    เลขท้าย 2 ตัว 15
    เลขหน้า 3 ตัว 158, 037
    เลขท้าย 3 ตัว 606, 799

    วันอาทิตย์ที่ 1 ส.ค. 2564
    รางวัลที่ 1 คือ 910261
    เลขท้าย 2 ตัว 69
    เลขหน้า 3 ตัว 307, 103
    เลขท้าย 3 ตัว 785, 004

    วันอาทิตย์ที่ 16 พ.ค. 2564
    รางวัลที่ 1 คือ 684579
    เลขท้าย 2 ตัว 14
    เลขหน้า 3 ตัว 615, 843
    เลขท้าย 3 ตัว 276, 970

    วันอาทิตย์ที่ 2 พ.ค. 2564
    รางวัลที่ 1 คือ 501272
    เลขท้าย 2 ตัว 18
    เลขหน้า 3 ตัว 306, 018
    เลขท้าย 3 ตัว 498, 129

    วันอาทิตย์ที่ 17 ม.ค. 2564
    รางวัลที่ 1 คือ 384395
    เลขท้าย 2 ตัว 15
    เลขหน้า 3 ตัว 653, 367
    เลขท้าย 3 ตัว 566, 878

    วันอาทิตย์ที่ 1 พ.ย. 2563
    รางวัลที่ 1 คือ 506404
    เลขท้าย 2 ตัว 40
    เลขหน้า 3 ตัว 154, 598
    เลขท้าย 3 ตัว 062, 245

    วันอาทิตย์ที่ 16 ส.ค. 2563
    รางวัลที่ 1 คือ 945811
    เลขท้าย 2 ตัว 88
    เลขหน้า 3 ตัว 712, 614
    เลขท้าย 3 ตัว 733, 364

    วันอาทิตย์ที่ 1 มี.ค. 2563
    รางวัลที่ 1 คือ 875938
    เลขท้าย 2 ตัว 98
    เลขหน้า 3 ตัว 294, 328
    เลขท้าย 3 ตัว 597, 780

    วันอาทิตย์ที่ 16 ก.พ. 2563
    รางวัลที่ 1 คือ 781403
    เลขท้าย 2 ตัว 94
    เลขหน้า 3 ตัว 515, 952
    เลขท้าย 3 ตัว 030, 918

    วันอาทิตย์ที่ 1 ธ.ค. 2562
    รางวัลที่ 1 คือ 453522
    เลขท้าย 2 ตัว 81
    เลขหน้า 3 ตัว 617, 261
    เลขท้าย 3 ตัว 457, 013

    วันอาทิตย์ที่ 1 ก.ย. 2562
    รางวัลที่ 1 คือ 798787
    เลขท้าย 2 ตัว 20
    เลขหน้า 3 ตัว 210, 847
    เลขท้าย 3 ตัว 274, 439

    วันอาทิตย์ที่ 16 มิ.ย. 2562
    รางวัลที่ 1 คือ 174055
    เลขท้าย 2 ตัว 29
    เลขหน้า 3 ตัว 884, 625
    เลขท้าย 3 ตัว 800, 127

  • KUBET – ผัก 2 ชนิด หมอชาวญี่ปุ่นขนานนามว่า “ยาบำรุงตับชั้นเลิศ” ที่ไทยมีครบ หาซื้อง่าย

    ตามตลาดในไทย สามารถพบผัก 2 ชนิด ที่หมอชาวญี่ปุ่นยกย่องว่ามีประโยชน์ต่อสุขภาพตับได้อย่างง่ายดาย

    ตับเป็นอวัยวะที่ใหญ่ที่สุดในร่างกาย มีหน้าที่กรองและลำเลียงสารต่างๆ ผ่านกระแสเลือดไปทั่วร่างกาย สถิติระบุว่า ปัจจุบันมีผู้คนกว่า 2 พันล้านคนทั่วโลกที่เสี่ยงต่อโรคตับจากหลายสาเหตุ โดยเฉพาะการดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป

    การดูแลตับให้แข็งแรงนั้น โภชนาการเป็นปัจจัยสำคัญอย่างยิ่ง

    ชาวญี่ปุ่นให้ความสำคัญกับการรับประทานผักใบเขียวเป็นส่วนหนึ่งของเคล็ดลับอายุยืน โดยมีผักหลายชนิดที่พวกเขายกย่องว่ามีประโยชน์ต่อสุขภาพตับ ซึ่งสามารถหาซื้อได้ง่ายตามตลาดในไทย

    • ผักกวางตุ้งฮ่องเต้

    ผักกวางตุ้งฮ่องเต้อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น วิตามิน C, วิตามิน E และแคโรทีนอยด์ ซึ่งช่วยปกป้องตับจากความเสียหายที่เกิดจากภาวะเครียดออกซิเดชัน (oxidative stress) สารเหล่านี้มีบทบาทสำคัญในการป้องกันการเสื่อมสภาพของเซลล์ตับและช่วยรักษาสุขภาพของตับให้แข็งแรง

    นอกจากนี้ ผักกวางตุ้งฮ่องเต้ยังมีใยอาหารและน้ำในปริมาณสูง ซึ่งช่วยล้างพิษในตับและขจัดสารตกค้างออกจากร่างกาย ใยอาหารในผักชนิดนี้สามารถจับกับสารพิษและช่วยกำจัดออกทางระบบย่อยอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    ผักกวางตุ้งฮ่องเต้ยังอุดมไปด้วยวิตามิน K, กรดโฟลิก และแร่ธาตุสำคัญอย่างโพแทสเซียม, แคลเซียม และแมกนีเซียม ซึ่งช่วยเสริมการทำงานของตับ และช่วยในกระบวนการเผาผลาญไขมันและโปรตีน

    โรคตับอักเสบเป็นภาวะที่อาจทำให้ตับได้รับความเสียหายรุนแรง แต่ผักกวางตุ้งฮ่องเต้มีสารต้านการอักเสบตามธรรมชาติที่ช่วยลดการอักเสบของตับ และช่วยฟื้นฟูการทำงานของตับได้อีกด้วย

    • ต้นอ่อนบรอกโคลี

    ต้นอ่อนบรอกโคลี เป็นผักที่อยู่ในระหว่างการเจริญเติบโต ขนาดเล็กประมาณ 5-10 ซม. และไม่จำเป็นต้องปลูกในดิน ต้นอ่อนจะได้รับสารอาหารจากเมล็ดเพื่อให้มันงอกและสร้างใบอ่อนสองใบก่อนที่จะต้องการแสงแดดและดินเพื่อการเจริญเติบโต

    ไม่เพียงแต่มีรสชาติอร่อย ต้นอ่อนยังได้รับการยกย่องอย่างสูงในด้านคุณค่าทางโภชนาการ

    ตามคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญชาวญี่ปุ่น ต้นอ่อนบรอกโคลีมีสารอาหารที่อุดมสมบูรณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีธาตุเหล็ก แคลเซียม กรดโฟลิก เบต้า-แคโรทีน วิตามิน B วิตามิน K วิตามิน C และไฟเบอร์

    ที่สำคัญ นพ.นิชิซากิ ไทฮิโระ แผนกโรคทางเดินอาหาร โรงพยาบาลโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น กล่าวว่า ต้นอ่อนบรอกโคลีมีสารสำคัญที่สามารถขจัดอนุมูลอิสระที่ทำให้เกิดมะเร็ง ซึ่งสารนี้เรียกว่า ซัลโฟราแฟน (Sulforaphane) ซัลโฟราแฟนช่วยเสริมการทำงานของตับและช่วยตับในการขจัดสารพิษออกจากร่างกาย

    การวิจัยจากมหาวิทยาลัยคานาซาวะ พบว่าซัลโฟราแฟนมีประโยชน์ต่อสุขภาพในการป้องกันโรคอ้วน ลดการอักเสบ และปรับปรุงระบบจุลินทรีย์ในลำไส้ ซัลโฟราแฟนยังสามารถช่วยปรับสภาพการอักเสบของตับและเนื้อเยื่อไขมันในทิศทางที่ดีขึ้น

    ซัลโฟราแฟนสามารถกระตุ้นการผลิตเอนไซม์ที่ช่วยลดอนุมูลอิสระและสารที่เป็นอันตราย นอกจากการป้องกันมะเร็งแล้ว สารนี้ยังมีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระและสามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรีย Helicobacter pylori (H.P)

    แม้ว่าการรับประทานบรอกโคลีจะช่วยให้ร่างกายได้รับซัลโฟราแฟน แต่ที่น่าสังเกตคือต้นอ่อนบรอกโคลีมีปริมาณซัลโฟราแฟนสูงกว่าบรอกโคลีที่โตเต็มที่ถึง 4-5 เท่า และหากต้นอ่อนงอกได้ประมาณ 3 วัน ปริมาณซัลโฟราแฟนจะสูงถึง 20 เท่า

    นอกจากนี้ ต้นอ่อนบรอกโคลียังมีซัลโฟราแฟนและสารอาหารอื่นๆ ที่มีประโยชน์อย่างมาก เช่น ไอโซไธโอไซยาเนตและซัลโฟราแฟน ซึ่งมีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระที่แข็งแกร่ง สารเหล่านี้ช่วยเสริมการทำงานของเอนไซม์ในตับในการกำจัดสารพิษ และช่วยป้องกันการทำลาย DNA ของเซลล์ ซึ่งสามารถป้องกันการพัฒนาของเซลล์มะเร็ง

    นอกจากนี้ ต้นอ่อนบรอกโคลียังมีประโยชน์ต่อสุขภาพอีกมากมาย เช่น ช่วยดีท็อกซ์เลือด ช่วยย่อยอาหาร ลดอาการท้องผูก ปกป้องการมองเห็น และช่วยแก้ปัญหาหัวใจและหลอดเลือด

  • KUBET – ผัวโหด! ยิงเมียดับต่อหน้าแม่ยาย-ลูกวัย 10 ปี ฉุดลูกเลี้ยงวัย 15 ขึ้นรถ เปิดปมสุดหดหู่

    ผัวจ่อยิงหัวเมีย ซ้ำอีกนัดดับต่อหน้าลูกชายวัย 10 ปี และแม่ยาย ก่อนพาลูกเลี้ยงวัย 15 ปี ขึ้นรถไปด้วย เปิดปมสุดหดหู่ เพิ่งถูกโทรฟ้องว่าข่มขืน

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (13 มี.ค.) เมื่อเวลา 00.30 น. พ.ต.ท.สุนทร พิมพ์พันธ์ สารวัตรสอบสวน สภ.พระสมุทรเจดีย์ ได้รับแจ้งเหตุทำร้ายร่างกายด้วยอาวุธปืน มีผู้ได้รับบาดเจ็บภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง หมู่ 10 ตำบลในคลองบางปลากด อำเภอพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ 

    ที่เกิดเหตุเป็นบ้านทาวน์เฮ้าส์ 2 ชั้น ที่บริเวณชั้นล่างตรงที่นอน พบ นางสาวรัตติยา อายุ 34 ปี นอนแน่นิ่งหมดสติอยู่บนที่นอน มีแผลถูกอาวุธปืนยิงเข้าที่บริเวณหน้าท้องใกล้ลิ้นปี่ 1 แผล และที่ศีรษะข้างซ้ายเป็นแผลขนาดใหญ่ทะลุท้ายทอย 1 แผล เจ้าหน้าที่กู้ชีพเร่งให้การช่วยเหลือปั๊มหัวใจอยู่ประมาณ 30 นาที แต่ไม่เป็นผล เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ จึงประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และแพทย์เวร เข้าร่วมตัวสอบที่เกิดเหตุ

    โดยในที่เกิดเหตุยังพบ ปลอกกระสุนปืนขนาด .38 ตกอยู่บนเตียง จำนวน 1 ปลอก และหัวกระสุนจำนวน 2 หัว ตกอยู่ใต้โซฟา เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ส่วนผู้ก่อเหตุทราบชื่อ คือ นายชัยวสิต อายุ 43 ปี ชาว อ.ยางชุมน้อย จ.ศรีสะเกษ มีอาชีพเป็นเซลล์จำหน่ายอะไหล่รถยนต์

    หลังก่อเหตุได้พา นางสาวบี (นามสมมุติ) อายุ 15 ปี ซึ่งเป็นลูกของผู้ตาย และเป็นลูกเลี้ยงของผู้ก่อเหตุ ขึ้นซ้อนรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ สีแดง-ดำ หมายเลขทะเบียน 9699 กรุงเทพมหานคร หลบหนีออกไปจากหมู่บ้าน

    ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนได้ไล่กล้องจึงพบว่า นายชัยวสิตได้นำรถจักรยานยนต์มาจอดไว้บริเวณริมถนนประชาอุทิศ-คู่สร้าง ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 300 เมตร แล้วจากนั้นผู้ก่อเหตุได้พาลูกสาวเปลี่ยนใช้รถยนต์กระบะ ยี่ห้อ มิซูบิชิ ไทรทัน 4 ประตู สีดำ หมายเลขทะเบียน 6627 กรุงเทพมหานคร หลบหนีต่อคาดมุ่งหน้าไป จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นบ้านเกิด

    ขณะนี้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจตามเส้นทาง เพื่อเร่งไล่ติดตามตัวผู้ก่อเหตุ เพราะกลัวว่าลูกสาวที่ไปด้วยจะได้รับอันตราย

    ภาพจากกล้องวงจรปิดภายในหมู่บ้าน สามารถจับภาพเวลา 00.38 น. ผู้ก่อเหตุ พาลูกชายวัย 10 ปี ได้เดินเท้าเข้ามาในหมู่บ้านก่อนจะเดินตรงไปที่บ้านที่ผู้ตายอยู่ จนไปถึงบ้านที่เกิดซึ่งเป็นบ้านที่ผู้ตายอยู่จะได้ยินเสียงคนทะเลาะกันเสียงดัง

    จนเมื่อเวลา 00.48 น. ได้มีเสียงปืนดังขึ้น 2 นัด และมีเสียงผู้หญิงกรีดร้อง ในเวลา 00.49 น. ก็มีเสียงปืนดังขึ้นอีก 2 นัด ใน เวลา 00.49 น. ก็มีเสียงปืนดังขึ้นอีก 2 นัด ในเวลา 00.50 น. มีเสียงปืนดังขึ้นอีก 1 นัด ก่อนจะได้ยินเสียงคนคุยกัน

    และในเวลา 00.51 น. ผู้ก่อเหตุได้พาตัวลูกเลี้ยงออกมาขึ้นซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ โดยมีญาติของผู้ตายเดินตามมาพยายามห้ามไม่ให้ผู้ก่อเหตุพาตัวลูกเลี้ยงไป ต่อมากล้องวงจรปิดบริเวณป้อมยามหน้าหมู่บ้าน เวลา 00.52 น. สามารถจับภาพ ผู้ก่อเหตุ ขี่รถจักรยานยนต์ออกไปนอกหมู่บ้าน โดยมีลูกเลี้ยงนั่งซ้อนท้ายไปด้วย ก่อนที่กล้องริมถนนจะจับภาพรถยนต์กระบะของผู้ก่อเหตุที่กำลังขับไปบนถนน

    จากการสอบถาม นางอาภา อายุ 70 ปี แม่ของผู้ตาย เล่าว่า ตนนอนอยู่คนเดียวด้านล่าง เห็นหลานเคาะประตูเลยเปิดประตูให้เขา พอเปิดประตูปุ๊บผู้ก่อเหตุก็เข้ามายืนตรงหน้าโทรทัศน์ ถามหาลูกสาวของตน แล้วเขาคุยอะไรกันไม่รู้ ลูกเขยได้เอาปืนมายิงหัวลูกสาว ยิงท้องด้วย

    สำหรับลูกสาวและลูกเขย เขาอยู่ด้วยกันนานแล้ว ลูกสาววิ่งไลน์แมน ส่วนลูกสาวทำงานเกี่ยวกับขายอะไหล่รถแถวศรีสะเกษ ไปๆ มาๆ ที่นี่ มีการจดทะเบียนสมรสกัน มีปัญหาเรื่องหย่า ทะเลาะกันบ่อย ก่อนหน้านี้มีทำร้ายร่างกายเอามีดจี้ เกือบตาย

    ด้าน น.ส.รัตติกาล อายุ 49 ปี พี่สาวของผู้ตาย เล่าว่า เมื่อประมาณ 2 ทุ่ม น้องสาวกับลูกสาว มาคุยเรื่องคนก่อเหตุเคยข่มขืนลูกสาวของผู้ตายอยู่บ่อยครั้ง หลานเพิ่งจะมาบอกแม่เมื่อวันจันทร์นี้เอง ก็เลยคุยกันว่าน้องสาวจะจัดการแจ้งความจับ เราไม่รู้ว่าผู้ก่อเหตุจะมา

    หลานสาวเป็นลูกของน้องสาว ผู้ก่อเหตุเป็นพ่อเลี้ยง เขาไปอยู่ศรีสะเกษ 3 ปี ไม่รู้ว่าโดนข่มขืนตั้งแต่เมื่อไหร่ ตอนแรกแม่ก็ไปอยู่ด้วย ตอนหลังแม่เขากลับมาอยู่กรุงเทพ ส่วนลูกอยู่ที่นั่นปล่อยให้พ่อเลี้ยงเขาดูแล เพราะความไว้ใจ ให้น้องเขาเรียนที่นั่น พอจบ ม.3 ให้ย้ายมาที่นี่ ผู้ก่อเหตุโมโหว่าจะไม่ให้มาอยู่ แต่หลานเคยพูดว่าพ่อมีปืน

    แม่เขามาหาตนที่ทำงานมาปรึกษาเรื่องลูกสาวโดนพ่อเลี้ยงข่มขืนว่าจะทำยังไงดี มารู้อีกทีว่าเขามา ก็เลยรีบเปิดกล้องวงจรปิดในบ้านดู ก็เห็นมันยิงน้องสาว ตนตกใจมาก สติแตกด้วย น้องกลับมายังไม่ถึง 2 อาทิตย์เลย เพิ่งจะเล่าให้แม่ฟังเมื่อวันจันทร์ ก็เลยแนะนำให้เขาตัดสินใจเพราะเขาเป็นแม่ เขาจะแจ้งความจับสามีเขา แต่ตอนนั้นทางผู้ก่อเหตุยังไม่รู้เรื่อง

    ด.ช.บี (นามสมมุติ) อายุ 10 ปี ลูกชายผู้ตายกับผู้ก่อเหตุ เล่าว่า ตอนแรกอยู่ศรีสะเกษ แล้วพ่อพาตนมาส่งวันนี้ ตอนพ่อมาถึงบ้านพ่อแอบอยู่ ยายเปิดประตูบ้านให้ พ่อก็เดินเข้าไปในบ้าน และพ่อกับแม่ก็ทะเลาะกัน พ่อคุยเสร็จก็หยิบปืนมายิงใส่แม่ ยิงที่ท้องแล้วแม่ก็ไปนั่งอยู่

    “แม่ก้มหัวพ่อก็เลยยิงเข้าที่หัว 2 นัด ยิงต่อหน้าผม ตอนนั้นผมห้ามไม่ได้ ถ้าห้ามผมก็จะโดนยิง ผมเลยวิ่งไปแอบในห้องน้ำ พ่อจะมายิงพี่ผมอีก ยายกอดพี่ผมไว้ไม่ให้โดนยิง พ่อผมบอกให้ยายหยิบกุญแจรถให้ แล้วพ่อผมก็พาพี่ผมไปเลย”

    เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุ ถ่ายภาพ และลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน พร้อมให้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเข้าเก็บรวบรวมพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ ส่วนร่างของผู้เสียชีวิตมอบให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิดำเนินการส่งชันสูตรที่สถาบันนิติเวชโรงพยาบาลตำรวจ 

    ล่าสุด วันนี้ (13 มี.ค.) เมื่อเวลา 09.00 น. รายการกรรมกรข่าว คุยนอกจอ รายงานว่า เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัว นายชัยวสิต อายุ 43 ปี ได้แล้ว ส่วน นางสาวบี (นามสมมุติ) อายุ 15 ปี ลูกเลี้ยง ปลอดภัยดี

  • KUBET – ได้ยินเสียงแปลกๆ ออกมาจากห้องพ่อสามีตอนดึก ลูกสะใภ้เห็นภาพที่ทำให้ตกตะลึง

    ได้ยินเสียงแปลกๆ จากห้องพ่อสามีตอนกลางดึก ลูกสะใภ้เปิดประตูเข้าไปถึงกับช็อก รู้เหตุผลได้แต่จุกอก น้ำตาคลอเบ้า

    เว็บไซต์ Kenh14.vn รายงานเรื่องราวของ เสี่ยวลี่ หยิงชาวจีนรายหนึ่ง เธอเป็นลูกสะใภ้ที่อ่อนโยนและกตัญญูเสมอมา เธอรักและเคารพครอบครัวสามีเสมือนครอบครัวของตนเอง พ่อสามีของเธอ คุณจาง เป็นชายชราที่เรียบง่าย ใจดี และรักหลานชายเป็นอย่างมาก

    ทว่าตั้งแต่หลานเริ่มเข้าเรียนชั้นประถมที่โรงเรียนชื่อดัง ความสัมพันธ์ระหว่างสองปู่หลานก็ค่อยๆ ห่างเหินลง เสี่ยวลี่สังเกตว่าลูกชายของเธอแทบไม่ได้พูดคุยหรือเล่นกับปู่เหมือนก่อน แต่เธอก็ไม่รู้จะแก้ไขอย่างไร

    คืนหนึ่งขณะที่ทุกคนในบ้านกำลังหลับ เสี่ยวลี่ได้ยินเสียงแปลกๆ ดังออกมาจากห้องพ่อสามี เธอขมวดคิ้วสงสัยว่าดึกดื่นขนาดนี้ทำไมท่านยังไม่นอน ตอนแรกเธอคิดจะปล่อยผ่าน แต่เสียงพลิกหน้ากระดาษสลับกับเสียงถอนหายใจเบาๆ ทำให้เธออดสงสัยไม่ได้ สุดท้ายเธอตัดสินใจเดินไปที่หน้าห้องและแอบมองผ่านช่องประตู

    สิ่งที่เห็นทำให้เธอถึงกับช็อก…

    ภายใต้แสงไฟสลัว คุณจางนั่งอยู่ที่โต๊ะ กำลังตั้งใจอ่านหนังสือเรียนระดับประถม รอบตัวเต็มไปด้วยกองแบบฝึกหัดและหนังสือแนะแนวเกี่ยวกับการศึกษาของเด็ก ท่านจับปากกาไว้ในมือ ค่อยๆ อ่านและจดบันทึกลงสมุด บางครั้งก็หยุดคิดครู่หนึ่งก่อนจะขีดเส้นเน้นข้อความสำคัญ ดวงตาที่เคยอ่อนล้าเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น แต่แฝงไปด้วยความเศร้าเงียบงัน

    เสี่ยวลี่นิ่งอึ้ง ความรู้สึกหลากหลายถาโถมเข้ามาในใจ เธอค่อยๆ เคาะประตูและก้าวเข้าไปในห้อง คุณจางเงยหน้าขึ้น ดวงตาเต็มไปด้วยความประหม่าเล็กน้อยเมื่อถูกจับได้ว่าแอบทำอะไรบางอย่าง เสี่ยวลี่เห็นดังนั้นจึงยิ้มบางๆ ก่อนถามว่า “พ่อคะ ดึกขนาดนี้ทำไมพ่อยังไม่นอนอีก พ่อกำลังศึกษาสิ่งนี้อยู่เหรอคะ?”

    คุณจางถอนหายใจเบาๆ ก่อนตอบอย่างอ่อนโยน “พ่อแค่อยากเรียนรู้เพิ่มขึ้นอีกนิด จะได้เข้าใจหลานมากขึ้น ช่วงนี้เขาแทบไม่คุยกับพ่อเลย คงเพราะการบ้านเยอะ แล้วพ่อเองก็ไม่เข้าใจสิ่งที่เขาเรียนเลย อย่างน้อยพ่อก็อยากพูดคุยกับเขาได้ หรือช่วยเขาทำการบ้านบ้าง พ่อไม่อยากเป็นคนที่เด็กๆ ทิ้งไว้ข้างหลัง”

    ได้ยินเช่นนั้น เสี่ยวลี่รู้สึกจุกอก น้ำตาคลอเบ้า เธอไม่เคยคิดมาก่อนว่าคนแก่ใจดีคนนี้จะพยายามอย่างเงียบๆ เพียงเพื่อรักษาความสัมพันธ์กับหลานชาย ท่ามกลางความเร่งรีบของชีวิต พวกเขากลับลืมไปว่าความรักในครอบครัวก็ต้องการการดูแลและหล่อเลี้ยงเช่นกัน

    เช้าวันรุ่งขึ้น เสี่ยวลี่เล่าเรื่องนี้ให้สามีฟัง ทั้งคู่ตัดสินใจนั่งพูดคุยกับลูกชายและคุณจาง พวกเขากระตุ้นให้ลูกชายใช้เวลาร่วมกับปู่ให้มากขึ้น ไม่ใช่แค่เรื่องการเรียน แต่รวมถึงเรื่องราวในชีวิตประจำวันด้วย เด็กน้อยตอนแรกยังลังเลเล็กน้อย แต่เมื่อรู้ว่าปู่ใช้เวลามากมายเพื่อเรียนรู้และเข้าใจตนเอง เขาก็โผเข้ากอดปู่แน่น ก่อนให้คำสัญญาว่าจะพูดคุยกับปู่ให้มากขึ้น

    จะสอนเด็กให้เคารพผู้สูงวัยได้อย่างไร?

    การให้ความเคารพต่อผู้สูงวัย โดยเฉพาะปู่ย่าตายาย เป็นคุณค่าที่สำคัญในวัฒนธรรมครอบครัว เมื่อเด็กเรียนรู้ที่จะรักและให้ความสำคัญกับผู้สูงอายุ พวกเขาไม่เพียงได้รับบทเรียนล้ำค่าจากคนรุ่นก่อน แต่ยังสร้างพื้นฐานทางศีลธรรมที่มั่นคง

    อย่างไรก็ตาม ในสังคมยุคใหม่ หลายครอบครัวอาจละเลยการปลูกฝังความกตัญญูและความเคารพต่อผู้ใหญ่ แล้วเราจะช่วยให้เด็กเข้าใจและปฏิบัติสิ่งนี้ได้อย่างไร?

    • เป็นแบบอย่างที่ดี – พ่อแม่ควรแสดงให้ลูกเห็นถึงความเคารพและความห่วงใยที่มีต่อปู่ย่าตายาย เมื่อลูกได้เห็นพฤติกรรมที่ดีเหล่านี้ทุกวัน พวกเขาจะซึมซับและทำตามโดยธรรมชาติ
    • ส่งเสริมให้เด็กเข้าร่วมกิจกรรมในครอบครัว: สร้างโอกาสให้เด็กได้ใช้เวลาร่วมกับปู่ย่าตายายผ่านกิจกรรมต่างๆ เช่น การทานข้าวด้วยกัน เล่าเรื่อง เล่นเกม หรือช่วยงานบ้าน การทำเช่นนี้จะช่วยให้เด็กสัมผัสได้ถึงความใกล้ชิดและเรียนรู้ที่จะให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์ในครอบครัว

    • สอนเด็กเกี่ยวกับคุณค่าของความกตัญญู: พ่อแม่สามารถเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับการเสียสละและความรักของปู่ย่าตายายที่มีให้กับครอบครัว เพื่อให้เด็กเข้าใจว่าการเคารพผู้สูงวัยไม่ใช่แค่หน้าที่ แต่เป็นการแสดงออกถึงความรักและความกตัญญูที่มีต่อกัน

  • KUBET – “น้องมายู” ไม่เหงาแล้ว ต้อนรับสมาชิกใหม่บ้านกำเนิดพลอย น่ารักมาก

    ไม่เหงาแล้วช่วงนี้สำหรับ น้องมายู ลูกสาวสุดที่รักของ เมย์ เฟื่องอารมย์ กับ หนุ่ม กรรชัย เพราะว่าบ้านกำเนิดพลอย ได้มีสมาชิกใหม่มาเพิ่มทำให้บ้านมีสีสันมากขึ้นกว่าเดิม

    โดยล่าสุด แม่เมย์ ได้โพสต์ภาพ น้องมายู กับสมาชิกใหม่ของบ้าน ที่ตั้งชื่อว่า น้องข้าวต้ม เจ้าหมาน้อยสีขาวแสนน่ารัก พร้อมกับแคปชั่นว่า “ข้าวต้มมาอยู่ด้วยกัน1เดือนกว่าละ ซนมากแต่ก็น่ารัก ทำให้พี่ยูไม่เหงาเลย #ข้าวต้มของมายู”

    และดูเหมือนว่าคอมเมนต์จะไม่ได้โฟกัสที่น้องหมา แต่โฟกัสของความน่ารักของ น้องมายู ที่ยิ่งโตก็ยิ่งสวย รวมถึงแม่เมย์ ที่สวยมาก

  • KUBET – “ไขมันไตรกลีเซอไรด์สูง” ห้ามกินอะไร และอาหารอะไรที่ควรรับประทาน

    “ไตรกลีเซอไรด์” เป็นไขมันชนิดหนึ่งที่ไหลเวียนอยู่ในกระแสเลือด เป็นไขมันชนิดที่พบได้บ่อยที่สุดในร่างกาย และเป็นแหล่งพลังงานหลัก ไตรกลีเซอไรด์มาจากอาหาร เช่น เนย น้ำมัน เนื้อสัตว์ ผลิตภัณฑ์นม และไขมันอื่นๆ ร่างกายใช้ไตรกลีเซอไรด์บางส่วนเพื่อเป็นพลังงานทันที ในขณะที่เก็บส่วนอื่นๆ ไว้ใช้ในภายหลัง ร่างกายยังสร้างไตรกลีเซอไรด์เองในตับ แม้ว่าไตรกลีเซอไรด์จะจำเป็นต่อสุขภาพที่ดี แต่ระดับที่สูงก็สามารถเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือดสมองได้ ระดับไตรกลีเซอไรด์ในเลือดที่แข็งแรงคือต่ำกว่า 150 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร (mg/dL)

    อาหารและเครื่องดื่มใดบ้างที่เพิ่มระดับไตรกลีเซอไรด์?

    การรับประทานอาหารที่มีไขมัน น้ำตาล หรืออาหารที่มีค่าดัชนีน้ำตาล (GI) สูง อาจเพิ่มระดับไตรกลีเซอไรด์ได้ ตามรายงานในปี พ.ศ. 2564

    ไขมันอิ่มตัว

    ไขมันอิ่มตัวเป็นไขมันชนิดที่ไม่ดีต่อสุขภาพ สามารถเพิ่มระดับคอเลสเตอรอล LDL และระดับไตรกลีเซอไรด์ได้ พบได้ในอาหารที่มาจากสัตว์ เช่น

    • เนื้อวัว
    • เนื้อแกะ
    • เนื้อหมู
    • สัตว์ปีก
    • เนย
    • ชีส
    • ไขมันหมูและครีม
    • ไอศกรีม

    ไขมันทรานส์

    ไขมันทรานส์เป็นไขมันชนิดที่ไม่ดีต่อสุขภาพอีกชนิดหนึ่ง เพิ่มระดับคอเลสเตอรอล LDL และไตรกลีเซอไรด์ และลดระดับคอเลสเตอรอล HDL ไขมันทรานส์ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติอาจมีไขมันที่ไม่ดีต่อสุขภาพในปริมาณเล็กน้อย ไขมันทรานส์เทียมในอาหารแปรรูปมีไขมันที่ไม่ดีต่อสุขภาพในปริมาณที่สูงกว่า

    อาหารที่มีไขมันทรานส์ ได้แก่

    • อาหารทอด เช่น โดนัทและเฟรนช์ฟรายส์
    • ขนมอบ
    • พิซซ่าแช่แข็ง
    • มาร์การีนชนิดแท่ง

    อาหารและเครื่องดื่มที่มีน้ำตาล

    น้ำตาลบางส่วนที่คุณบริโภคจะกลายเป็นไตรกลีเซอไรด์ในร่างกายของคุณ อาหาร เช่น ผลไม้ทั้งลูกมีน้ำตาลธรรมชาติและเส้นใย ซึ่งสามารถเป็นส่วนหนึ่งของอาหารเพื่อสุขภาพได้ แต่อาหารที่มีน้ำตาลเติมในปริมาณมากจะทำให้ไตรกลีเซอไรด์สูงขึ้น ตัวอย่างของอาหารเหล่านี้ ได้แก่:

    • ลูกอม
    • เค้ก
    • คุกกี้
    • พาย
    • ขนมอบ
    • โดนัท
    • ไอศกรีม

    เครื่องดื่มที่มีน้ำตาล ได้แก่

    • น้ำอัดลม
    • กาแฟปรุงรส
    • เครื่องดื่มสำหรับนักกีฬา
    • น้ำปรุงแต่งรส
    • น้ำผลไม้

    อาหารที่มีแคลอรี่สูง

    อาหารที่มีแคลอรี่สูงสามารถเพิ่มไตรกลีเซอไรด์และทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นได้ ตัวอย่างได้แก่:

    • อาหารแปรรูป เช่น เบคอนและซาลามี่
    • อาหารจานด่วน
    • อาหารทอด
    • อาหารบรรจุหีบห่อ เช่น มันฝรั่งทอดและช็อกโกแลต

    คาร์โบไฮเดรตขัดสี

    คาร์โบไฮเดรตขัดสีคือคาร์โบไฮเดรตแปรรูปที่ถูกกำจัดสารอาหารที่เป็นประโยชน์และเส้นใยออกไปจำนวนมาก สิ่งเหล่านี้ถูกเรียกว่าแคลอรี่ “ว่างเปล่า” เนื่องจากประกอบด้วยน้ำตาลและธัญพืชแปรรูปเป็นส่วนใหญ่

    อาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตขัดสีสูงจะเพิ่มระดับไตรกลีเซอไรด์ ตัวอย่างของอาหารเหล่านี้ ได้แก่

    • ขนมปังขาว
    • พาสต้าขาว
    • ข้าวขาว
    • ลูกอม
    • น้ำผึ้ง
    • น้ำเชื่อม
    • ซีเรียลอาหารเช้าขัดสี

    อาหารที่มีแป้ง

    แป้งหรือที่รู้จักกันในชื่อคาร์โบไฮเดรต “เชิงซ้อน” ประกอบด้วยวิตามิน แร่ธาตุ และเส้นใย อาหารที่มีแป้งสามารถสนับสนุนสุขภาพของเราและให้สารอาหารที่สำคัญได้ อย่างไรก็ตาม การบริโภคอาหารที่มีแป้งในปริมาณมากสามารถเพิ่มไตรกลีเซอไรด์ได้ ตัวอย่างอาหารที่มีแป้ง ได้แก่

    • ขนมปัง
    • มันฝรั่ง
    • พาสต้า
    • บะหมี่
    • ซีเรียล
    • แครกเกอร์
    • ข้าว
    • ข้าวโพด

    แอลกอฮอล์

    การดื่มแอลกอฮอล์ 1 ออนซ์ต่อวัน สามารถเพิ่มระดับไตรกลีเซอไรด์ได้ 5–10% ตามรายงานเดียวกันในปี พ.ศ. 2564 การบริโภคแอลกอฮอล์มากเกินไปเกี่ยวข้องกับการเพิ่มขึ้นของไตรกลีเซอไรด์อย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ที่มีระดับไตรกลีเซอไรด์สูงอยู่แล้ว

    อาหารที่ช่วยลดไตรกลีเซอไรด์

    ทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพที่จะช่วยลดไตรกลีเซอไรด์ได้แก่

    • ขนมปังโฮลเกรน ซีเรียล และพาสต้า
    • ข้าวกล้องและข้าวป่า
    • ผัก เช่น ผักใบเขียว
    • เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน เช่น ไก่หรือไก่งวงไม่ติดหนัง
    • ปลาแซลมอนและปลาเทราต์
    • ข้าวโอ๊ต
    • ถั่วไม่ใส่เกลือ
    • เมล็ดพืช
    • เนยถั่ว
    • อะโวคาโด
    • พืชตระกูลถั่ว เช่น ถั่วแดงและถั่วเลนทิล
    • ผลิตภัณฑ์นมไขมันต่ำหรือไม่มีไขมัน เช่น นมและชีส
    • ผลไม้สด

     

  • KUBET – มะเร็งคร่าชีวิต ดาราสาววัย 39 ส่องโพสต์สุดท้ายยิ่งเศร้า จากไปทั้งที่ลูก 3 คนยังเล็ก

    บริษัทตัวแทนยืนยัน คิชิโมโตะ อาซึสะ นักแสดงหญิงวัย 39 ปี เสียชีวิตแล้วจากโรคมะเร็ง ทิ้งลูก 3 คน คนเล็กเพียง 4 ขวบ

    นักแสดงสาวชื่อดังจากญี่ปุ่น คิชิโมโตะ อาซึสะ เสียชีวิตจากโรคมะเร็งในวัย 39 ปี บริษัทตัวแทนของเธอ Oscar Communications ออกแถลงการณ์ยืนยันว่าเธอเสียชีวิตเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ แต่ไม่ได้เปิดเผยสาเหตุการเสียชีวิตที่แน่ชัด ขณะเดียวกันข่าวการจากไปของเธอก็ทำให้แฟนๆ และเพื่อนในวงการบันเทิงตกใจอย่างมาก

    คิชิโมโตะ อาซึสะ เริ่มต้นอาชีพในวงการบันเทิงในปี 2000 ในฐานะสมาชิกวง “Angelique” (アンジェリーク) ที่มีสมาชิก 3 คน เธอเคยร่วมแสดงในรายการเช้าชื่อ “Zoom In!! SUPER” และระหว่างปี 2007 ถึง 2012 ได้เป็นผู้ดำเนินรายการวิทยุ “YAMAMAN presents MUSIC SALAD FROM U-kari STUDIO” โดยมีผลงานทั้งในวงการดนตรี, โทรทัศน์ และวิทยุ ซึ่งเธอเป็นที่รักของแฟนๆ ด้วยบุคลิกที่สดใสและเปิดเผย

    ในปี 2011 คิชิโมโตะ อาซึสะ แต่งงานกับแฟนหนุ่มนอกวงการบันเทิง ทั้งคู่มีลูกสาววัย 11 ขวบ และลูกชายวัย 7 และ 4 ขวบ

    เธอมักจะแบ่งปันภาพชีวิตครอบครัวในโซเชียลมีเดีย ก่อนที่ในเดือนเมษายนปีที่แล้วจะโพสต์ภาพลูกชายเข้าเรียน และในเดือนตุลาคมก็แชร์ช่วงเวลาที่ครอบครัวไปเที่ยวที่ยูนิเวอร์แซลสตูดิโอ

    ดูเหมือนเธอจะมีสุขภาพดีและไม่มีอาการผิดปกติ จนกระทั่งการจากไปอย่างกะทันหันในครั้งนี้ทำให้หลายคนรู้สึกตกใจและยากที่จะเชื่อ

    สื่อญี่ปุ่นคาดว่า คิชิโมโตะ อาซึสะ อาจเสียชีวิตจากการที่มะเร็งเกิดภาวะแทรกซ้อนอื่น หรืออาจพบโรคในระยะที่ไม่สามารถรักษาได้แล้ว

    โดยมีแฟนๆ หลายคนแสดงความเสียใจในโซเชียลมีเดียของเธอ การอัปเดตครั้งล่าสุดของเธอในสื่อสังคมออนไลน์เกิดขึ้นในเดือนตุลาคม 2024 ซึ่งเธอได้แชร์ภาพถ่ายกับลูกชายที่สวนสนุก โดยไม่คาดคิดว่าภาพนั้นจะเป็นภาพสุดท้ายที่เธอฝากไว้ให้กับแฟนๆ

  • KUBET – “ปุ้ย L.กฮ.” เผยสถานะล่าสุดกับ “ลำไย ไหทองคำ” ฝ่ายหญิงเคลื่อนไหวทันที

    โพสต์รูปคู่อีกครั้งหลังจากผ่านพ้นดราม่าต่างๆ สำหรับ ปุ้ย L.กฮ. กับนักร้องสาว ลำไย ไหทองคำ พร้อมเผยสถานะที่ได้ตัดสินใจด้วยกันทั้งสองฝ่าย

    โดย ปุ้ย L.กฮ. โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า “ผมกับน้องลำไยเราตกลงเป็นพี่น้องกันนะครับ ผมในฐานะลูกชายคนโตของแม่แดง ยังช่วยเหลือ ไปมาหาสู่ดูแลกันเหมือนเดิมครับ ก็จะทำหน้าที่ทุกอย่างเหมือนเดิม ยกเว้นหน้าที่แฟนครับ

    ขอบคุณทุกๆกำลังใจนะครับ ผมขอน้อบรับทุกๆความคิดเห็นจากทุกๆคนครับ

    ลำใย ไหทองคำ ‘ต่อไปถ้าดื้อก็ตีกับไม้เรียวได้แล้วครับ เพราะเขาเป็นน้องสาวผมแล้ว’”

    ซึ่งต่อมา ลำไย ไหทองคำ ก็ได้เข้ามาคอมเมนต์ตอบกลับเป็นสติ๊กเกอร์รูปหัวใจในทันที

  • KUBET – เปิดเคล็ดลับอายุยืน ชายวัย 93 กินผลไม้ชนิดนี้ทุกเช้า ที่ไทยหาง่าย แถมราคาถูก

    เปิดเคล็ดลับอายุยืน ผู้ก่อตั้งบริษัทระดับโลก วัย 93 ปี แค่กินผลไม้ชนิดนี้ทุกเช้า ดีต่อทั้งน้ำตาลในเลือดและหัวใจ

    มอร์ริส จาง ผู้ก่อตั้งบริษัท Taiwan Semiconductor Manufacturing Co (TSMC) คือผู้วางรากฐานให้กับโรงงานผลิตชิปเซมิคอนดักเตอร์แห่งแรกและใหญ่ที่สุดในโลก

    แม้จะอายุ 93 ปีแล้ว แต่เขายังคงเป็นที่ชื่นชม ไม่เพียงเพราะความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ แต่ยังรวมถึงสุขภาพที่แข็งแรงและวินัยในการใช้ชีวิต แม้กาลเวลาจะเปลี่ยนไป แต่สายตาของเขายังคงเฉียบแหลม ความคิดยังคงเฉียบคม และสติปัญญายังคงแจ่มใส

    ท่ามกลางวิสัยทัศน์อันกว้างไกลและความสำเร็จทางธุรกิจมากมาย หลายคนต่างสงสัยว่าอะไรคือเคล็ดลับที่ทำให้เขาสามารถทำงานอย่างต่อเนื่องได้เป็นเวลาหลายทศวรรษ ภายใต้ภาระงานมหาศาลและแรงกดดันจากการตัดสินใจครั้งสำคัญ

    อะไรคือกุญแจสู่สุขภาพที่แข็งแรงและอายุยืนของเขา?

    นอกเหนือจากหลักการสำคัญอย่างการออกกำลังกายเป็นประจำ การรับประทานอาหารที่สมดุล และการบริหารเวลาการทำงานและการพักผ่อนอย่างมีระบบ ครอบครัวยังเผยว่า มอร์ริส จาง มีนิสัยกิน “มะละกอสุก” เป็นอาหารเช้าทุกวัน

    Jess Loiterton

    มะละกอ อัดแน่นด้วยสารอาหารสำคัญ

    มะละกอเป็นผลไม้ที่คุ้นเคยและมีประโยชน์ต่อสุขภาพอย่างมาก แคลอรีส่วนใหญ่ในมะละกอมาจากคาร์โบไฮเดรต โดยมะละกอ 145 กรัม ให้พลังงานประมาณ 62 แคลอรี ประกอบด้วยคาร์โบไฮเดรต 16 กรัม ซึ่งรวมถึงใยอาหาร 2.5 กรัม และน้ำตาลธรรมชาติประมาณ 11 กรัม นอกจากนี้ มะละกอยังมีค่าดัชนีน้ำตาล (GI) อยู่ที่ 60 และค่าภาระน้ำตาล (GL) ประมาณ 9 ที่สำคัญคือ มะละกอมีไขมันต่ำมาก โดยมีไม่ถึง 1 กรัมต่อหนึ่งหน่วยบริโภค

    นอกจากเป็นแหล่งพลังงานที่ดีแล้ว มะละกอยังอุดมไปด้วยวิตามินซี โดยในมะละกอ 145 กรัม มีวิตามินซีสูงถึง 88.3 มิลลิกรัม ซึ่งเพียงพอสำหรับความต้องการต่อวันของผู้ใหญ่ (75-90 มิลลิกรัม) อีกทั้งยังอุดมไปด้วยวิตามินเอ และโดดเด่นด้วยไลโคปีน แคโรทีนอยด์ ซึ่งเป็นสารสำคัญที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ

    ประโยชน์ของมะละกอต่อสุขภาพ

    ด้วยคุณค่าทางโภชนาการที่หลากหลาย มะละกอไม่เพียงแต่ให้พลังงาน แต่ยังช่วยเสริมสร้างและปกป้องสุขภาพโดยรวม โดยเฉพาะวิตามินที่มีอยู่ในมะละกอ ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการต้านอนุมูลอิสระ ช่วยให้เซลล์แข็งแรง

    ช่วยให้ผิวสวย เปล่งปลั่งขึ้น

    วิตามินซีในมะละกอมีส่วนช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ซึ่งจำเป็นต่อความยืดหยุ่นและการฟื้นฟูของผิว ด้วยปริมาณวิตามินซีที่สูง มะละกอช่วยชะลอริ้วรอยก่อนวัยและเสริมสร้างสุขภาพผิว นอกจากนี้ โพแทสเซียมที่มีอยู่ยังช่วยเติมความชุ่มชื้น ลดปัญหาผิวแห้งและหมองคล้ำ

    การผสานระหว่างวิตามิน A และ C ในมะละกอ ทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดผลกระทบจากอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของริ้วรอยก่อนวัย

    บำรุงสายตา

    มะละกอเป็นแหล่งของ เบตาแคโรทีน ซึ่งเป็นรูปแบบหนึ่งของวิตามิน A ที่ช่วยบำรุงสายตาให้แข็งแรง งานวิจัยพบว่า ร่างกายสามารถดูดซึมเบตาแคโรทีนจากมะละกอได้ดีกว่าแครอทและมะเขือเทศถึง 3 เท่า

    สำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงต่อภาวะจอประสาทตาเสื่อมจากอายุที่เพิ่มขึ้น การได้รับเบตาแคโรทีนอย่างเพียงพอสามารถช่วยชะลอการเสื่อมของดวงตาได้ การเลือกรับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามิน A อย่างมะละกอจึงเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพในการดูแลสายตา

    ปรับสมดุลลำไส้และช่วยป้องกันมะเร็ง

    เช่นเดียวกับผักและผลไม้หลายชนิด มะละกอมีใยอาหารสูง ช่วยกระตุ้นระบบย่อยอาหารและปรับสมดุลการทำงานของลำไส้ นอกจากนี้ยังมีเอนไซม์ ปาเปน (Papain) ที่ช่วยย่อยโปรตีน ทำให้ร่างกายดูดซึมสารอาหารได้ดีขึ้น

    มีการศึกษาพบว่า ปาเปน อาจช่วยให้ผู้ที่แพ้กลูเตน (แต่ไม่ได้เป็นโรคเซลิแอค) สามารถย่อยกลูเตนได้ดีขึ้นเมื่อรับประทานร่วมกับเอนไซม์จากมะละกอและจุลินทรีย์ อีกทั้งยังช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานดีขึ้นโดยไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียง

    นอกจากนี้ มะละกอยังอุดมไปด้วย โฟเลต เซลลูโลส ไฟเบอร์ และสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการป้องกันมะเร็งลำไส้ใหญ่และช่วยลดปัญหาท้องผูก

    ดีต่อหัวใจ ควบคุมน้ำตาล และช่วยรักษาน้ำหนัก

    ไฟเบอร์ในมะละกอไม่เพียงช่วยระบบย่อยอาหาร แต่ยังมีประโยชน์ต่อหัวใจ โดยช่วยควบคุมระดับคอเลสเตอรอลในร่างกาย นอกจากนี้ มะละกอยังอุดมไปด้วยแร่ธาตุสำคัญ เช่น โพแทสเซียม แมกนีเซียม และกรดแพนโทธีนิก ซึ่งล้วนมีบทบาทในการรักษาสุขภาพหัวใจให้แข็งแรง

    นอกจากนี้ มะละกอยังช่วยให้อิ่มนาน จึงมีส่วนช่วยควบคุมน้ำหนัก ซึ่งส่งผลดีต่อการลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและปัญหาน้ำตาลในเลือดที่เกี่ยวข้องกับโรคอ้วน

    ข้อควรระวังในการรับประทานมะละกอบ่อยๆ

    ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่า ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับกระเพาะอาหารหรือกำลังอยู่ในภาวะหิว ไม่ควรรับประทานมะละกอดิบ เนื่องจากเนื้อสัมผัสที่แข็งและแห้ง อาจทำให้กระเพาะอาหารต้องทำงานหนักขึ้น ส่งผลให้รู้สึกไม่สบายหรือเกิดอาการปวด

    อย่างไรก็ตาม ผู้ที่มีปัญหากระเพาะอาหารสามารถรับประทานมะละกอสุกในรูปของสมูทตี้หลังมื้ออาหาร เพื่อหลีกเลี่ยงการระคายเคือง เนื่องจากมะละกอสุกมีเนื้อนุ่ม ย่อยง่าย ไม่เพิ่มภาระให้กระเพาะอาหาร อีกทั้งยังช่วยบรรเทาอาการระคายเคืองและสมานแผลในกระเพาะอาหาร นอกจากนี้ มะละกอสุกยังอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย

  • KUBET – ยุงกวนตอนนอน ตื่นมาเปิดไฟหาก็ไม่เจอ แนะวิธีเด็ดจัดการได้อยู่หมัด จะกี่ครั้งก็ได้ผล

    นอนๆ อยู่โดนยุงกวน ตื่นมาเปิดไฟหาก็ไม่เจอ น่าหงุดหงิด! ชาวไต้หวันแนะวิธีเด็ด จัดการได้อยู่หมัด ใช้กี่ครั้งก็ได้ผล

    นอนๆ อยู่โดนยุงกวน ตื่นมาแม้ไม่โดนกัด แต่ก็กลัวว่าจะโดนอีกจนหลับไม่สนิท หลายคนบ่นว่าเสียงยุงบินตอนปิดไฟเป็นอะไรที่น่ารำคาญที่สุด เปิดไฟหาก็ไม่เจอ แต่มีคนลองแล้วได้ผล! แค่เปิดไฟห้องนั่งเล่น ปิดไฟห้องนอน แล้วรอประมาณ 5–10 นาที ยุงก็มักจะบินออกไปเอง เจ้าตัวบอกว่า “ใช้วิธีนี้ทีไร ได้ผลทุกครั้ง!”

    เจ้าของโพสต์ตั้งกระทู้บน Dcard ถามว่า “จะจัดการยุงบินข้างหูตอนนอนได้ยังไงให้เร็วที่สุด?” เพราะทุกครั้งที่ปิดไฟนอน สิ่งที่น่ารำคาญที่สุดคือเสียงหึ่งๆ ของยุง แต่พอเปิดไฟกลับหาตัวไม่เจอ แถมดึกๆ ก็ฉีดยาฆ่าแมลงไม่ได้อีกด้วย!

    หลังจากลองมาหลายวิธี เขาพบว่า ถ้ามียุงในห้อง แค่เปิดประตูห้องนอน ปิดไฟในห้อง แล้วเปิดไฟในห้องนั่งเล่นหรือด้านนอก รอประมาณ 5–10 นาที ยุงก็มักจะบินออกไปเอง จากนั้นก็ปิดไฟข้างนอก รีบกลับเข้าห้องแล้วปิดประตู วิธีนี้ใช้แล้วได้ผลทุกครั้งสำหรับเขา แต่ไม่แน่ใจว่าคนอื่นจะเวิร์กไหม ลองดูได้

    โพสต์นี้เรียกเสียงฮือฮาจากชาวเน็ต ต่างพากันแชร์เคล็ดลับกำจัดยุงกันใหญ่ “ผมจะปิดไฟก่อน พอได้ยินเสียงหึ่งๆ ก็รีบเปิดไฟ ยุงมักจะเกาะอยู่บนผนังใกล้ๆ หู จากนั้นก็จัดการได้เลย” บางคนบอกว่า “ยุงชอบแสง ถ้าเปิดไฟไว้ เดี๋ยวมันก็บินไปเอง” แต่มีวิธีสุดโหดที่มีคนลองแล้วได้ผล (ครั้งเดียว) “พอได้ยินเสียงหึ่งๆ ปุ๊บ ตบตัวเองเต็มแรง แล้วดันฆ่ายุงได้จริง!”

    ชาวเน็ตยังแนะนำวิธีไล่ยุงอื่นๆ เช่น ใช้เครื่องไล่ยุงไฟฟ้า สเปรย์กันยุง หรือพัดลม “เครื่องไล่ยุงแบบน้ำของ Raid (ถ้ามีแมวไม่ควรใช้) เปิดทิ้งไว้ 3 ชั่วโมงก่อนนอน ปิดประตูให้มิด” บางคนแนะนำว่า “ทาเซียงเพียวตรงหู ได้ผลสุดๆ!” หรือ “สเปรย์กันยุงของญี่ปุ่น แค่ฉีดครั้งเดียว ยุงร่วงหมด” และอีกหนึ่งทริค “ไม่อยากได้ยินเสียงยุง? เปิดเครื่องไล่ยุงไฟฟ้าสักชั่วโมงก่อนนอน แล้วค่อยปิดตอนจะหลับ”