ผู้เขียน: admin

  • KUBET – “น้องเกล” ไปเที่ยวบ้าน “ลุงเคน-ป้าหน่อย” ที่ญี่ปุ่น แต่ช็อตนี้แอบมีน้ำตา

    เป็นทริปครอบครัวที่ได้พักผ่อนกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา สำหรับ ชมพู่ อารยา กับสามีหนุ่ม น็อต วิศรุต ที่ได้กระเตงลูกๆ สายฟ้า-พายุ และ น้องเกล รวมไปถึง คุณยายคุณย่า ไปรับลมหนาว ฟินแบบสุดๆ กับหิมะที่ตกโปรยปรายที่ประเทศญี่ปุ่น

    ซึ่งครั้งนี้ ชมพู่ ยังได้พาลูกๆ แวะไปเที่ยวเล่นที่บ้านพักของนักแสดงรุ่นพี่คนสนิท หน่อย บุษกร กับ เคน ธีรเดช อีกด้วย แต่เนื่องจากครอบครัวนี้ไม่อยู่ จึงได้โทรวิดีโอคอลหากันให้หายคิดถึงแทน

    โดย หน่อย บุษกร ได้เผยภาพผ่านทางอินสตาแกรม พร้อมเขียนแคปชั่นว่า “บ้านลุงมีเกลแล้วววว รูปสุดท้ายอยากคุยกับพี่พี่ เอ็นดูไม่ไหว”

    งานนี้พอได้เลื่อนไปดูรูปสุดท้ายกลับพบว่า น้องเกล มีน้ำตา ซึ่งได้มีแฟนๆ เข้ามาคอมเมนต์ถามไว้ว่า อยากรู้รูปสุดท้ายน้องร้องไห้ทำไมคะ จากนั้น หน่อย บุษกร ก็ได้เข้ามาตอบกลับให้หายคาใจ “อยากคุยกับพี่พี่”

  • KUBET – หญิงวัย 81 หน้าเด็กโกงอายุ นักโภชนาการแกะสูตร 3 ข้อ เคล็ดลับชะลอวัย

    หญิงวัย 81 สวยจนตะลึง บอกอายุใครก็อึ้ง นักโภชนาการแกะสูตร 3 ข้อ เคล็ดลับชะลอวัย หน้าเด็กโกงอายุ

    โซฟี จาง ภรรยาของมอริส จาง ผู้ก่อตั้งและประธานมูลนิธิการกุศล TSMC ยังคงดูสดใสเปี่ยมพลังอย่างไม่น่าเชื่อ แม้เธอจะอายุ 81 ปีแล้ว รูปลักษณ์ที่ดูอ่อนกว่าวัยของโซฟี จาง ทำให้หลายคนสงสัยว่าเธอมีเคล็ดลับใดที่ทำให้ยังดูเหมือนคนวัย 40 ต้น ๆ แม้จะอยู่ในวัยชรา

    หง ไถ่สง นักโภชนาการจากไต้หวัน ได้วิเคราะห์สามปัจจัยสำคัญจากพฤติกรรมการกินและการใช้ชีวิตของเธอ เพื่อค้นหาความลับที่แท้จริง

    1. โภชนาการที่สมดุล

    โซฟี จาง เชื่อว่าการได้รับสารอาหารที่เพียงพอในแต่ละวันเป็นสิ่งสำคัญต่อสุขภาพและการชะลอวัย โดยเธอให้ความสำคัญกับสิ่งต่อไปนี้:

    • โปรตีนคุณภาพสูง เช่น ไข่ เต้าหู้ และเนื้อไก่ ซึ่งช่วยรักษามวลกล้ามเนื้อ ซ่อมแซมเซลล์ และชะลอความเสื่อมของร่างกาย โดยเฉพาะเนื้อไก่ยังช่วยเสริมภูมิคุ้มกันและลดอาการอ่อนล้า ซึ่งเหมาะสำหรับผู้สูงวัย

    • ผักและผลไม้ อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น วิตามินซี เบต้าแคโรทีน และโพลีฟีนอล ที่ช่วยลดความเสียหายของเซลล์จากอนุมูลอิสระ และชะลอวัย นอกจากนี้ ไฟเบอร์ยังช่วยรักษาสุขภาพลำไส้ ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด และรักษาน้ำหนักให้สมดุล

    • การอดอาหารเป็นช่วง (Intermittent Fasting) และอาหารเมดิเตอร์เรเนียน เธอใช้วิธีอดอาหารเป็นช่วง ๆ เพื่อกระตุ้นการซ่อมแซมเซลล์และกำจัดโปรตีนที่เสื่อมสภาพ นอกจากนี้ อาหารเมดิเตอร์เรเนียนยังช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ลดความเสี่ยงโรคเรื้อรัง และควบคุมน้ำหนัก

    2. การออกกำลังกายและการทำสมาธิ

    เธอเชื่อว่าการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอเป็นเวลานานช่วยรักษามวลกล้ามเนื้อ กระตุ้นการไหลเวียนโลหิต เสริมสร้างหัวใจและปอด และช่วยให้ร่างกายคงความอ่อนเยาว์ นอกจากนี้ การออกกำลังกายยังช่วยให้สมองหลั่งสารเอ็นโดรฟิน ซึ่งช่วยลดความเครียดและทำให้มีความสุขมากขึ้น

    นอกจากการออกกำลังกายแล้ว เธอยังใช้เทคนิค ทำสมาธิและเขียนพู่กันจีน ซึ่งช่วยให้สมองเข้าสู่ภาวะคลื่นอัลฟ่า ลดความเครียด และเพิ่มสมาธิ

    เธอยังชอบดูละครโทรทัศน์ เพราะช่วยให้ผ่อนคลายและปรับสมดุลอารมณ์ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ช่วยเสริมสุขภาพจิต

    อีกสิ่งที่สำคัญคือ เธอเข้านอนและตื่นเช้าเป็นประจำ การมีตารางเวลานอนที่สม่ำเสมอช่วยรักษาสมดุลของฮอร์โมน เช่น เมลาโทนินและคอร์ติซอล ซึ่งเกี่ยวข้องกับระบบเผาผลาญ ภูมิคุ้มกัน และการชะลอวัย นอกจากนี้ การนอนหลับที่มีคุณภาพยังช่วยให้ร่างกายซ่อมแซมเซลล์ และลดสัญญาณของความชรา

    3. การรับประทานอาหารที่เรียบง่ายและมีประโยชน์

    โซฟี จาง ให้ความสำคัญกับการรับประทานอาหารที่มีรสชาติอ่อน ไม่หวาน ไม่มัน และหลีกเลี่ยงเนื้อแดง เธอยังเลือกอาหารที่มีค่าดัชนีน้ำตาลต่ำ (Low GI) เพราะอาหารที่มีค่าดัชนีน้ำตาลสูงสามารถกระตุ้นการอักเสบในร่างกาย และเร่งการเสื่อมของเซลล์

  • KUBET – “ตุ๊ก ชนกวนันท์” พร้อมลูกๆ และอดีตสามี “บ๊วย เชษฐวุฒิ” บอกลาบ้านที่เต็มไปด้วยความทรงจำ

    ตุ๊ก ชนกวนันท์ และลูกๆ รวมถึงอดีตสามี บ๊วย เชษฐวุฒิ บอกมือลาบ้านครั้งสุดท้าย หลังขายได้เจ้าของใหม่แล้ว

    นางแบบและนักแสดงสาว ตุ๊ก ชนกวนันท์ กับบทบาทของคุณแม่ที่เธอทำได้เป็นอย่างดี สนับสนุนกับทุกกิจกรรมของลูกๆ น้องแพรว ที่เก่งรอบด้านทั้งทำอาหาร เดินแบบและกีฬาไอซ์สเก็ต ส่วน น้องภูมิ ลูกชายคนเล็กก็เก่งกีฬาไม่แพ้กัน เรียกว่าทุกไลฟ์สไตล์ของลูก จะมี แม่ตุ๊ก เป็นกำลังใจด้วย  

    และก่อนหน้านี้เมื่อเดือนสิงหาคม ปี 2567 ตุ๊ก ชนกวนันท์ ได้ประกาศขายบ้านหลังงามที่เต็มไปด้วยความทรงจำ โดยเธอบอกว่าเป็นการปรับ Size บ้านให้เข้ากับ 3 คนแม่ลูก 

    ล่าสุด ตุ๊ก ชนกวนันท์ ได้ลงภาพคู่กับบ้านหลังสวยพร้อมกับลูกทั้งสองคน รวมถึงอดีตสามี บ๊วย เชษฐวุฒิ ที่มาโบกมือลาบ้านที่เต็มความทรงจำเช่นกัน

    ซึ่งเธอได้เขียนบอกเล่าไว้ว่า “ถ่ายรูปกับบ้านของเราเป็นครั้งสุดท้าย บ้านที่เราตั้งใจปลูก ที่ที่เป็นบ้านเกิดของลูก ๆ ทั้งสอง ที่ที่เต็มไปด้วยความทรงจำ ขอบคุณเรื่องราวต่าง ๆ ของเรา 4 คน ที่เคยผ่านมาด้วยกันกับบ้านหลังนี้ ขอบคุณที่แวะมาอำลาบ้านด้วยกันนะคะ Move in x / Move out / Move on // สิ่งที่โชคดีและดีใจไม่แพ้กัน คือครอบครัวของผู้ที่มาดูแลใหม่ น่ารักมากๆ บอกเรา 3 แม่ลูกว่า ไม่ต้องห่วงนะครับ จะดูแลให้อย่างดี สมกับที่บ้านเลือกครอบครัวเค้า และครอบครัวเค้าเลือกที่นี่^^ ขอให้มีความสุขและช่วงเวลาที่งดงามที่นี่ตลอดไปนะคะ”

    เรียกว่าเป็นภาพที่หลายคนเห็นแล้วต่างยิ้มเบาๆ ไปด้วยกัน 

  • KUBET – ไม่ต้องชั่งน้ำหนัก! หมอแนะถ้ามี 2 ใน 4 สัญญาณนี้ แปลว่ากำลังผอม ข้อ 2 พีกมาก

    หมอเผยหากพบ 2 ใน 4 สัญญาณนี้ แปลว่าร่างกายกำลังเผาผลาญไขมัน ไม่ต้องชั่งน้ำหนัก ข้อ 2 มันพีกมาก

    ยังคงพยายาม “ลดน้ำหนัก” อยู่หรือเปล่า? นอกจากการจ้องดูเครื่องชั่งน้ำหนักทุกวันแล้ว จะรู้ได้อย่างไรว่าเราเริ่มผอมลงจริง ๆ?

    แพทย์หญิงอู๋จ้านจิน ได้แชร์บนเพจ 小吳 吳榛槿醫師|點亮妳的美力宇宙 แนะนำ “4 สัญญาณสำคัญ” ที่ไม่เกี่ยวกับการออกกำลังกาย หากพบ 2 ข้อขึ้นไป แสดงว่าร่างกายกำลังเผาผลาญไขมัน

    1. ไม่รู้สึกอยากอาหารบ่อยๆ

    แสดงว่าร่างกายเริ่มปรับตัวให้ใช้ไขมันเป็นแหล่งพลังงานหลักได้ดีขึ้น น้ำตาลในเลือดมีความเสถียรขึ้น ความถี่ในการรับประทานอาหารลดลงโดยธรรมชาติ และความอยากอาหารก็ลดน้อยลงอย่างมาก นี่คือสัญญาณของการเผาผลาญพลังงานที่เสถียร

    1. ผายลมบ่อยขึ้น

    การเปลี่ยนแปลงในโครงสร้างอาหาร โดยเฉพาะการเพิ่มโปรตีนหรือการทานอาหารที่มีดัชนีคาร์โบไฮเดรตต่ำ เช่น มันหวาน เผือก ฟักทอง แทนข้าวและขนมปัง จะทำให้จุลินทรีย์ในลำไส้มีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งอาจทำให้มีการผายลมเพิ่มขึ้นในระยะสั้น นี่คือกระบวนการธรรมชาติของร่างกายที่ปรับตัวกับวิธีการกินใหม่

    1. ดื่มน้ำมากขึ้น

    หากเริ่มดื่มน้ำมากขึ้น นอนหลับนานขึ้น ลดการทานขนม หรือแม้กระทั่งรู้สึกว่าความเครียดโดยรวมลดลง (คอร์ติซอลลดลง) นั่นคือสัญญาณที่ร่างกายเข้าสู่สภาวะเผาผลาญไขมันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    1. เสื้อผ้าหลวมขึ้น

    อาจจะไม่เห็นน้ำหนักลดลงอย่างชัดเจน แต่หากพบว่ารอบเอว สะโพก หรือส่วนอื่น ๆ มีขนาดเล็กลง แสดงว่าไขมันกำลังถูกเผาผลาญ! เพราะไขมันมีปริมาตรมากกว่ากล้ามเนื้อ การลดไขมันจะทำให้เสื้อผ้าหลวมขึ้น การวัดขนาดและดูภาพถ่ายสะท้อนการเปลี่ยนแปลงที่แท้จริงมากกว่าการชั่งน้ำหนัก

  • KUBET – เปิดวาร์ป “อั้ม ศรินยา” คู่กรณีสาวแดนเซอร์ในโหนกระแส นางเอกMV การันตี “มงเวทีใหญ่”

    จากกรณีที่ รายการโหนกระแสวันนี้ พูดคุยกรณีโซเชียลแห่แชร์คลิป 3 แดนเซอร์ รุมตบเมียลูกค้า เพราะเมียลูกค้าไม่พอใจที่ผัวตัวเองนั่งดื่มต่อจนดึก และต่อมาฝ่ายก็เข้าช่วยเหลือปกป้องเมียด้วยการต่อย 3 แดนเซอร์จนได้รับบาดเจ็บ ทำให้สังคมแบ่งเป็นสองฝ่าย ฝ่ายหนึ่งเข้าข้างแดนเซอร์ อีกฝ่ายเข้าข้างฝ่ายชายที่ออกตัวปกป้องเมีย โดย เรื่องราวทะเลาะวิวาทกันระหว่าง 3 สาวแดนเซอร์ กับ เมียลูกค้า กลายเป็นคลิปไวรัลที่คนให้ความสนใจตลอดเสาร์ อาทิตย์ ที่ผ่านมา เริ่มต้นจาก 1 ใน 3 สาวแดนเซอร์ เป็นผู้โพสต์คลิปเหตุการณ์ลงในเฟซบุ๊ก 

    หนึ่งในคนที่ได้รับความสนใจมากๆ คือ “คุณอั้ม ศรินยา” แฟนสาวของผู้ชายในคลิป ที่ดูสวยโดดเด่น และทำให้คนสนใจว่า เธอเป็นใครมาจากไหน ปรากฏว่าพอตามวาร์ปไปจนเจอ ถึงได้รู้ว่า เธอมีดีกรีไม่ธรรมดา

    อั้ม ศรินยา

    คุณอั้ม ศรินยา เข็มทอง คือผู้เข้าประกวดนางงามเวที “นางสาวไทย ชลบุรี 2567” ซึ่งเธอยังคว้ามง “รอง 2” หรือ รองชนะเลิศอันดับ 2 ในเวทีดังกล่าวมาครอง

    นอกจากนี้ อั้มยังมาด้วยดีกรี ดาวมหาวิทยาลัยปี 2018 ละยังมีผลงานการแสดงเป็นนางเอก MV เพลง “สัญญานะ” ของ ADAM อีกด้วย จึงไม่แปลกใจเลยว่า ทำไมเธอจึงสวยโดดเด่นกว่าใครในรายการวันนี้จริงๆ

    อั้ม ศรินยา

     อั้ม ศรินยา

  • KUBET – ก่อนดับเครื่องยนต์ต้องปิดแอร์ก่อนจริงหรือไม่?

    การดับเครื่องยนต์โดยไม่ปิดแอร์ก่อนเป็นประเด็นที่ถกเถียงกันมาอย่างยาวนาน หลายคนเชื่อว่าการปิดแอร์ก่อนดับเครื่องยนต์จะช่วยรักษาระบบแอร์และเครื่องยนต์ แต่ในความเป็นจริงแล้ว การปิดแอร์ก่อนดับเครื่องยนต์นั้นไม่จำเป็นเสมอไป และผลกระทบที่เกิดขึ้นก็ไม่ได้ร้ายแรงอย่างที่หลายคนกังวล

    ความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับการปิดแอร์ก่อนดับเครื่องยนต์

    ป้องกันไฟกระชาก – หลายคนเชื่อว่าการไม่ปิดแอร์ก่อนดับเครื่องยนต์จะทำให้เกิดไฟกระชากเมื่อสตาร์ทเครื่องยนต์ครั้งต่อไป ซึ่งจะส่งผลเสียต่อแบตเตอรี่และระบบไฟฟ้า แต่ในความเป็นจริงแล้ว ระบบไฟฟ้าในรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ได้รับการออกแบบมาให้สามารถรองรับการทำงานของอุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ ได้พร้อมกัน

    รักษาระบบแอร์ – มีความเชื่อว่าการปิดแอร์ก่อนดับเครื่องยนต์จะช่วยรักษาระบบแอร์ให้มีอายุการใช้งานยาวนานขึ้น แต่ในความเป็นจริงแล้ว คอมเพรสเซอร์แอร์จะหยุดทำงานเมื่อดับเครื่องยนต์อยู่แล้ว ดังนั้น การปิดแอร์ก่อนดับเครื่องยนต์จึงไม่ได้มีผลต่ออายุการใช้งานของคอมเพรสเซอร์แอร์โดยตรง

    หากไม่ปิดแอร์ก่อนดับเครื่องยนต์จะเกิดอะไรขึ้น?

    ความชื้นในระบบแอร์ – เมื่อดับเครื่องยนต์โดยไม่ปิดแอร์ ความชื้นที่สะสมอยู่ในระบบแอร์อาจทำให้เกิดเชื้อราและกลิ่นอับชื้นได้

    ภาระของเครื่องยนต์ – ในรถยนต์รุ่นเก่า การที่คอมเพรสเซอร์แอร์ทำงานทันทีเมื่อสตาร์ทเครื่องยนต์ อาจทำให้เครื่องยนต์ทำงานหนักขึ้นในช่วงแรก

    สรุปแล้วต้องปิดแอร์ก่อนดับเครื่องยนต์หรือไม่?

    สำหรับรถยนต์รุ่นใหม่ๆ การปิดแอร์ก่อนดับเครื่องยนต์ไม่ได้มีผลกระทบมากนัก แต่การปิดแอร์ก่อนถึงจุดหมายประมาณ 2-3 นาที จะช่วยลดความชื้นในระบบแอร์ได้ ขณะที่รถยนต์รุ่นเก่า การปิดแอร์ก่อนดับเครื่องยนต์อาจช่วยลดภาระของเครื่องยนต์และแบตเตอรี่ได้

    การปิดแอร์ก่อนดับเครื่องยนต์ไม่ใช่เรื่องที่จำเป็นเสมอไป แต่การดูแลรักษาระบบแอร์อย่างสม่ำเสมอเป็นสิ่งที่สำคัญกว่า เพื่อให้ระบบแอร์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีอายุการใช้งานยาวนาน

  • KUBET – คนกินตื่น! อ.เจษฎ์ โพสต์แล้ว “รอยดำ” บนผลไม้ คือเชื้อราทำลายตับ-ไต จริงหรือ?

    โซเชียลเตือนกัน “รอยดำ” บนผลไม้ คือเชื้อราซึมลึกถึงเนื้อ กินไปทำลายตับ-ไต อ.เจษฎ์ โพสต์แล้ว เรื่องนี้จริงหรือไม่?!

    จากกรณีโลกออนไลน์มีการแชร์ภาพผลไม้ ซึ่งผิวบางส่วนของเปลือกมี “รอยดำ” เกิดขึ้น พร้อมคำเตือนว่าเมื่อผลไม้เปลี่ยนเป็นสีดำ เน่า หรืออ่อนนิ่ม เป็นเพราะเมื่อผลไม้เริ่มเน่าเสีย แบคทีเรียและเชื้อราเริ่มแพร่กระจาย พร้อมปล่อยสารพิษซึมลึกเข้าสู่ส่วนที่ดูเหมือนยังไม่เสีย ซึ่งสามารถทำลายตับ ไต และลดประสิทธิภาพของระบบภูมิคุ้มกัน ซึ่งข้อมูลนี้ได้สร้างความหวาดกลัวให้กับผู้บริโภคหลายคน

    ล่าสุด อาจารย์เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ถึงเรื่องดังกล่าวผ่านทางเฟซบุ๊ก Jessada Denduangboripant ระบุว่า“รอยดำบนผลไม้ เกิดขึ้นได้เองตามธรรมชาติของการสุกงอม ไม่จำเป็นต้องอันตรายเสมอไป สามารถนำมาบริโภคได้ มีเฉพาะกรณีที่มีเชื้อราขึ้นจริงๆ ที่ต้องระวังและทิ้งไป” ซึ่งวิธีเช็คก็คือ ถ้ายังมีรอยดำไม่มาก ให้ลอกปอกเปลือกดู ถ้าเนื้อผลไม้ยังปรกติดี ไม่มีรอยจุดดำ ก็สามารถรับประทานได้ แต่ถ้ามีรอยดำเป็นจำนวนมาก หรือเห็นเส้นใยเชื้อรา ให้ทิ้งไปทั้งลูก

    อาจารย์เจษฎา อธิบายเพิ่มเติมด้วยว่า ผลไม้ผิวบางเนื้อนิ่มอย่างมะม่วงนั้น หลังจากซื้อผลสุกมาจากตลาดแล้วเก็บไว้สักระยะหนึ่ง (หรือเก็บมะม่วงดิบ มาบ่มเองจนสุก) มักจะพบว่า เกิดรอยดำเป็นจุดๆ ขึ้นบนผิวของมะม่วง ตั้งแต่จุดเล็กๆ จนถึงจุดใหญ่กระจายทั่วทั้งผล สาเหตุสามารถแบ่งออกเป็น 3 สาเหตุใหญ่ๆ ด้วยกัน คือ

    1. เกิดจากการเปลี่ยนแปลงตามธรรมชาติของผลไม้ โดยเฉพาะผลไม้เนื้อนิ่มอย่างมะม่วง เมื่อสุกจะเริ่มมีจุดกระ สีดำ เป็นจุดเล็ก ๆ เกิดขึ้นบนผิว
    2. เกิดจากเชื้อรา ที่เป็นสาเหตุโรคพืช ได้แก่ เชื้อรา Collectotrichum gloeosporioides และ Lasiodiplodia theobromae ซึ่งเป็นตัวการที่ทำให้เกิดโรคแอนแทรคโนส และโรคขั้วผลเน่า เชื้อราทั้งสองชนิดนี้จะเข้าทำลายแบบแฝง ตั้งแต่มะม่วงยังดิบอยู่ แล้วจะค่อยๆ แสดงอาการออกมาพร้อมกับมะม่วงที่เริ่มสุก
      โรคจุดดำ หรือ โรคแอนแทรคโนสในมะม่วง เกิดจาก เชื้อรา Colletotrichum gloeosporioides เข้าทําลายพืชได้ ทุกระยะการเจริญ และเกือบทุกส่วนของมะม่วง ไม่ว่าจะเป็นต้นกล้า ยอดอ่อน ใบอ่อน ช่อดอก ดอก ผลอ่อนจนถึงผลแก่ และผลหลังการเก็บเกี่ยว ทําให้เกิดอาการ อย่างน้อยก็เป็นจุดแผลตกค้าง อยู่บนใบ กิ่ง ผล และหากการเข้าทําลายของโรครุนแรง ก็จะเกิดอาการใบแห้ง ใบบิดเบี้ยว และร่วงหล่น ช่อดอกแห้งไม่ติดผล ผลเน่าร่วง ตลอดจนผลเน่าหลังเก็บเกี่ยว (จุดสังเกต คือ มีจุดสีนํ้าตาลดำในผลอ่อน กลายเป็นจุดแผลสีดํา และลุกลามขยายกว้างขึ้น)
    3. เกิดจากแมลงวันผลไม้ (fruit fly) โดยแมลงวันผลไม้ตัวเต็มวัย เพศเมีย จะใช้อวัยวะวางไข่ แทงลงบนผิวของผลมะม่วง ตั้งแต่ระยะผลอ่อนหรือระยะที่ผลใกล้สุก เมื่อไข่ฟักเป็นตัวหนอน จะเจริญเติบโตภายในผล ทำให้ผลมีจุดดำและเน่าเสีย

    แล้วถ้าพบจุดดำเหล่านี้ ไม่ว่าจะเกิดจากสาเหตุอะไรก็ตาม ยังจะรับประทานมะม่วงผลนั้นได้อยู่ไหม? คำตอบก็คือ ถ้าเราปอกเปลือกมะม่วงผลนั้นออกมา แล้วเนื้อมะม่วงยังปกติดีไม่มีจุดดำใดๆ ก็สามารถที่จะรับประทานได้ แต่ถ้าเราปอกเปลือกแล้ว พบจุดดำเกิดขึ้นบนเนื้อของมะม่วง ควรที่จะทิ้งทั้งลูก เพราะไม่สามารถทราบได้เลยว่าพิษจากเชื้อราหรือเชื้อแบคทีเรียที่แฝงเข้ามาจากจุดที่ขยายใหญ่ขึ้นนั้น ได้แทรกซึมเข้าไปมากกว่าที่ตาเราเห็นหรือไม่ ดังนั้น เพื่อความปลอดภัยควรทิ้งทั้งลูกจะดีกว่า

  • KUBET – เด็กสาววัย 16 ไปโรงพยาบาลเพราะท้องอืด ช็อก หมอบอกมีชีวิตอยู่ได้อีกแค่ 1 สัปดาห์

    เด็กสาววัย 16 ไปโรงพยาบาลเพราะท้องอืด ช็อก หมอบอกมีชีวิตอยู่ได้อีกแค่ 1 สัปดาห์ ต้องผ่าตัดด่วน

    อเล็กซ์ อาร์เคล อายุ 16 ปี จากสติริง สกอตแลนด์ ไปพบแพทย์เพื่อตรวจสอบอาการท้องอืดและปวดท้องที่เธอประสบอยู่ในช่วงหลัง ซึ่งไม่เคยคาดคิดว่าเธอจะเหลือเวลาอีกแค่ 1 สัปดาห์ในการมีชีวิตอยู่จากการมีเนื้องอกที่หายากมากในโลก

    อเล็กซ์สังเกตเห็นอาการไม่สบายตัวครั้งแรกในระหว่างทริปท่องเที่ยวกับครอบครัว และเมื่อกลับบ้าน เธอก็รีบไปนัดหมายตรวจสุขภาพกับแพทย์ เธอได้รับการตรวจเลือดและเพียงแค่สัปดาห์เดียวหลังจากนั้นก็ถูกนำตัวไปโรงพยาบาลเพื่อทำการอัลตราซาวด์ ขณะนั้นเธอสูญเสียการมองเห็นในสายตาซ้ายและได้รับการแจ้งว่าเนื้องอกของเธอเติบโตขึ้นอีก 13 เซนติเมตร

    อเล็กซ์ได้รับการแจ้งว่าเธอเป็นโรคเนื้องอกต่อมใต้สมองที่หายาก ซึ่งในโลกนี้มีการบันทึกกรณีเช่นนี้เพียง 20 ราย และเธอเหลือเวลาแค่ 1 สัปดาห์เท่านั้น “เมื่ออายุ 16 ปี ชีวิตของฉันเหมือนจะผ่านไปต่อหน้าต่อตา สิ่งที่ฉันเคยห่วงใยมันไม่สำคัญสำหรับฉันอีกต่อจากวันนั้น” นักเรียนหญิงเผยว่าเธอได้รับการสั่งให้ผ่าตัดด่วนก่อนที่เนื้องอกจะระเบิดและทำให้ชีวิตเธอมีความเสี่ยง

    “ฉันถูกนำตัวไปโรงพยาบาลเพื่อผ่าตัดฉุกเฉินในสองวันหลังจากนั้น ฉันไม่รู้ว่าจะอธิบายความรู้สึกของตัวเองในตอนนั้นอย่างไร ในขณะนั้น ฉันไม่รู้ว่ามันจะเปลี่ยนชีวิตของฉันอย่างไร ฉันรู้สึกตกใจ กลัว วิตกกังวลเกี่ยวกับการผ่าตัด ฉันสงสัยว่าฉันจะตายหรือไม่ หรือฉันจะมีแผลเป็นที่ใบหน้าไหม?” 

    โชคร้ายที่อเล็กซ์ประสบปัญหาภายหลังการผ่าตัดในปี 2021 และต้องนอนรักษาตัวในโรงพยาบาล 2 สัปดาห์ ในระหว่างนี้ เธอได้รับการตรวจสอบอย่างต่อเนื่องทั้งฮอร์โมนและเลือด รวมถึงติดตามสภาพสุขภาพทุกชั่วโมง

    หลังจากผ่านพ้นวิกฤต อเล็กซ์ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรค PTSD (ภาวะเครียดหลังเหตุการณ์สะเทือนใจ) เธอเกือบจะพลาดปีการศึกษาทั้งปี รวมถึงการสอบ เนื่องจากกระบวนการฟื้นฟูใช้เวลานาน 13 เดือนต่อมา อเล็กซ์ได้รับการแจ้งว่าเธอต้องผ่าตัดด่วนอีกครั้งหลังจากเนื้องอกได้เติบโตและกดทับเส้นประสาทตาของเธอ

    ในเดือนกุมภาพันธ์ 2023 เธอได้รับการรักษาด้วยโปรตอนบีมเทอราพี ซึ่งเป็นวิธีการรักษาด้วยรังสีที่มีจุดมุ่งหมายและมีความเสี่ยงต่ำกว่าเป็นเวลา 5 สัปดาห์ จนกระทั่งเดือนธันวาคมของปีเดียวกัน ได้รับข่าวร้ายเพิ่มเติมว่า การรักษาด้วยรังสีไม่สำเร็จและเธอจำเป็นต้องผ่าตัดครั้งที่สาม การผ่าตัดสำเร็จ แต่เธอยังคงได้รับการรักษาเพื่อกำจัดเนื้องอกมะเร็งนี้ออกให้หมด

  • KUBET – มีไทยมั้ย? “เผยชื่อ 8 เมืองใหญ่” อาจอยู่ในวิถีการชนของดาวเคราะห์น้อยปี 2032

    เปิดแนวเส้นทางความเสี่ยงพื้นที่ที่อาจถูกดาวเคราะห์น้อย 2024 YR4 ชน พบทอดยาวตั้งแต่แปซิฟิก, อเมริกาใต้, แอตแลนติก, แอฟริกา, ทะเลอาหรับ และ เอเชียใต้

    จากกรณีศูนย์ศึกษาวัตถุใกล้โลก (CNEOS) ขององค์การอวกาศนาซา (NASA) ตรวจพบว่าดาวเคราะห์น้อย “2024 YR4” มีโอกาสพุ่งชนโลกในวันที่ 22 ธันวาคม 2032 หรืออีกประมาณ 7 ปีข้างหน้า และล่าสุดเพิ่มโอกาสที่จะชนโลกไปอยู่ที่ 1.5% นั้น ทำให้เกิดความกังวลว่าจะทำให้เกิดหายนะอะไรต่อโลกหรือไม่

    นักวิทยาศาสตร์ยืนยันว่า ยังเร็วเกินไปที่จะสรุปว่า 2024 YR4 จะชนโลก และหากศึกษาวงโคจรได้มากขึ้นอาจพบว่าโอกาสชนเหลือ 0%
    dfqror7owzulq5fa6rpcvcjdazmnsอย่างไรก็ตาม ในกรณีที่หากดาวเคราะห์น้อย 2024 YR4 พุ่งชนโลกจริงๆ นักวิทยาศาสตร์ประเมินจากวงโคจรเบื้องต้นว่า พื้นที่ที่จะได้รับผลกระทบจะอยู่ในแนวเส้นทางความเสี่ยง (Risk Corridor) ซึ่งทอดยาวตั้งแต่มหาสมุทรแปซิฟิกตะวันออก, อเมริกาใต้ตอนเหนือ, มหาสมุทรแอตแลนติก, แอฟริกา, ทะเลอาหรับ และ เอเชียใต้

    ซึ่งหากดูจากแนวดังกล่าวจะพบว่า มีหลาย 100 เมืองบนโลกที่อาจเป็นเป้าถูกดาวเคราะห์น้อยพุ่งชน แต่มีอยู่ 8 เมืองที่เป็นเมืองใหญ่ หรือเมืองหลวงของประเทศ ได้แก่ โบโกตา (โคลอมเบีย), อาบีจาน (โกตดิวัวร์), ลากอส (ไนจีเรีย), คาร์ทูม (ซูดาน), มุมไบ (อินเดีย), โกลกาตา (อินเดีย) และ ธากา (บังกลาเทศ)

    หากดาวเคราะห์น้อย 2024 YR4 ตกใส่เมืองใดๆก็ตาม จะสร้างความเสียหายมหาศาล เนื่องจากมีการคำนวณว่า รัศมีความรุนแรงอาจกินกว้างมากถึง 50 กิโลเมตร โดยศักยภาพในการทำลายล้างของดาวเคราะห์น้อย 2024 YR4 เทียบเท่ากับระเบิด TNT 8 ล้านตัน หรือ 500 เท่าของระเบิดปรมาณูที่ทิ้งลงที่ฮิโรชิมา
    riskcorridoryr4_2024ที่ผ่านมา นาซาได้ทดสอบเทคโนโลยีเพื่อเบี่ยงเบนวิถีของดาวเคราะห์น้อยสำเร็จแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภารกิจ DART เมื่อปี 2022 ซึ่งได้เปลี่ยนทิศทางของดาวเคราะห์น้อย “ไดมอร์ฟอส” (Dimosphos) ที่มีขนาดใหญ่กว่า 2024 YR4 ถึง 2 เท่า

    นอกจากนี้ การทดสอบเบี่ยงเบนวิถีของดาวเคราะห์น้อยที่ดำเนินการโดยจีนมีกำหนดจะเกิดขึ้นในปี 2027 บนดาวเคราะห์น้อยที่มีขนาดเล็กกว่า

    หน่วยงานอวกาศอื่นๆ กำลังดำเนินการเกี่ยวกับมาตรการฉุกเฉินสำหรับดาวเคราะห์น้อย โดยองค์กรภายใต้สหประชาชาติ 2 แห่ง กำลังทำงานเพื่อจำกัดเส้นทางโคจรของดาวเคราะห์น้อยและเตรียมการแทรกแซงที่จำเป็น

  • KUBET – Aizawa Minami ซินเดอเรลลาแห่งวงการ AV คุณหนูทายาทเศรษฐี มาเล่น AV ได้ไง

    Aizawa Minami ซินเดอเรลลาแห่งวงการ AV: คุณหนูทายาทเศรษฐีสู่เส้นทางการเป็นดารา AV

    Aizawa Minami หรือชื่อเดิมคือ ไอมินามิ (Minami Aizawa) คืออดีตดารา AV ชื่อดังผู้คว้ารางวัลนักแสดงหญิงยอดเยี่ยมจาก FANZA Awards ในปี 2019 เธอเป็นที่รู้จักในวงการ AV ไม่เพียงแค่ความสวยและเสน่ห์ที่หลากหลาย แต่ยังรวมถึงเรื่องราวเบื้องหลังของชีวิตที่ไม่ธรรมดา ด้วยการเติบโตในครอบครัวที่ร่ำรวยและมีความเข้มงวด แต่ท้ายที่สุดเธอตัดสินใจเข้าสู่วงการ AV พร้อมทั้งสร้างชื่อเสียงจนกลายเป็นที่ยอมรับ

    พื้นฐานครอบครัวและชีวิตช่วงวัยเด็ก

    Aizawa Minami เกิดในครอบครัวที่ร่ำรวย ทำให้เธอมีชีวิตที่ค่อนข้างพิเศษ โดยที่ครอบครัวของเธอเข้มงวดมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องการเคอร์ฟิว (curfew) หรือเวลาที่ต้องกลับบ้าน เมื่อเธอเรียนอยู่ในระดับประถมศึกษา เธอต้องกลับบ้านภายในเวลา 16.00 น. และเมื่อเข้าเรียนในระดับมัธยม เวลากลับบ้านของเธอก็ถูกขยับไปเป็น 18.00 น.

    นอกจากนี้เธอยังเติบโตมาใน ซานดิเอโก สหรัฐอเมริกา เป็นเวลากว่า 7 ปีครึ่ง ทำให้เธอสามารถพูดภาษาอังกฤษได้คล่องแคล่ว แต่ถึงแม้เธอจะเกิดในฮ่องกง สถานะการใช้ชีวิตที่ล้ำเลิศนี้กลับกลายเป็นพื้นฐานที่ทำให้เธอตัดสินใจในเส้นทางชีวิตที่แตกต่างออกไป

    การตัดสินใจเข้าสู่วงการ AV

    แม้จะมีชีวิตที่แสนสบายในครอบครัวที่ร่ำรวย แต่การตัดสินใจเข้าสู่วงการ AV ของ Aizawa Minami นั้นเกิดขึ้นในช่วงปีแรกของการเรียนมหาวิทยาลัย เมื่อเธอถูกแมวมองในย่านตัวเมืองสอดส่องมาให้เข้าสู่วงการบันเทิง แม้เธอจะเคยสมัครเป็นนางแบบในนิตยสารหลายครั้ง แต่เธอก็ปฏิเสธข้อเสนอในการเข้าสู่วงการ AV อยู่หลายครั้ง เนื่องจากเธอรู้สึกไม่มั่นใจและสงสัยเกี่ยวกับวงการนี้ อย่างไรก็ตาม ด้วยการตื๊อที่ต่อเนื่องเกินกว่าหนึ่งปี เธอจึงยอมเปิดใจและเปิดตัวเข้าสู่วงการ AV ในปีที่สองของการเรียนมหาวิทยาลัย

    หลังจากเปิดตัวในวงการ AV เธอพยายามที่จะไม่ให้พ่อแม่ของเธอรู้ แต่สุดท้ายแล้วก็ถูกเพื่อนของเธอแจ้งข่าวให้พ่อแม่ทราบ อย่างไรก็ตาม แม้จะมีข่าวถูกส่งต่อไปยังเพื่อนในโรงเรียนเก่าของเธอ แต่เธอก็ไม่ได้รับผลกระทบเชิงลบใดๆ จากเรื่องนี้ เธอยังกล่าวว่า หลังจากเปิดตัวในวงการ เธอไม่เคยไปเที่ยวบาร์เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้พ่อแม่ของเธอทราบเรื่องนี้

    เส้นทางในวงการ AV

    เมื่อเธอเริ่มเข้าสู่วงการ AV ในปี 2016 เธอถูกกล่าวถึงว่าเป็นหนึ่งในนักแสดงที่มีรูปลักษณ์ที่สวยงามที่สุดในวงการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงปี 2010 ที่มาตรฐานความสวยในวงการ AV ได้ยกระดับขึ้นอย่างมาก เธอมีลักษณะผสมผสานระหว่างความน่ารักและความเซ็กซี่ ซึ่งเป็นที่นิยมในหมู่คนเกาหลี

    แม้ว่ารูปลักษณ์ของเธอจะได้รับการยอมรับ แต่ Aizawa Minami กลับเผชิญกับคำวิจารณ์เรื่องการแสดงที่ยังไม่เชี่ยวชาญและไม่มีความมั่นใจในช่วงแรกของการเป็นนักแสดง ทำให้เธอตัดสินใจรีไทร์จากวงการหลังจากเปิดตัวได้ไม่นาน อย่างไรก็ตาม เพียง 5 เดือนต่อมา เธอกลับมาสู่วงการอีกครั้ง โดยคราวนี้เธอมีความมุ่งมั่นในการทำงานมากขึ้น และได้รับโอกาสในการถ่ายทำหนัง AV ที่มีเนื้อหาหนักขึ้นกว่าที่เคยทำมาก่อน

    ความสำเร็จและการเป็นนักแสดง AV ที่ได้รับความนิยม

    เมื่อกลับมาสู่วงการครั้งนี้ เธอแสดงท่าทีที่แข็งแรงกว่าเดิม พร้อมทั้งทำงานอย่างหนักในภาพยนตร์ AV ที่ท้าทายมากขึ้น ทำให้เธอเริ่มมีชื่อเสียงและเป็นที่ยอมรับอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเธอใส่ใจดูแลตัวเองให้มีรูปร่างที่ดีจนกระทั่งถึงเวลาที่เธอรีไทร์

    ในปี 2019 Aizawa Minami คว้ารางวัลนักแสดงหญิงยอดเยี่ยมจากงาน FANZA Awards ซึ่งเป็นรางวัลสูงสุดในวงการ AV และเธอยังได้รับการขนานนามว่าเป็น “ราชินีแห่งวงการ” อีกด้วย

    การรีไทร์และชีวิตหลังจากนั้น

    ในปี 2023 ขณะที่เธอกำลังพำนักอยู่ที่ไต้หวัน เธอได้ประกาศรีไทร์จากวงการ AV อย่างเป็นทางการ โดยเธอเปิดเผยว่ามีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับประธานบริษัทที่เปิดโอกาสให้เธอเข้าสู่วงการ AV ประธานคนนี้ป่วยเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาว และเธอได้ทำงานหนักเพื่อช่วยสนับสนุนเขา ซึ่งในที่สุดเขาได้เสียชีวิตลง เรื่องนี้ทำให้เธอเสียใจอย่างมาก และทำให้เธอตัดสินใจที่จะรีไทร์ตั้งแต่ปี 2020 แต่ด้วยสถานการณ์ของโควิด-19 ที่ทำให้ไม่สามารถพบปะแฟนๆ ได้ เธอจึงทำงานต่อไปจนกระทั่งสถานการณ์คลี่คลายในปี 2023 เธอจึงสามารถพบแฟนๆ ได้และตัดสินใจรีไทร์ตามที่ตั้งใจ

    ในวันที่ 25 สิงหาคม 2024 เธอประกาศผ่านโซเชียลมีเดียว่า เธอจะไม่ทำอะไรที่เกี่ยวข้องกับชื่อ “Aizawa Minami” อีกต่อไป และจะไม่รับงานภายใต้ชื่อนี้อีก เธอแสดงความขอบคุณต่อแฟนๆ ที่คอยสนับสนุนตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา

    เกร็ดที่น่าสนใจเกี่ยวกับ Aizawa Minami

    • เธอเคยคบกับแฟนสองคนก่อนที่จะเข้าสู่วงการ AV
    • เธอสามารถพูดภาษาอังกฤษได้คล่องเพราะเคยอาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกา
    • เธอมีความสนใจในการสื่อสารกับแฟนๆ ผ่านโซเชียลมีเดีย เช่น Twitter และ Instagram ซึ่งเธอมักโพสต์บ่อยๆ
    • เธอเคยปล่อยโฟโต้บุ๊คเล่มแรกในปี 2020 ซึ่งขายดีในทั้งญี่ปุ่นและเกาหลี
    • ในปี 2022 เธอเปิดช่อง YouTube เพื่อสื่อสารกับแฟนๆ มากขึ้น

    Aizawa Minami จึงถือเป็นอีกหนึ่งนักแสดง AV ที่มีเรื่องราวที่น่าสนใจตั้งแต่ชีวิตในครอบครัวที่ร่ำรวย การตัดสินใจเข้าสู่วงการ AV และเส้นทางที่ทำให้เธอกลายเป็น “ซินเดอเรลลา” แห่งวงการ AV ก่อนที่จะรีไทร์