ผู้เขียน: admin

  • KUBET – รู้เลยทำไมศักดิ์สิทธิ์! ผู้สร้างหุ่นออฟติมัสตลาดน้อย เฉลยเอาอะไหล่มาจากไหน

    ฟังชัดๆ จากปาก “เฮียเซ้ง” ผู้สร้างหุ่นออฟติมัสตลาดน้อย เฉลยเอาอะไหล่มาจากไหนมาสร้าง หายสงสัยทำไมท่านศักดิ์สิทธิ์

    กลายเป็นแลนด์มาร์คใหม่บริเวณตลาดน้อยไปแล้ว สำหรับ “หุ่นยนต์ออพติมัส” หลังเหล่าสายมู แห่มาทดสอบความขลัง หลังเจ้าของร้านเครื่องดื่ม ลองขอพร ขอให้ยอดขายทะลุเป้า ปรากฏว่าสมตามความปราถนา และนำน้ำมันเครื่องแก้บนตามสัญญา ทำให้คนแห่ไปกราบไหว้ขอพร และสมหวังประสบความสำเร็จกันหลายคน บางคนถึงกับยกนางรำมารำแก้บนหน้าหุ่นยนต์เลยทีเดียว

    โดยผู้ใช้ TikTok บัญชี @mrwininside Mr.Win มิสเตอร์วินอินไซด์ ได้โพสต์คลิปวิดีโอ สัมภาษณ์ เฮียเซ้ง จูเนียร์ตลาดน้อย อายุ 68 ปี ผู้สร้างหุ่น “ออพติมัส พราหมณ์” ตั้งอยู่ที่วงเวียนข้าวหลาม บนถนนเส้นเจริญกรุง-ตลาดน้อย “บับเบิ้ลบี” ตั้งอยู่ที่บริเวณด้านหน้าเขตสัมพันธวงศ์ และ “เมกะทรอน” ตั้งอยู่หน้าบ้าน

    โดย เฮียเซ้ง กล่าวว่า หุ่นทั้งสามตัวตนขายหมด ใครสนใจพร้อมส่งให้ฟรี โดยบอกว่าหุ่นต่างๆ ที่สร้างใช้เวลาไม่เกิน 20 วันสร้างเสร็จ

    ส่วนเหล็กที่นำมาสร้าง เฮียเซ้ง ยอมรับว่ามาจากอะไหล่รถสิบล้อ หกล้อ รถเก๋ง ที่ชนกันตาย หุ่นยนต์พวกนี้เอาชิ้นส่วนมาจากรถชนทั้งนั้น แล้วก็เอามาแกะอะไหล่บางส่วนที่ใช้ได้มาขาย ชิ้นไหนใช้ไม่ได้ก็ชั่งกิโล

    ส่วนเรื่องความศักดิ์สิทธิ์ก็แล้วแต่คนเชื่อ พูดยาก ถ้าถามตนว่ากลัวไหม ตนไม่กลัว เพราะตนเป็นคนจิตใจดี อีกอย่างหนึ่งตนมีความมั่นใจ เพราะว่าเป็นเถ้าแก่มาได้ เพราะจบปริญญาชีวิตมา ปริญญาชีวิตหมายความว่าจับต้องอะไหล่ทุกชิ้นส่วนมาหมด

    หลังจากคลิปดังกล่าวเผยแพร่ออกไป ทำเอาชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นมากมาย หลายคนต่างพากันขนลุก เพราะชิ้นส่วนที่นำมาสร้างมาจากรถที่เกิดอุบัติเหตุ และบางส่วนก็แซวว่าหายสงสัยแล้วทำไมท่านศักดิ์สิทธิ์

  • KUBET – เปิดรายได้ “ลำไย ไหทองคำ” ค่าตัวต่องาน รายได้ต่อเดือน สุดอู้ฟู่จริงๆ

    ลำไย ไหทองคำ เปิดค่าตัวเปิดรายได้ จากนักร้องรับเงินหลักพัน วันนี้รายได้ต่องานหลักแสนกลางๆ เดือนนึงรับหลักสิบล้าน 

    หากเอ่ยชื่อของนักร้องสาว ลำไย ไหทองคำ เธอเป็นนักร้องที่ประสบความสำเร็จในด้านการของทำงานเป็นอย่างมาก แต่กว่าจะถึงวันนี้วันที่เธอมีชื่อเสียงและฐานะที่ดีขึ้น ลำไย ไหทองคำ เธอสู้ชีวิตมาโดยตลอดเพราะครอบครัวมีฐานะไม่ได้ร่ำรวยอะไร เธอต้องช่วยครอบครัวขายของ 

    ลำไย ไหทองคำ ทำหน้าที่ร้องเพลงและแดนเซอร์เมื่อตอนเรียน ป.4 เดินสายร้องเพลงไปหลายต่อหลายงาน และเริ่มประกวดร้องเพลงตามเวทีต่างๆ จนกระทั่งได้มาเจอกับ ประจักษ์ เนาวรัตน์ ที่เห็นแววและความสามารถของเธอ จนได้เซ็นสัญญาเป็นนักร้อง โดยตั้งชื่อให้เป็น ลำไย ไหทองคำ เพลงที่สร้างชื่อเสียงและโด่งดังเป็นพลุแตกคือ ผู้สาวขาเลาะ ซึ่งตอนนั้นเธออายุเพียง 17 ปีเท่านั้น  

    จากนักร้องที่รับค่าตัวหลักร้อยมากสุดคือหลักพัน

    วันนี้ ลำไย ไหทองคำ เป็นนักร้องลูกทุ่งแถวหน้าของเมืองไทย มีงานแน่นทุกเดือนและยาวไปถึงปีหน้า ซึ่งแต่ละเดือนที่ ลำไย ไหทองคำ ออกคอนเสิร์ตนั้นเดือนนึงไม่ต่ำกว่า 50 งาน

    และเมื่อเปิดค่าตัวของ ลำไย ไหทองคำ รับต่องานทั้งวงอยู่ที่เริ่มต้น 2 แสนบาท และค่าตัวกับการออกงานอีเว้นต์แสดงของเธอ ระยะเวลาการทำงาน 45 นาที หรือ 1 ชม. ค่าตัวอยู่ที่ 1.4 แสน – 1.5 แสน ต้องบอกว่าเธอมาไกลและเก่งมากจริงๆ 

    เหตุผลที่ ลำไย ไหทองคำ ถูกเลือกให้ไปแสดงในงานต่างๆ เพราะทุกงานจะเห็นว่าเธอเต็มที่และใส่พลังอย่างสุด คุ้มค่าจ้างและคุ้มค่าคนดูแน่นอน 

    เมื่อลองคิดคำนวณคร่าวๆ กับรายได้ของ ลำไย ไหทองคำ ต่อเดือนเธอสวยและรวยมากรับเต็มๆ หลักสิบล้านบาทเลยทีเดียว

    “ลำไย ไหทองคำ” โพสต์ร่ายยาว รับเคยคุย “บอส แดนเซอร์ชาย”

    “ลำไย ไหทองคำ” ตอบแล้ว! ประเด็นที่ถูกพูดถึง “จ้างมีเซ็กซ์ครั้งละแสน”

  • KUBET – ภาพลวงตา เห็นสิ่งใดก่อน บอกอะไรเกี่ยวกับตัวคุณได้มากกว่าที่คิด!

    ภาพลวงตา หน้าต่างที่แสดงให้เห็นว่าสมองของเราประมวลผลข้อมูลอย่างไร การสังเกตว่าในภาพที่เห็น มีอะไรที่โดดเด่นออกมาในภาพลวงตาเหล่านี้เป็นอย่างแรก เชื่อว่าสิ่งนั้นจะบ่งบอกถึงบางสิ่งเกี่ยวกับตัวคุณได้ และสิ่งนั้นอาจบอกอะไรเกี่ยวกับตัวคุณมากกว่าที่คุณคิด

    ภาพทายนิสัย

    ถ้าเห็นเสือดำ และนกก่อน

    คุณเป็นคนมีความเป็นผู้นำ มีเสน่ห์ ให้ความใส่ใจ ผู้คนทั่วไปมักจะมาขอคำปรึกษา หรือคำแนะนำจากคุณ ในด้านความสัมพันธ์ คุณเป็นคนที่ซื่อสัตย์ต่อคนรัก และหากมีปัญหากัน คุณไม่ลังเลที่จะเคลียร์ปัญหากับคนรัก เพื่อให้ความสัมพันธ์นี้มีความแข็งแรงยิ่งขึ้น วิธีการที่ตรงไปตรงมานี้ ทำให้คุณได้รับความเคารพและความไว้วางใจจากเพื่อน และคนรักของคุณ

    ถ้าเห็นใบหน้าของผู้หญิง

    คุณจะเป็นคนใจเย็นที่สามารถรับมือกับสถานการณ์ต่างๆ ได้เป็นอย่างดี แม้จะดูเหมือนคนสบาย ๆ แต่คุณก็มีความเข้มแข็งที่ไม่ยอมให้ใครมาเอาเปรียบได้ง่าย ๆ คุณเป็นคนซื่อสัตย์ และเห็นอกเห็นใจผู้อื่น ทำให้คนรอบข้างไว้ใจและพึ่งพาคุณ ในด้านความสัมพันธ์ คุณเป็นคนใจเย็น อดทน และเข้าใจคนรัก คุณไม่รีบร้อนในการตัดสินใจ แต่จะใช้เวลาในการฟัง สังเกต และพิจารณาอย่างรอบคอบ

  • KUBET – จุกทุกคำ ผัวเล่นชู้ในรถพ่อ เมียมาจอดข้างๆ อัดคลิปไม่เซ็นเซอร์ “ท่อนล่าง” เห็นกันทั้งโลก!!!

    พีกในพีก! ผัวเล่นชู้ในรถพ่อ เมียพาลูกขับมาจอดข้างๆ อัดคลิปเผย “ท่อนล่าง” แฉสู่สายตาชาวโลก แก้เผ็ดแบบแสบทรวง

    ตามรายงานของสำนักข่าว Daily Mail จากอังกฤษ กรณีคลิปภรรยาแฉหลักฐานสามีนอกใจ ที่ได้แพร่กระจายไปทั่วโลกออนไลน์ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งภรรยาเป็นผู้โพสต์ลงด้วยตนเอง โดยไม่มีการเซ็นเซอร์ใดๆ ทั้งใบหน้า และรวมถึงอวัยะเพศด้วย จุดประเด็นให้ชาวเน็ตต่างพากันแชร์และเกิดการโต้เถียงกันอย่างดุเดือด

    เหตุการณ์ดังกล่าวเชื่อว่าเกิดขึ้นที่บริเวณดอนคาสเตอร์ เมื่อผู้เป็นภรรยาพบว่าสามีที่แต่งงานกันมา 17 ปี แอบมีสัมพันธ์ชู้สาวกับหญิงอื่นมาเป็นเวลา 1 ปีแล้ว ไม่เพียงเท่านั้น เธอยังพบว่าเขากำลังมีเพศสัมพันธ์กับ “เมียน้อย” ในรถตู้ของพ่อสามี จึงตัดสินใจอัดคลิปขณะจับได้คาหนังคาเขา สามีของเธอเปลือยกายตั้งแต่เอวลงไป ส่วนชู้รักของเขานั่งขดตัวพยายามซ่อนใบหน้าของตนเอง

    ขณะเกิดเหตุครอบครัวควรจะเตรียมตัวออกไปข้างนอก ลูกก็นั่งรออยู่ในรถเรียบร้อยแล้ว แต่ภรรยาดันไปจับได้ว่าสามีนอกใจในรถอีกคัน ตอนที่ถ่ายคลิปเธอยังพูดด้วยว่า “รีบใส่กางเกงซะ ลูกๆ อยู่ในรถคันนั้น!” ฝ่ายสามีขอให้ภรรยาหยุดถ่ายวิดีโอ แต่เธอปฏิเสธและยังคงดุด่าเขาต่อไปว่า “คุณรู้สึกดีไหม? คุณสามารถทำเรื่องอย่างนั้นในรถตู้ที่มีถุงสกปรกมากมายได้!” , “สนุกกับมันซะ เพราะสิ่งนี้ไปกระจายเต็มเฟซบุ๊กเลย”

    ท้ายที่สุด ภรรยาได้ทำตามคำพูดของตัวเอง อัพโหลดวิดีโอดังกล่าวขึ้น Facebook ซึ่งต่อมาก็แพร่กระจายไปทั่วโลกออนไลน์ ในแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียหลักๆ เช่น X (Twotter) และ TikTok ฟุตเทจดังกล่าวไม่มีการเซ็นเซอร์ใบหน้าและจุดอ่อนไหวใดๆ ร่างกายส่วนล่างของสามีที่นอกใจถูกเปิดเผยสู่สาธาระณะ ราวกับว่าภรรยาจงใจลงโทษสามีของเธอ โดยการให้ชาวเน็ตทั่วโลกจ้องมองส่วนลับของเขา

    ทั้งนี้ ในตอนหนึ่งในคลิปยังได้ยินภรรยาพูดด้วยว่า “ไม่เป็นไรหรอก เพราะคนที่เจ็บช้ำก็มีแค่ฉันกับลูกๆ เท่านั้น”

  • KUBET – ร้อนนี้ไม่แนะนำ 27 ผัก ผลไม้ฤทธิ์ร้อน ยิ่งทานบ่อย ยิ่งร้อนรุนแรง

    เมื่ออุณหภูมิภายนอกพุ่งสูงขึ้น ร่างกายของเราก็ต้องการความเย็นสดชื่นเพื่อคลายร้อน แต่หลายคนไม่รู้ว่ามีผักและผลไม้ฤทธิ์ร้อนที่เราอาจคุ้นเคย ซึ่งหากรับประทานในช่วงฤดูร้อน อาจทำให้ร่างกายร้อนจากภายในทวีคูณ ส่งผลให้เกิดอาการต่างๆ เช่น ร้อนใน กระหายน้ำ ปวดหัว หรือแม้กระทั่งเป็นไข้

    ในฤดูร้อนการเลือกรับประทานอาหารจึงเป็นสิ่งสำคัญ การหลีกเลี่ยงผักและผลไม้ฤทธิ์ร้อน และหันมาบริโภคอาหารที่มีฤทธิ์เย็น จะช่วยให้ร่างกายปรับสมดุลและคลายร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับผักและผลไม้ฤทธิ์ร้อนที่ควรหลีกเลี่ยง พร้อมทั้งแนะนำทางเลือกที่ดีกว่า เพื่อให้คุณผ่านพ้นฤดูร้อนไปได้อย่างสดชื่นและมีสุขภาพดี

    ผักและผลไม้ฤทธิ์ร้อนที่ควรหลีกเลี่ยง

    ผักฤทธิ์ร้อน

    • กระชาย
    • กะเพรา
    • กุยช่าย
    • กระเทียม
    • ขิง
    • ข่า
    • ขมิ้น
    • ผักชี
    • ยี่หร่า
    • โหระพา
    • พริก
    • พริกไทย
    • เครื่องเทศ

    ผลไม้ฤทธิ์ร้อน

    • กล้วยหอม
    • เสาวรส
    • ขนุนสุก
    • เงาะ
    • ฝรั่ง
    • ทุเรียน
    • ทับทิม
    • น้อยหน่า
    • มะตูม
    • ลำไย
    • ลองกอง
    • มะไฟ
    • มะปราง
    • มะม่วงสุก

    สำหรับผัก ผลไม่ฤทธิ์เย็นที่แนะนำให้ทานในช่วงหน้าร้อนคือ

    ผักที่มีฤทธิ์เย็น

    ดอกกะหล่ำ กวางตุ้ง ผักกาดขาว ผักกาดหอม ข้าวโพด ใบเตย ถั่วงอก สายบัว บล็อกโคลี่ มะเขือ มะรุม ฟัก

    ผลไม้ที่มีฤทธิ์เย็น

    แก้วมังกร กระท้อน แคนตาลูป ชมพู่ เชอร์รี่ แตงโม แตงไทย มังคุด มะยม มะพร้าว น้ำมะนาว สับปะรด สาลี่ แอปเปิ้ล

  • KUBET – “ยางถูก” กับ “ยางแพง” แตกต่างกันตรงไหน?

    ยางรถยนต์เป็นอุปกรณ์ที่ส่งผลโดยตรงต่อความปลอดภัยในการขับขี่ เมื่อถึงเวลาเปลี่ยนยางรถยนต์ จึงควรให้ความใส่ใจคุณสมบัติของยางแต่ละรุ่นและยี่ห้อ เพราะแม้ว่าหน้าตาจะเหมือนๆ กัน แต่ยางราคาถูก และ ยางราคาแพง ต่างก็มีความแตกต่างกันในด้านคุณภาพและคุณสมบัติหลายประการ

    ยางราคาถูก กับ ยางราคาแพง ต่างกันตรงไหน?

    ยางราคาถูกมักผลิตจากวัสดุที่มีคุณภาพต่ำกว่ายางราคาแพง ส่งผลให้มีอายุการใช้งานสั้นกว่า ดอกยางสึกหรอเร็วกว่า และประสิทธิภาพในการยึดเกาะถนนต่ำกว่า โดยเฉพาะในสภาพถนนเปียกหรือลื่น นอกจากนี้ ยางราคาถูกยังอาจมีเสียงดังขณะขับขี่มากกว่า และมีความแข็งกระด้าง ทำให้การขับขี่ไม่นุ่มนวลเท่าที่ควร

    ในทางตรงกันข้าม ยางที่มีราคาสูงกว่า มักผลิตจากวัสดุที่มีคุณภาพสูงกว่า มีเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัยกว่า ทำให้มีอายุการใช้งานยาวนานกว่า ดอกยางสึกหรอช้ากว่า และมีประสิทธิภาพในการยึดเกาะถนนที่ดีกว่า ไม่ว่าจะเป็นสภาพถนนแห้งหรือเปียก นอกจากนี้ ยางที่มีราคาสูงยังมักมีเสียงรบกวนน้อยกว่า และให้ความนุ่มนวลในการขับขี่มากกว่า

    คุณสมบัติของยางที่ควรพิจารณาก่อนซื้อ

    • ประสิทธิภาพในการยึดเกาะถนน – ยางราคาสูงมักมีประสิทธิภาพในการยึดเกาะถนนที่ดีกว่า ทำให้สามารถควบคุมรถได้ง่ายขึ้น ลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ โดยเฉพาะในสภาพถนนเปียกหรือลื่น
    • ระยะเบรก – ยางราคาสูงมักมีระยะเบรกที่สั้นกว่า ทำให้สามารถหยุดรถได้ทันท่วงทีในกรณีฉุกเฉิน
    • เสียงรบกวน – ยางราคาสูงมักถูกออกแบบให้มีประสิทธิภาพการลดเสียงรบกวนที่ดีกว่า ทำให้การขับขี่เงียบและสบายมากขึ้น
    • ความนุ่มนวลในการขับขี่ – ยางราคาสูงมักมีความนุ่มนวลในการขับขี่มากกว่า ช่วยลดแรงกระแทกจากพื้นถนน ทำให้การขับขี่สะดวกสบายมากขึ้น
    • การประหยัดน้ำมัน – ยางราคาสูงบางรุ่นได้รับการออกแบบมาให้มีแรงต้านการหมุนต่ำ ช่วยลดการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงได้

    การเลือกยางรถยนต์ที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้ใช้รถทุกคนควรให้ความใส่ใจ การลงทุนในยางที่มีคุณภาพดีจะช่วยให้คุณได้รับความปลอดภัยและประสิทธิภาพในการขับขี่ที่ดีขึ้น

  • KUBET – เรียงความชีวิตประจำวันนักเรียน ป.3 ครูอ่านจบหน้าถอดสี ให้ 1 คะแนน แถมเชิญผปค.

    เรียงความบรรยายชีวิตประจำวันของนักเรียนชั้น ป.3 ได้แค่ 1 คะแนน ครูอ่านจบถึงกับหน้าถอดสี รีบเชิญผู้ปกครองมาพบ

    เด็ก ๆ มองโลกในแบบของตัวเอง ใสซื่อ ไร้เดียงสา แต่ก็มักเผยความจริงที่คาดไม่ถึง พวกเขาไม่ต้องใช้ถ้อยคำสวยหรูหรือสำนวนซับซ้อน เพียงแค่ถ่ายทอดสิ่งที่เห็นและรู้สึกออกมาอย่างตรงไปตรงมา นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมคำพูดและการเขียนของเด็ก ๆ มักทำให้ผู้ใหญ่ต้องประหลาดใจอยู่เสมอ

    เว็บไซต์ SOHA รายงานว่า เรียงความของนักเรียนชั้น ป.3 ชาวเวียดนามคนหนึ่งที่บรรยายชีวิตประจำวันของตนเอง กลายเป็นเรื่องขำขันในโลกออนไลน์ และยิ่งได้รับความสนใจมากขึ้นเมื่อถูกแชร์ต่อ ๆ กัน

    หัวข้อเรียงความคือ “บรรยายชีวิตประจำวันของตัวเอง” เด็กชายคนนี้ได้ถ่ายทอดเรื่องราวของตัวเองอย่างตรงไปตรงมาและเต็มไปด้วยจินตนาการ

    เนื้อหาของเรียงความ มีดังนี้

    “ชีวิตประจำวันของผมเต็มไปด้วยความกดดัน มันเหมือนกับอยู่ในเรื่อง “ไซอิ๋ว” และผมก็คือหงอคงที่ต้องเผชิญกับสารพัดบททดสอบ

    ตอนเช้า พ่อแม่เหมือนร่ายมนต์ปลุกผมให้ตื่น ซึ่งทำให้ผมเหนื่อยสุด ๆ ส่วนที่โรงเรียนก็ไม่ต่างจากถ้ำใยแมงมุมที่เต็มไปด้วยปีศาจ โดยเฉพาะมีปีศาจราชินีตัวหนึ่ง นางเป็นจ้าวถ้ำที่นี่ นางดุสุด ๆ ใครกล้าต่อกรกับนาง นางจะเชิญผู้ปกครองของคนนั้นมาพบ และยังสามารถร่ายมนต์ได้อีก บางครั้งนางท่องคาถายาวจนหมดคาบเรียนเลยทีเดียว วันก่อนนางยังใช้สมบัติวิเศษมาปราบผมอีก ผมกลัวมาก ได้แต่หวังว่าตัวเองจะฝ่าฟันอุปสรรคทั้งหมดและไปถึงดินแดนแห่งพระไตรปิฎกได้ในที่สุด…”

    เรียงความของเด็กชายคนนี้ทั้งขำขันและเปี่ยมไปด้วยจินตนาการ สร้างเสียงหัวเราะให้กับทุกคนที่ได้อ่าน

    เมื่อคุณครูได้อ่านเรียงความของเด็กชายคนนี้ ก็ให้คะแนนเพียง 1 คะแนน พร้อมฝากข้อความไว้ว่า “ดูไซอิ๋วมากเกินไป เชิญผู้ปกครองมาพบด้วย”

    หลังจากที่เรียงความนี้ถูกเผยแพร่ออกไป ชาวเน็ตต่างพากันหัวเราะกับความไร้เดียงสาและจินตนาการสุดล้ำของเด็กน้อย หลายคนเดาว่าคุณครูคงถึงกับหน้าแดง เพราะถูกจับไปเป็นตัวละครหลักในเรื่องนี้อย่างไม่คาดคิด

    ความตรงไปตรงมาจนเกินพิกัดของเรียงความนี้ ทำให้คนในโลกออนไลน์แบ่งออกเป็นสองฝ่าย ฝ่ายหนึ่งมองว่า เด็กชายสมควรได้ 1 คะแนน เพราะดัดแปลงเรื่องราวชีวิตประจำวันไปอิงกับ “ไซอิ๋ว” และยังกล้าตั้งฉายาคุณครูว่า “ปีศาจราชินี” อีกด้วย แต่ในทางกลับกัน อีกฝ่ายเห็นว่า เด็กชายไม่ควรถูกลงโทษหนักขนาดนี้ เพราะความคิดสร้างสรรค์ของเขานั้น “ไม่ธรรมดา” คุณครูและผู้ปกครองควรสนับสนุนทักษะนี้ให้เติบโตไปในทางที่ดี

    ความคิดเห็นจากชาวเน็ต:

    • “เรียงความสมจริงจนอ่านแล้วอดขำไม่ได้ เด็ก ๆ มักมองโลกในแบบที่เราคาดไม่ถึงจริง ๆ”
    • “ให้บรรยายชีวิตประจำวัน ไม่ได้ให้แต่งนิยาย คราวนี้สมควรได้ 1 คะแนนแล้วล่ะ”
    • “กล้าเรียกคุณครูว่า “ปีศาจราชินี” แบบนี้ โดนเชิญผู้ปกครองก็ไม่แปลก”
    • “เด็กแค่ถ่ายทอดชีวิตประจำวันของตัวเองตามที่รู้สึก จินตนาการแบบนี้น่าจะได้รับการส่งเสริมมากกว่าจะถูกลงโทษ”
    • “ถ้าโตไปเป็นผู้กำกับหนังแฟนตาซีได้ ก็คงไม่แปลกใจเลย”
    • “เรียงความดี แถมลายมือก็สวย ควรได้คะแนนเยอะกว่านี้นะ”
    • “เต็มไปด้วยจินตนาการแบบนี้ น่าจะได้คะแนนมากกว่าการถูกเชิญผู้ปกครองนะ!”
  • KUBET – เชฟลดน้ำหนัก 90 กก. เผยไม่กั๊ก อาหาร 2 อย่างที่ “เลิกกิน” ร่างเปลี่ยนในเวลาไม่ถึงปี

    เชฟเผยเคล็ดลับ ลดน้ำหนัก 90 กก. ในเวลาไม่ถึงปี โดยตัดอาหาร 2 ประเภท

     

     เชฟชื่อดังจากอิตาลี “มัตเตโอ กรานดี” (Matteo Grandi) วัย 34 ปี ได้เปิดเผยว่าเขาลดน้ําหนักได้มากถึง 88 กิโลกรัม ในเวลาเพียง 8 เดือนเท่านั้น โดยเริ่มออกกำลังกายมากขึ้น แต่ส่วนสำคัญคือการตัดการกินอาหาร 2 ประเภท คือน้ําตาลและคาร์โบไฮเดรต

    จุดเริ่มต้นที่ตัดสินใจเปลี่ยนแปลงตัวเอง หันมาออกกำลังกายกายและ “ยกเครื่องอาหารที่กิน” คือตอนที่เขาพบว่าน้ำหนักตัวพุ่งไปถึง 185 กก. โดยเจ้าตัวกล่าวว่า การใช้เวลาทํางานในครัวเป็นเวลานาน มักทําให้เขาต้องดิ้นรนเพื่อปรับสมดุลการทํางานกับวิถีชีวิตที่มีสุขภาพดี เรียกได้ว่าเป็นผลดีทั้งต่อสุขภาพและการงานเลย

    “ประมาณแปดเดือนที่ผ่านมา ผมตระหนักว่าตัวเองหมกมุ่นอยู่กับชีวิตและความมุ่งมั่น สูญเสียความเป็นอยู่ที่ดีไป… ผมหนักถึง 185 กิโลกรัม หรือบางทีอาจจะมากกว่านั้นเพราะในบางช่วงผมหยุดชั่งน้ําหนักตัวเองไป…. ดังนั้น ไม่ใช่แค่ด้วยเหตุผลด้านสุนทรียศาสตร์เท่านั้น แต่เพื่อสุขภาพของผมเป็นหลัก”

    มัตเตโอกล่าวว่า ส่วนที่ยากที่สุดคือความสม่ําเสมอ  อย่าไรก็ตาม เขายอมรับว่าอาหารคาร์โบไฮเดรตต่ําได้ “เปลี่ยนชีวิตของเขา” โดยอ้างว่ามันทําให้จิตใจของเขาแจ่มใสเสมอ และเพิ่มประสิทธิภาพในการทํางานด้วย

    การยกเครื่องอาหารที่ทานใหม่ ทําให้เขากําจัดอาหารแปรรูปออกจากสิ่งที่กิน รวมถึงพาสต้าด้วย โดยอ้างว่าสิ่งนี้เพียงอย่างเดียวนําไปสู่การลดน้ําหนักได้อย่างมาก และนําไปสู่การปรับปรุงผิว ทำให้ “โรคสะเก็ดเงินหายไป” จากข้อศอกของเขาด้วย

    มัตเตโออ้างว่า ในระหว่างใช้ชีวิตกับไลฟ์สไตล์โฉมใหม่ เขายังคงลองทานพาสต้าแค่สองคำ แต่หลังจากนั้นก็รู้สึกเชื่องช้าและง่วงซึมขึ้น “ถ้าความสุข 20 วินาที ทำให้ผมต้องรู้สึกแย่เป็นเวลาหลายชั่วโมงหลังจากนั้น หมายความว่าประเด็นคืออะไรล่ะ? มันแค่เกี่ยวกับการเปลี่ยนนิสัยเพื่อทําตามแนวทางปฏิบัติที่ดีที่ทําให้เรารู้สึกดี”

    ปัจจุบันตารางการทานอาหารของเขาคือ มื้อแรกตอนเที่ยง และอีกมื้อตอน 5 โมงเย็น โดยมื้อแรกมักประกอบด้วยไข่แซลมอน อะโวคาโด และอกไก่ ส่วนอาหารมื้อเย็นประกอบด้วยผักใบเขียว เนื้อสัตว์ หรือหอย

    แต่…. เราควรตัดอาหารทั้งหมู่ออกจากมื้ออาหารจริงๆ หรือ?

    ในเรื่องนี้ นักโภชนาการ  “ดานิเอลเล่ นุชชี่” (Daniele Nucci) เตือนไม่ให้ตัดอาหารทั้งหมู่ออกจากอาหาร โดยกล่าวว่าอาหารเช่นพาสต้าไม่ควรถูกทำเหมือนเป็น “ปีศาจ” และการลดน้ำหนักโดยตัดคาร์โบไฮเดรตออกจากอาหาร ก็จะสูญเสียความสมดุลและผลลัพธ์ก็จะไม่คงอยู่นาน

    กล่าวเสริมว่า “ไม่ควรกําจัดคาร์โบไฮเดรต สิ่งที่สร้างความแตกต่างคือปริมาณ ถ้าฉันกินพาสต้า 80 กรัมพร้อมด้วยบรอกโคลีจํานวนมากและมาพร้อมกับแหล่งโปรตีน จะไม่มีปัญหาใดๆ มันเป็นมื้ออาหารที่สมบูรณ์และสมดุล ในทางกลับกัน ถ้าฉันกินพาสต้า 200 กรัม ราดซอสอิตาเลียน สิ่งต่างๆ ก็จะเปลี่ยนไป”

    ขณะที่ NHS (National Health Service) คือ ระบบบริการสุขภาพแห่งชาติของสหราชอาณาจักร กล่าวถึงคาร์โบไฮเดรตที่มีแป้ง เช่น มันฝรั่ง ขนมปัง ข้าว พาสต้า และซีเรียล ว่าสามารถ “มีบทบาทสําคัญในการรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพ” โดยบอกว่าควรกินมากกว่าหนึ่งในสามของอาหารที่เรากิน

    โดยอธิบายว่าคาร์โบไฮเดรตที่มีแป้งเป็น “แหล่งพลังงานที่ดี” และให้สารอาหาร เช่น ไฟเบอร์ แคลเซียม ธาตุเหล็ก และวิตามินบี ในขณะที่หลายคนเชื่อว่ากินเข้าไปจะทําให้อ้วน แต่จริงๆ แล้วนั้น “เทียบกรัมต่อกรัมมีแคลอรี่ของไขมันน้อยกว่าครึ่ง”

    และยังบอกย้ำว่า พาสต้าเป็นตัวเลือกที่ดีต่อสุขภาพ และตัวเลือกโฮลวีตหรือโฮลเกรนดีต่อสุขภาพมากกว่าพาสต้าทั่วไป“พาสต้าเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีต่อสุขภาพสําหรับมื้ออาหารของคุณ ประกอบด้วยแป้งที่ทําจากข้าวสาลีดูรัมและน้ํา และมีธาตุเหล็กและวิตามินบี”

     แล้วสามารถมีคาร์โบไฮเดรตในอาหารเพื่อสุขภาพได้หรือไม่? การศึกษาในปี 2022 ระบุว่า “อาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตสูงเป็นส่วนสําคัญของอาหารเพื่อสุขภาพ เนื่องจากให้กลูโคสแก่ร่างกายเพื่อสนับสนุนการทํางานของร่างกายและการออกกําลังกาย”

    ในขณะที่การศึกษาในปี 2023 เน้นย้ําถึงอันตรายของการรับประทานอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตต่ํา โดยระบุว่า “การศึกษาหลายชิ้นเชื่อมโยงอาหารคาร์โบไฮเดรตต่ํากับอัตราการเสียชีวิตที่เพิ่มขึ้น การศึกษาทางระบาดวิทยา และการวิเคราะห์เมตาได้แสดงให้เห็นถึงความเสี่ยงการเสียชีวิตที่เพิ่มขึ้นเมื่อบริโภคคาร์โบไฮเดรตน้อยกว่า 40 เปอร์เซ็นต์” 

  • KUBET – “ปุ้ย L.กฮ.” โพสต์แล้ว ร่ายยาวความในใจ หลัง “ลำไย ไหทองคำ” ประกาศเลิกรา

    เรียกว่าเป็นข่าวที่ทำเอาแฟนๆ แอบช็อกอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว หลังจากที่นักร้องสาว ลำไย ไหทองคำ ได้ออกมาประกาศยุติความสัมพันธ์กับ ปุ้ย L.กฮ. ปิดฉากความรัก 9 ปีลงเป็นที่เรียบร้อย โดยยืนยันว่าไม่มีเรื่องของมือที่สามมาเกี่ยวข้องอย่างแน่นอน

    และเมื่อได้ย้อนกลับไปดูในเฟซบุ๊กของ ปุ้ย L.กฮ. เจ้าตัวก็ได้โพสต์ข้อความเมื่อวานก่อน โดยมีเนื้อหาว่า “จะงานบ้าน ร้องเพลง หรือแต่งเพลงไม่เป็นไรหรอกครับ ทุกอย่าง ผมจะรับมาจบเอง”

    ‘ได้ข่าวว่าเดือนนี้นักร้องหญิงท่านนึงมี58งานผมก็ยังคงเดิม ทำกับข้าว ซักผ้า เลี้ยงหมา แล้วก็ล้างจาน’

    สักวันนึงผมจะมีเดือนนึง เจ็ดสิบงาน”

    จากนั้น ปุ้ย L.กฮ. ยังได้โชว์ฝีมือการทำอาหารเมื่อประมาณ 14 ชม. ที่ผ่านมา พร้อมเขียนแคปชั่น “วันนี้้เป็นพ่อครัวเองครับผมผมไม่กินเป็ดไม่กินไก่ ไม่กินสัตว์4เท้าแต่ก็สามารถทำกับข้าวให้คนอื่นกินได้ครับ”

    ซึ่งก็ได้มีแฟนๆ เข้ามาชื่นชมมากมาย ซึ่งหนึ่งในนั้นได้คอมเมนต์ว่า “เก่งมาก บุญของน้องลำใยที่มาเจอแฟนที่ดีแบบนี้” โดยเจ้าตัวก็ได้ตอบกลับ “ขอบคุณครับ” พร้อมใส่อีโมจิรูปหัวใจให้อีกด้วย

    ล่าสุด ปุ้ย L.กฮ. ก็ได้ตัดสินใจโพสต์ข้อความร่ายยาวความรู้สึกหลังต้องจบความสัมพันธ์ในครั้งนี้ “ขออนุญาตเอารูปสิบปีที่แล้วมาลงนะครับ น้องลำไยไม่เคยมองคนที่ความดังหรือทรัพย์สินเงินทอง น้องลำไยไม่เคยคิดว่าตัวน้องลำไยดังมากๆ แล้วจะต้องเลือกคนใหม่ เราดีต่อกันมาตลอด”

    “ตอนนี้ถ้าถามผม ผมว่าเราสองคนรักและผูกพันธ์กันมาก ความรักก็ยังอยู่ที่เดิม ผมก็ยังอยู่ที่เดิม น้องลำไยก็อยู่ที่เดิม แต่แค่บางมุมมองอาจจะมองกันไม่เหมือนเดิม ผมเคยบอกน้องลำไยเสมอว่า เรามาเป็นครอบครัว เราไม่ได้มาติดคุก เราสองคนมีอิสระทางความคิดเท่าเทียมกันจะไม่มีคำ เออ ออ ด่าทอสาดเสีย ทำลาย เอาชนะกันเราจะมีแค่ความเข้าใจกัน “

    “จริงๆ เราเคยคุยเรื่องใช้ชีวิตกันมาสักพักแล้วครับ ว่าถ้าวันนึงต่างคนต่างอยากลองใช้ชีวิตกัน เราจะต้องเป็นแบบไหน และปฏิบัติตัวอย่างไร ก็ได้ตำตอบว่าเราจะดูแลกัน ไปมากันได้เหมือนเดิม ผมก็จะพยายามเข้าบ้านวันที่น้องลำไยไม่อยู่บ้าน ผมก็ทำเท่ห์วางแผนจัดการไว้ให้เรียบร้อย ลูกผู้ชายเอ๋ยปากแล้ว ก็ต้องทำได้ตามวาจา คืนนี้ผมอยู่เชียงใหม่ พรุ่งนี้ผมเล่นพะเยาว์ มะรืนผมกลับบ้าน”

    “อันดับแรกผมจะต้องเก็บที่นอนลงมานอนห้องข้างล่าง และคิดทบทวนทุกอย่างให้ดีอีกรอบ แล้วจะถามน้องลำไยอีกครั้งว่า เราตกลงแบบนี้จริงๆ ใช่ไหมครับ ถ้าน้องลำไยตอบว่า ค่ะ ผมก็จะขนที่นอนมานอนไกลจากน้องลำไยอีกห้องนึง แล้วก็คิดทบทวนทุกอย่างอีกรอบแล้วผมก็จะถามน้องลำไยอีกว่า เราตกลงแบบนี้จริงๆ ใช่ไหมครับ ถ้าน้องลำไยตอบว่า ค่ะ ผมก็จะขนที่นอนมานอนห้องถัดไปที่ไกลกว่าห้องเดิม แล้วผมก็จะคิดทบทวนอีกรอบแล้วผมก็จะถามน้องลำไยอีกครั้งว่า ตกลงแบบนี้จริงๆ ใช่ไหมครับ ถ้าน้องลำไยตอบว่า ค่ะ รอบนี้ผมก็จะขนที่นอนไปนอนห้องซ้อมแล้วก็จะไม่ถามอะไรอีกเลย”

    “แต่ทุกๆ คน เชื่อผมนะครับ ทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันเป็นธรรมดาของธรรมชาติ ทุกอย่างมีเสื่อม มีดับสลายตามธรรมชาติวางให้ไว อย่าไปแบกไปถือไว้ เมื่อเราเข้าใจ เราจะเบาลง”

     

  • KUBET – ผู้เสียหายแจ้งความ “ต้าวแว่น มาสด้าแดง” ชาวเน็ตขุดประวัติ เจอหมด ทำงานที่ไหน

    จากกรณีผู้ใช้ Facebook ชื่อ Pete Fukuyama เจ้าของรถยนต์ยี่ห้อมาสด้า สีแดง ได้โพสต์คลิปจากกล้องหน้ารถ ขณะขับขี่ด้วยความเร็ว แซงรถยนต์หนึ่งคันก่อนเข้าไปแทรกและเฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์ที่กำลังขับอยู่ในเลนขวา ซึ่งอยู่ระหว่างกำลังจะเบี่ยงเข้าเลนกลาง ส่งผลให้รถจักรยานยนต์ล้มลงและได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดบริเวณใต้ทางต่างระดับตัดกับถนนราชพฤกษ์ บางศรีเมือง-วัดโบสถ์ดอนพรหม ต.บางกร่าง อ.เมือง จ.นนทบุรี เหตุเกิดวันที่ 28 ก.พ. 68 เวลา 08.22 น.

    โพสต์ดังกล่าวยังระบุข้อความว่า “คลิปที่ บบค.114 ใครจะให้รีวิวประกันรถบอกผมนะ บ.ใหญ่ๆ เปลี่ยนมาทุกเจ้าแล้ว ส่วนประกันชีวิตให้ไปถามคนขับบิ๊กไบค์ ส่งคลิป #กล้องหน้ารถ ไปที่เพจ #อาสาตาจราจร มีรางวัล 600,000 บาทต่อปี”

    หลังจากโพสต์ดังกล่าวเผยแพร่ออกไป ชาวเน็ตจำนวนมากได้เข้ามาแสดงความคิดเห็น โดยบางคนมองว่าการขับขี่ของรถเก๋งสีแดงนั้นอันตราย เนื่องจากมีพฤติกรรมปาดหน้ารถคันอื่น เป็นภัยต่อผู้ใช้รถใช้ถนน และไม่มีจิตสำนึก อย่างไรก็ตาม เจ้าของโพสต์ได้เข้ามาตอบคอมเมนต์อย่างดุเดือด พร้อมระบุว่า “เคสนี้มอเตอร์ไซค์ผิด จบนะผู้เชี่ยวชาญ กรุณาหุบปาก เชิญชมรถทัวร์ขนควายครับ คือผมกับมอเตอร์ไซค์เคลียร์กันจบแล้ว แต่มีควายจำนวนมากเข้ามาสะเหล่อตัดสินแทน”

    ต่อมา หลังจากชาวเน็ตได้เห็นพฤติกรรมของเจ้าของรถมาสด้าแดงที่เข้าไปตอบโต้คอมเมนต์อย่างก้าวร้าว ทำให้เพจเฟซบุ๊กชื่อดังหลายเพจออกมาเปิดเผยคลิปเหตุการณ์อื่นๆ บนท้องถนนที่เกี่ยวข้องกับรถคันนี้ ซึ่งแสดงให้เห็นพฤติกรรมการขับขี่ที่ก้าวร้าว เช่น การบีบแตรใส่รถจักรยานยนต์ด้วยความสะใจ รวมถึงการขับขี่ในลักษณะหัวร้อน ทั้งนี้ยังพบว่ายังมีการโพสต์รูปอาวุธปืนที่คอนโซลหน้ารถอีกด้วย ต่อมา นักสืบโซเชียลได้ตรวจสอบข้อมูลจนพบว่าผู้ขับขี่รถมาสด้าแดงเป็นชาย สวมแว่นตา และทำงานอยู่ในโรงงานอุตสาหกรรมเกี่ยวกับเทคโนโลยีเครื่องมือแพทย์ไทย พร้อมตั้งฉายาให้ว่า “ไอต้าวแว่น มาสด้าแดง” ส่งผลให้กระแสโซเชียลพุ่งเป้าไปยังสถานที่ทำงานและเฟซบุ๊กส่วนตัวของเขาจนในที่สุดเจ้าของรถมาสด้าแดงได้ปิดเฟซบุ๊กและช่องทางติดต่อส่วนตัวทั้งหมด

    ล่าสุดวันนี้ (2 มี.ค. 68) เวลา 13.00 น. ภายหลังจากการแถลงข่าวที่เพจ สายไหมต้องรอด นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ได้พานายจินตระการ แก้ววังอ้อ อายุ 49 ปี ผู้เสียหาย ซึ่งเป็นเจ้าของรถจักรยานยนต์ยี่ห้อ Kawasaki 650 ลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุบริเวณดังกล่าวเป็นถนนเลนด่วน 3 เลน โดยมีการจำกัดความเร็วในแต่ละเลน ได้แก่ เลนซ้าย 80 กม./ชม. เลนกลาง 100 กม./ชม. และเลนขวา 120 กม./ชม. ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบว่า จุดเกิดเหตุไม่มีป้ายห้ามรถจักรยานยนต์ใช้เส้นทางดังกล่าว ก่อนจะเดินทางเข้าแจ้งความกับพ.ต.ท.อานนท์ แพรงาม สว. (สอบสวน) สภ.บางศรีเมือง เพื่อให้ดำเนินการตามคดีกฎหมายต่อไป

    นายเอกภพ กล่าวว่า วันนี้ได้พาผู้เสียหายมาแจ้งความดำเนินคดีกับไฮโซเก๋งมาสด้าแดงดังกล่าว ซึ่งทางผู้เสียหายคิดว่าเก๋งแดงคันดังกล่าวตั้งใจชน ตอนนี้รอทางพนักงานสอบสวน อยู่ระหว่างสอบปากคำอย่างละเอียด รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อแจ้งข้อกล่าวหา ซึ่งเรื่องนี้ใจตนอยากให้ดำเนินคดีในข้อหา พยายามฆ่า และขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัย อย่างไรก็ตามอยู่ที่ดุลพินิจของพนักงานสอบสวนในการแจ้งข้อกล่าวหา เรื่องนี้ตนฝากผู้ใช้รถใช้ถนนว่าการขับรถต้องคำนึงถึงเพื่อนร่วมทางด้วย และพฤติกรรมที่กระทำมาทั้งหมดตอนนี้ขอให้หยุดกระทำแบบนี้ และเชื่อว่าหลังจากนี้จะมีผู้เสียหายออกมาแจ้งความหลายคนกับไฮโซเก๋งดังกล่าว

    นายจินตระการ ผู้เสียหาย กล่าวว่า อยากให้ทางผู้ขับขี่ได้รับโทษ คิดว่าเขาตั้งใจชน และเขาไม่ได้ขอโทษแต่อย่างใด หลังเกิดเหตุตนไม่ได้รับบาดเจ็บเยอะจึงไม่ได้แจ้งความ และมาทราบคลิปย้อนหลังมีวีรกรรมเกี่ยวกับการขับรถในโซเชียล จึงตัดสินใจนำเรื่องเข้าร้องเรียนกับเพจสายไหมต้องรอด และตัดสินใจเข้าแจ้งความดำเนินคดี เพื่อไม่ให้ไปก่อเหตุลักษณะนี้กับใครอีก เท่าที่ดูจากสื่อโซเชียลต่างๆ ที่นำคลิปมาลง พบว่าส่วนใหญ่จะก่อเหตุกับรถจักรยานยนต์ อย่างไรก็ตามวันนี้ตนก็ขอให้ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหาผู้กระทำความผิด และขอขอบคุณทางชาวเน็ตที่ให้กำลังใจและเป็นห่วง และอยากฝากถึงเจ้าของรถว่า อย่าขับรถอีกเลย ถ้าทำแบบนี้มันเป็นภัยต่อสังคมมาก และยังภูมิใจกับสิ่งที่ตนเองกระทำอยู่ พ.ต.ท. อานนท์ แพรงาม สารวัตรสอบสวน สภ.บางศรีเมือง เปิดเผยว่า ขณะนี้ตำรวจได้รับแจ้งความเกี่ยวกับกรณีอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นแล้ว พร้อมสอบปากคำผู้เสียหายอย่างละเอียด และสามารถระบุตัวเจ้าของรถยนต์มาสด้าสีแดงคันดังกล่าวได้แล้ว โดยอยู่ระหว่างดำเนินการเรียกผู้ถูกกล่าวหามาสอบสวนตามกระบวนการทางกฎหมาย เบื้องต้นทางตำรวจได้ประสานงานกับฝ่ายสืบสวนเพื่อติดต่อไปยังเจ้าของรถ แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถติดต่อได้ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จะเร่งติดตามตัวเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป