ผู้เขียน: admin

  • KUBET – 8 เครื่องดื่มช่วงเช้าทดแทนกาแฟ ดีต่อสุขภาพ คืนความสดชื่นได้ไม่แพ้กัน

    สาว ๆ ที่ต้องตื่นเช้าไปทำงาน หรืออยากให้ยามเช้าของตัวเองสดชื่น มักนึกถึงเครื่องดื่มกาแฟมาเป็นอันดับแรก และเป็นเครื่องดื่มยอดฮิตที่ดื่มจนติดเป็นนิสัยในทุกเช้า แต่หากใครที่กำลังอยากเลี่ยงกาแฟ มองหาเครื่องดื่มทดแทนที่สามารถทำหน้าที่ช่วยให้ร่างกายตื่นตัวได้ไม่แพ้กัน ลองมารู้จักกับ 8 เครื่องดื่มต่อไปนี้ ที่จะช่วยให้คุณรู้สึกสดชื่น แถมยังได้ประโยชน์เพื่อสุขภาพอีกด้วย

    8 เครื่องดื่มช่วงเช้าทดแทนกาแฟ

    1.น้ำแอปเปิ้ลไซเดอร์

    น้ำแอปเปิ้ลไซเดอร์มีคุณสมบัติช่วยดีท็อกซ์ร่างกายและปรับสมดุลระบบย่อยอาหาร แนะนำให้ผสมน้ำอุ่น 1 แก้ว กับน้ำแอปเปิ้ลไซเดอร์ 1 ช้อนโต๊ะ และน้ำผึ้งเล็กน้อย ดื่มตอนเช้าทดแทนกาแฟ จะช่วยให้คุณรู้สึกกระปรี้กระเปร่าได้อย่างไม่น่าเชื่อ

    2.น้ำเปล่าผสมผงโกโก้

    โกโก้ดิบมีสารต้านอนุมูลอิสระสูงและช่วยกระตุ้นระบบเผาผลาญ เพียงแค่ผสมน้ำอุ่นกับผงโกโก้ 1-2 ช้อนชา อาจเติมน้ำผึ้งเพื่อเพิ่มรสชาติสักเล็กน้อยสำหรับมือใหม่ รับรองว่าเป็นทางเลือกที่ดีต่อใจอย่างแน่นอน

    3.น้ำผักคั้นแยกกาก

    น้ำผักที่ผ่านการคั้นแบบสด ๆ เช่น แครอท เซเลอรี่ หรือผักโขม อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่ช่วยเพิ่มพลังงานสมอง เลือกส่วนผสมตามใจชอบแล้วนำไปปั่นแยกกาก เติมน้ำแข็งลงไป ดื่มได้แบบเย็นชื่นใจ แถมยังได้คุณค่าทางโภชนาการอีกด้วย

    4.น้ำหมักผลไม้

    น้ำหมักผลไม้ หรือ Infused Water เป็นเครื่องดื่มทำง่ายและช่วยเพิ่มความสดชื่นในทุกเช้าได้ไม่ยาก ลองใส่ผลไม้ เช่น มะนาว สตรอเบอร์รี่ หรือแตงกวาลงในน้ำเปล่า แล้วแช่เย็นข้ามคืนเอาไว้ คุณจะได้เครื่องดื่มที่มีกลิ่นหอม ได้รสชาติหวานเบา ๆ จากผลไม้ที่ผสมลงไป เป็นเครื่องดื่มที่จะปลุกพลังในตัวออกมาได้ไม่ยาก

    5.น้ำผสมผิวเลม่อนขูดฝอย

    ผิวเลม่อนมีน้ำมันหอมระเหยที่ช่วยทำให้รู้สึกผ่อนคลายเมื่อได้กลิ่น และยังช่วยให้รู้สึกสดชื่น เพียงขูดผิวเลม่อนเล็กน้อยลงในน้ำอุ่น จิบเบา ๆ ยามเช้า คุณจะได้เครื่องดื่มที่ทั้งหอมและมีคุณสมบัติช่วยเสริมภูมิคุ้มกันไปในตัว

    6.กาแฟชิโครี

    กาแฟชิโครีทำจากรากพืชที่นำมาคั่วและบด มีรสชาติคล้ายกาแฟแต่ไม่มีคาเฟอีน เป็นเครื่องดื่มทดแทนกาแฟสำหรับคนที่ยังอยากได้กลิ่นของกาแฟอยู่ ซึ่งพืชชนิดนี้ช่วยเสริมสุขภาพลำไส้ เป็นสมุนไพรที่มีประโยชน์อย่างมากเลยทีเดียว

    7.น้ำชาผู่เอ๋อ

    ชาผู่เอ๋อเป็นชาหมักยอดฮิตของชาวจีนที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยลดความเครียดและกระตุ้นการย่อยอาหาร รสชาติของชานี้มีความลุ่มลึกน่าค้นหา เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความผ่อนคลายและสดชื่นในยามเช้า

    8.กาแฟข้าวบาร์เลย์

    กาแฟข้าวบาร์เลย์ หรือ Barley Tea มีกลิ่นหอมละมุนจากการคั่วเมล็ดข้าวบาร์เลย์ แต่ไม่มีคาเฟอีน มีส่วนช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบย่อยอาหาร เป็นอีกทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ และลดความอยากกาแฟลงไปได้

    การเริ่มต้นวันใหม่ด้วยเครื่องดื่มที่มีประโยชน์ นอกจากจะช่วยลดการพึ่งพากาแฟในยามเช้าแล้ว ยังช่วยให้สุขภาพดีในระยะยาว หากคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังมองหาทางเลือกใหม่ที่ดีต่อสุขภาพ บอกเลยค่ะว่านี่คือเมนูเครื่องดื่มที่คุณควรลิ้มลอง

  • KUBET – นางสงกรานต์ 2568 “ทุงสะเทวี” เสด็จไสยาสน์หลับเนตรเหนือหลังครุฑ เปิดคำทำนายปีนี้

    ประกาศ สงกรานต์ 2568 นางสงกรานต์ ทรงนามว่า ทุงสะเทวี เสด็จไสยาสน์เหนือหลังครุฑ พร้อมเปิดคำทำนายปีนี้

    เมื่อวันที่ 6 มี.ค. 2568 ฝ่ายโหรพราหมณ์ กองพระราชพิธี สำนักพระราชวัง ได้ประกาศ สงกรานต์ 2568 ความว่า

    ปีมะเส็ง (มนุษย์ผู้ชาย ธาตุไฟ) สัปตศก จุลศักราช ๑๓๘๗ ทางจันทรคติ เป็น อธิกวาร ทางสุริยคติ เป็น ปกติสุรทิน

    วันที่ ๑๔ เมษายน เป็นวันมหาสงกรานต์ ทางจันทรคติ ตรงกับวันอาทิตย์ แรม ๑ ค่ำ เดือน ๕ เวลา ๐๔ นาฬิกา ๒๘ นาที ๒๘ วินาที

    นางสงกรานต์ ทรงนามว่า ทุงสะเทวี ทรงพาหุรัด ทัดดอกทับทิม อาภรณ์แก้วปัทมราค ภักษาหารอุทุมพร (มะเดื่อ) พระหัตถ์ขวาทรงจักร พระหัตถ์ซ้ายทรงสังข์ เสด็จไสยาสน์หลับเนตรมาเหนือหลังครุฑเป็นพาหนะ

    วันที่ ๑๖ เมษายน เวลา ๐๘ นาฬิกา ๒๗ นาที ๓๖ วินาที เปลี่ยนจุลศักราชใหม่ เป็น ๑๓๘๗ ปีนี้ วันศุกร์ เป็น ธงชัย, วันศุกร์ เป็น อธิบดี, วันพฤหัสบดี เป็น อุบาทว์, วันอาทิตย์ เป็น โลกาวินาศ

    ปีนี้ วันพุธ เป็นอธิบดีฝน บันดาลให้ฝนตก ๖๐๐ ห่า ตกในโลกมนุษย์ ๖๐ ห่า ตกในมหาสมุทร ๑๒๐ ห่า ตกในป่าหิมพานต์ ๑๘๐ ห่า ตกในเขาจักรวาล ๒๔๐ ห่า นาคให้น้ำ ๕ ตัว

    เกณฑ์ธัญญาหาร ได้เศษ ๖ ชื่อ ลาภะ ข้าวกล้าในภูมินาจะได้ผล ๙ ส่วน เสีย ๑ ส่วน ธัญญาหาร พลาหาร มัจฉมังสาหาร จะบริบูรณ์ อุดมสมบูรณ์ ประชาชนทั้งหลายจะเป็นสุขสมบูรณ์แล

    เกณฑ์ธาราธิคุณ ตกราศีอาโป (น้ำ) น้ำมาก

    คำทำนาย สงกรานต์ 2568

    วันอาทิตย์ เป็นวันมหาสงกรานต์ ไร่นาเรือกสวน เผือกมัน มิสู้แพงแลฯ , วันจันทร์ เป็นวันเนา เกลือจะแพง นางพระยาจะร้อนใจ มักจะเกิดความไข้ต่าง ๆ , วันพุธ เป็นวันเถลิงศก ราชบัณฑิต ปุโรหิตโหราจารย์ จะมีสุขสำราญเป็นอันมากแลฯ , นางสงกรานต์ ไสยาสน์หลับเนตร (นอนหลับตา) พระมหากษัตริย์จะเจริญรุ่งเรืองดี

    คำทำนาย สงกรานต์ 2568

  • KUBET – ลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2568 คลังย้ำ เปิดทันภายในเดือน มี.ค. นี้

    ลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2568 ลงทะเบียนคนจน คลังเร่งสรุปคุณสมบัติผู้ขอรับสิทธิ์ ย้ำเปิดลงทะเบียนภายในเดือน มี.ค. 68

    นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่ากระทรวงการคลัง ระบุ คณะอนุกรรมการบริหารข้อมูล โครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ จะมีการนัดประชุมในเร็วๆ นี้ เพื่อนำข้อสรุปเรื่อกงารเปิดลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ มาเสนอคณะกรรมการประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ที่มีตนเป็นประธาน โดยตคาดว่าจะได้ข้อสรุปทุกอย่าง ก่อนที่จะส่งเข้า ครม. ตามขั้นตอน

    “การเปิดลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2568 ยืนยันว่าทำได้แน่นอน ซึ่งกระบวนการลงทะเบียนไม่ได้แปลว่าต้องเสร็จสิ้น และปิดลงทะเบียนภายในเดือน มี.ค. 68 ดังนั้น เริ่มเปิดดำเนินการปลายเดือน มี.ค. นี้ ก็ยังคงอยู่ในกรอบเวลาที่กำหนด” นายจุลพันธ์ กล่าว

    สำหรับการปรับปรุงเกณฑ์คุณสมบัติผู้รับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐหรือไม่นั้น ทางอนุกรรมการยังไม่ได้ส่งข้อสรุปมาให้พิจารณา แต่ทั้งนี้จะต้องดุให้รอบคอบที่สุด โดยเฉพาะเรื่องรายได้ และทรัพย์สินให้เหมาะสมที่สุด

    คุณสมบัติผู้ขอรับสิทธิ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ บัตรคนจน 

    1. เป็นบุคคลสัญชาติไทยอายุ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป
    2. มีรายได้คนละไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี ภายในครอบครัว มีรายได้เฉลี่ยไม่เกิน 100,000 บาทต่อคนต่อปี
    3. ทรัพย์สินทางการเงิน ได้แก่ เงินฝาก พันธบัตร ตราสารหนี้ต่างๆ ต้องไม่เกิน 100,000 บาทต่อคนครอบครัว ไม่เกิน 100,000 บาทต่อคนต่อปี เช่นเดียวกัน
    4. ต้องไม่มีกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ หรือที่ดิน เกินจากเกณฑ์ที่กระทรวงการคลังกำหนด
    5. ต้องไม่มีบัตรเครดิต

    บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2568 ใครต้องลงทะเบียนบ้าง

    • ผู้ที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเดิมจำนวน 14.5 ล้านคน ไม่ต้องลงทะเบียนใหม่ กระทรวงการคลังจะนำรายชื่อเข้าสู่ระบบคัดกรองอัตโนมัติ

    กลุ่มที่ต้องลงทะเบียนใหม่

    • ประชาชนที่ยังไม่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 10 ล้านคน
    • ประชาชนที่อายุครบ 18 ปี
    • กลุ่มที่ตกหล่นจากการลงทะเบียนในปี 2565 จำนวน 800,000 คน

    วิธีลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2568 ผ่านแอปทางรัฐ

    การลงทะเบียนรอบใหม่ในปี 2568 รัฐบาลจะใช้แอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” Super App เป็นช่องทางหลักในการลงทะเบียนและยืนยันตัวตน

    ขั้นตอนการลงทะเบียนผ่านแอป ทางรัฐ

    1. ดาวน์โหลดแอป “ทางรัฐ” ได้ทั้ง iOS และ Android
    2. ลงทะเบียนและกรอกข้อมูลส่วนตัว
    3. ยืนยันตัวตนผ่านแอป ThaiD ของกรมการปกครอง
    4. ตรวจสอบสิทธิ์หลังจากลงทะเบียนเสร็จสิ้น

    อ่านข่าวบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 68

  • KUBET – “แอฟ ทักษอร” ลุคฟินาเล่สวยบนรันเวย์ เผยโมเมนต์ “นนกุล “มารับมาส่ง

    แอฟ ทักษอร เฉิดฉายบนรันเวย์กับชุดเดรสซีทรูบางเบาสวยสดใส นนกุล มารับถึงงานเลยทีเดียว

    นางเอกสาว แอฟ ทักษอร ได้มาร่วมงานฉลองครบรอบ 12 ปีแบรนด์ Cher’Z (เชอ-ซี) ของ กรรณิการ์ ซาย หรือ กรรณิการ์ วนะเกียรติกุล พร้อมกับเปิดคอลเลกชั่นใหม่ “นิว แชปเตอร์” มากับชุดเดรสซีทรูลายลูกไม้สวยหวานเหมาะกับเธอสุดๆ ซึ่งเป็นชุดฟินาเล่ที่สร้างเสียงฮือฮาได้สนั่นรันเวย์เลยทีเดียว 

    นอกจากนี้ แอฟ ทักษอร ยังได้ให้สัมภาษณ์โมเมนต์ที่ไปออกรายการกับ น้องปีใหม่ ลูกสาวสุดที่รัก “เป็นครั้งแรกที่ได้ยินประโยคว่าเชื่อในแม่ เป็นครั้งแรก แต่ก็มีหลายๆ เหตุการณ์ที่เขาเคยพูดมาบ้างแล้ว”

    “ในรายการไม่ได้มีสคริปต์อะไรเลย เป็นคำพูดมาจากใจเขาเอง มาจากสิ่งที่เขาคิด เขายังงงมาถามเลยว่าคุณแม่ร้องไห้ทำไม เราก็อธิบายไปว่ายังไม่เป็นแม่ยังไม่รู้หรอก” 

    “เขาโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว เราต้องคิดเยอะมีความละเอียดอ่อนในทุกเรื่อง ปรับตัวในทุกเรื่องไปตลอดไม่จบสิ้น อาชีพแม่ไม่มีศาสตร์ไหนไปศึกษาได้ ไม่มีสูตรสำเร็จ ไม่ง่ายเลยจริงๆ” 

    “ที่เขาเป็นทุกวันนี้ได้ไม่ใช่แค่แอฟคนเดียว มีคุณตาคุณยายคุณปู่คุณย่า เพื่อนที่โรงเรียนเก่า เพื่อนๆ ทุกคน หล่อหลอมให้เขาเป็นเขามา 10 ปี”  

    “วันนี้เขาโตจะก่อนจะเข้าเป็นวัยรุ่น เราต้องตามเข้าให้ทันแล้วในเรื่องต่างๆ การเข้าสังคม เทคโนโลยีต่างๆ”

    “จริงๆ ไม่ได้ตั้งใจแต่ว่ารายการเขาบอกแล้วว่าจะสัมภาษณ์ในทุกๆ แง่มุม มันพูดถึงได้ มันปฏิเสธไม่ได้เพราะเขาก็เป็นส่วนหนึ่งในชีวิต แล้วแอฟไม่ได้ไปแตะให้ใครเสียหาย แอฟไม่รู้สึกอะไร รู้สึกสบายใจที่จะพูดถึงสงกรานต์ แอฟสบายใจจริงๆ เวลาอาจจะมีส่วน สำคัญที่สุดไม่ใช่เรื่องเวลา แต่เป็นเรื่องของการปฏิบัติดีต่อกันมากกว่า” 

    “ผ่าตัดตา จากกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง เป็นมาประมาณ 5 ปีแล้ว แต่ตอนนี้เป็นปกติแล้วค่ะ อาจจะต้องดูแลมากกว่าปกติไม่โดนแสงแรงๆ ถ้าไม่ทำงานก็ไม่แต่งหน้าและจะใส่แว่นกันตากันแดด” 

    “วาเลนไทน์เขาโพสต์ก่อนนะคะ ดีเหมือนปีที่แล้ว ได้ใช้เวลากับปีใหม่และนน เป็นการไปก่อนวาเลนไทน์ พิเศษสุดๆ สำหรับแอฟคือการใช้เวลานะคะไม่ได้ตอบแบบมารยาทนะคะ เวลามีความหมายมากที่สุด ตอนนี้กำลังดี ไม่มากไม่น้อย ยังไม่มีงานยาวๆ ยังมารับเหมือนเดิม วันนี้เขาก็มารับ (ยิ้ม) ถ้าว่างก็เจอกันค่ะ”  

  • KUBET – หมอรับรองว่าได้ผลจริง ทำสิ่งนี้หลังมื้ออาหาร ช่วยคุมน้ำตาล-ลดน้ำหนัก ใครๆ ก็ทำได้

    แค่ทำสิ่งนี้หลังมื้ออาหาร ช่วยคุมน้ำตาลและลดน้ำหนัก! แพทย์รับรองว่าได้ผลจริง อย่ารอจนผ่านไป 1–2 ชั่วโมง แล้วค่อยเริ่มคุณอาจเคยรู้สึกง่วงและมึนงงหลังจากรับประทานอาหารจนอิ่มหรือไม่? ที่จริงแล้วปรากฏการณ์นี้เกี่ยวข้องกับระดับน้ำตาลในเลือดที่สูงเกินไปหรือมีความผันผวนมาก

    จางหลานเกอ (อู๋ฉีอิ่ง) อดีตแพทย์เด็กแห่งโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยไต้หวัน และ YouTuber ระบุผ่านโพสต์ให้ความรู้ว่า ระดับน้ำตาลในเลือดจะขึ้นสูงสุดประมาณ 1 ชั่วโมงหลังมื้ออาหาร หากผ่านไป 2 ชั่วโมงแล้วยังเกิน 200 mg/dL ถือว่าเป็นเบาหวาน ส่วนระดับระหว่าง 140–200 mg/dL จัดว่าอยู่ในเกณฑ์สูงกว่าปกติ

    จางหลานเกอ แนะนำว่า สำหรับผู้ที่มีน้ำตาลในเลือดสูงหรือเป็นเบาหวาน “อย่านั่งนิ่งหลังมื้ออาหาร” เป็นวิธีที่ง่ายและได้ผล ควรลุกขึ้นขยับร่างกาย เช่น เดินเล่น เดินอยู่กับที่ หรือวิ่งเหยาะ ๆ ช้า ๆ เพียงแค่ทำให้ร่างกายเคลื่อนไหวหลังมื้ออาหาร ก็สามารถช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด และอาจช่วยลดน้ำหนักได้อีกด้วย

    ด้าน ดร.หลี่ถังเยว่ แพทย์เฉพาะทางด้านการลดน้ำหนักและเวชศาสตร์ครอบครัว เคยแบ่งปันว่า “การวิ่งเหยาะ ๆ ช้า ๆ (Super Slow Jogging)” ไม่เพียงแต่ช่วยเสริมสร้างสุขภาพหัวใจและปอด ควบคุมระดับน้ำตาล และปรับปรุงการทำงานของอินซูลิน แต่ยังอาจช่วยพลิกกลับภาวะเบาหวานได้

    ข้อดีของการวิ่งแบบนี้คือ เป็นการออกกำลังกายที่ใช้แรงน้อย ทำได้นาน และช่วยเผาผลาญไขมันได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่รู้สึกเหนื่อยเกินไป

    นอกจากนี้ ยังช่วยฟื้นฟูและเพิ่มประสิทธิภาพของไมโตคอนเดรีย ซึ่งเปรียบเสมือนโรงงานพลังงานของร่างกาย ทำให้ร่างกายทำงานได้ลื่นไหล แข็งแรง และมีพลังมากขึ้น อีกทั้งยังเป็นประโยชน์ต่อการควบคุมโรคเรื้อรังอีกด้วย

    Tirachard Kumtanom:

    ควรพักหลังมื้ออาหารนานแค่ไหน ก่อนเริ่มวิ่งเหยาะ ๆ ช้า ๆ (Super Slow Jogging)?

    ดร.หลี่ถังเยว่ อธิบายว่า หลังรับประทานอาหาร ระดับน้ำตาลในเลือดจะค่อย ๆ เพิ่มขึ้น และมักแตะจุดสูงสุดในช่วง 1 ชั่วโมงครึ่งถึง 2 ชั่วโมง โดยเฉพาะในผู้ป่วยเบาหวาน

    “เป้าหมายของเราคือป้องกันไม่ให้น้ำตาลพุ่งสูงถึงขีดสุด” เขากล่าว “หากเราขยับร่างกายก่อนถึงจุดสูงสุด อินซูลินจะไม่พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว น้ำตาลในเลือดจะถูกควบคุมได้ดีขึ้น และความผันผวนของระดับน้ำตาลก็จะลดลง”

    ดร.หลี่ถังเยว่แนะนำว่า ควรเริ่มนับเวลาตั้งแต่ “คำแรกของมื้ออาหาร” โดยปกติใช้เวลาประมาณ 20–30 นาที ในการรับประทาน หลังจากนั้นพักสัก 5–10 นาที หากไม่มีอาการแน่นท้องหรืออึดอัดมากเกินไป ก็สามารถเริ่มวิ่งเหยาะ ๆ ช้า ๆ (Super Slow Jogging) ได้

    อย่ารอจนผ่านไป 1–2 ชั่วโมงหลังมื้ออาหารแล้วค่อยเริ่ม เพราะช่วงนั้นระดับน้ำตาลในเลือดจะพุ่งสูงขึ้นมากเกินไป การออกกำลังกายเพื่อลดน้ำตาลอาจได้ผลน้อยลง

  • KUBET – ธนาคารกสิกรไทย แจ้งลูกค้าที่ถูกเตือนรีบทำ ภายในวันที่ 9 มี.ค. 68

    ธนาคารกสิกรไทย เตือนลูกค้า K PLUS รีบยืนยันเบอร์มือถือที่ใช้บริการ ภายในวันที่ 9 มี.ค. 68 คนที่ได้รับข้อความแจ้งเตือนรีบทำด่วน

    เพจเฟซบุ๊ก KBank Live โพสต์ข้อความระบุว่า ลูกค้า K PLUS จะสามารถใช้บริการได้ 1 เบอร์มือถือเท่านั้น สำหรับลูกค้าที่ได้รับการแจ้งเตือนสามารถยืนยันเบอร์มือถือที่ใช้บริการ โดยดำเนินการผ่านหน้าจอ K PLUS ก่อนเข้าใช้บริการ ภายในวันที่ 9 มี.ค. 2568

    ทั้งนี้ ข้อควรทราบ การเพิ่มบัญชีเงินฝากที่ ไม่ใช่ บัญชีอิเล็กทรอนิกส์ (K-eSavings) บน K+ กรุณาเตรียมข้อมูลยอดเงินคงเหลือล่าสุด จากสมุดบัญชีเงินฝากกรณีไม่มีสมุดบัญชีเงินฝาก กรุณาติดต่อสาขา เพื่อทำสมุดบัญชีเงินฝากใหม่

    สอบถามเพิ่มเติม ผ่าน K PLUS เลือก “อื่นๆ” ที่แถบเมนูด้านล่าง และเลือก “ติดต่อธนาคาร” หรือโทร. 02-8888888 กด 03

  • KUBET – อ้างเป็น “คลิปหลุด ลำไย” ว่อนเน็ต เตือนภัย! ห้ามกดลิงก์เด็ดขาด มิจฉาชีพทั้งนั้น

    เตือนภัยอ้างเป็น “คลิปหลุด ลำไย” ว่อนเน็ต ห้ามกดลิงก์เด็ดขาด เป็นลิงก์มิจฉาชีพ

    จากกรณีข่าวดรามาเกี่ยวกับนักร้องลูกทุ่งชื่อดัง ลำไย ไหทองคำ และบอสแดนเซอร์ชาย ซึ่งมีหลายประเด็นที่สังคมให้ความสนใจ ขณะเดียวกันก็มีมิจฉาชีพที่อาศัยช่องว่างนี้ในการเผยแพร่คอนเทนต์ลามกอนาจาร โดยการใช้คลิปต่างๆ เช่น คลิปจากหนังโป๊หรือคลิปต่างประเทศมาแอบอ้างว่าเป็น “คลิปหลุด ลำไย” ซึ่งเป็นคำค้นหาที่ได้รับความนิยมในขณะนี้ เพื่อหลอกลวงผู้คนโดยแนบลิงก์มิจฉาชีพ

    สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ออกมาเตือนภัย หลังพบว่ามีกลุ่มมิจฉาชีพที่มุ่งเป้าไปยังผู้ที่มีความสนใจในพฤติกรรมกามารมณ์ โดยใช้วิธีหลอกลวงต่างๆ เพื่อแสวงหาประโยชน์ทั้งทางการเงินและทางเพศจากผู้เสียหาย

    มิจฉาชีพที่มุ่งเป้าไปยังกลุ่มผู้สนใจในเนื้อหาทางเพศ มักจะใช้ 4 รูปแบบดังนี้:

    1. หลอกโอนเงินค่าซื้อ-ขายบริการทางเพศ – ในรูปแบบเพจหรือกลุ่มลับที่เสนอการซื้อขายบริการทางเพศ เมื่อเหยื่อเลือกแล้ว คนร้ายจะขอให้โอนเงินล่วงหน้า เช่น ค่าห้องหรือค่าจองเวลา
    2. หลอกถ่ายคลิปลามกอนาจาร – มิจฉาชีพจะสร้างความสัมพันธ์ออนไลน์และชักชวนให้วิดีโอคอลขณะสำเร็จความใคร่ จากนั้นใช้คลิปดังกล่าวมาข่มขู่เพื่อเรียกร้องเงิน
    3. หลอกชวนมีเพศสัมพันธ์ – จะใช้บัญชีหนุ่มหล่อสาวสวยแสดงความสนใจและนัดพบเพื่อหลับนอน ซึ่งอาจจะนำไปสู่การชิงทรัพย์ ข่มขืน หรือการแอบถ่ายคลิป
    4. หลอกขายภาพ-คลิปลามก – กลุ่มลับหรือเพจจะเสนอขายภาพหรือคลิปลามก เมื่อเหยื่อจ่ายเงินไปแล้วกลับไม่ได้รับสิ่งที่คาดหวัง แต่กลับถูกเรียกร้องเงินเพิ่ม

    สำนักงานตำรวจแห่งชาติขอให้ประชาชนระมัดระวังและไม่ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพดังกล่าว พร้อมเตือนให้สอดส่องดูแลบุตรหลานและบุคคลในครอบครัวที่เสี่ยงต่อการตกเป็นเหยื่อของอาชญากรรมเหล่านี้

    หากมีความเสียหายจากอาชญากรรมทางเทคโนโลยี สามารถแจ้งความร้องทุกข์ได้ที่สถานีตำรวจในพื้นที่ หรือที่ศูนย์รับแจ้งความออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ www.thaipoliceonline.go.th หรือสายด่วน 1441 ตลอด 24 ชั่วโมง

    สำหรับผู้ที่นำข้อมูลหรือคลิปที่เกี่ยวข้องกับ “คลิปหลุด ลำไย” หรือข้อมูลลามกอนาจารมาเผยแพร่ โดยไม่ว่าจะเป็นคลิปจริงหรือหลอกลวง การกระทำดังกล่าวถือเป็นความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญา ในฐานความผิดหมิ่นประมาท และยังสามารถถูกดำเนินคดีภายใต้ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550

    ตาม มาตรา 14 (2) ของ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ กำหนดว่า “ผู้ใดนำข้อมูลที่เป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ หรือเผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศ หรือความสงบเรียบร้อยของประชาชน” จะต้องรับโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

    หากผู้กระทำผิดเผยแพร่ข้อมูลลามกอนาจารเกี่ยวกับบุคคลอื่น อาจมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท ตาม มาตรา 287 ของประมวลกฎหมายอาญา

    ทั้งนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้ถูกหลอกลวงหรือตกเป็นเหยื่อของอาชญากรรมในรูปแบบต่างๆ จึงขอให้ทุกคนใช้ความระมัดระวังในการคลิกหรือเปิดลิงก์ที่ได้รับจากแหล่งที่ไม่รู้จัก.

  • KUBET – สาวสอบเข้า ม.ดัง ได้คะแนนอันดับ 1 อึ้ง กรรมการให้ล้างเครื่องสำอาง พิสูจน์สวยระดับ AI

    ผู้มีความสวยงามราวกับ AI เผยประสบการณ์อันเป็นตำนาน ในการสอบเข้า ม.ดัง ได้คะแนนอันดับ 1

    NetEase News รายงานเรื่องราวของ “หู ซินยี่” (Hu Xinyi) หญิงสาวผู้มีใบหน้าสวยราวกับ AI ได้สมัครสอบเข้าคณะด้านการประกาศข่าวและการพากย์เสียง หรือที่เรียกว่า “การสอบเข้าบัญชีข่าว” ของมหาวิทยาลัยศิลปะปักกิ่ง และไม่เพียงแต่ได้เธอได้คะแนนสูงถึง 274 คะแนน จนสามารถคว้าอันดับหนึ่งสอบในปี 2025 มาได้เท่านั้น แต่ยังเผชิญกับสถานการณ์ที่น่าสนใจมากๆ เมื่อในระหว่างขั้นตอนการสอบทั้งหมด ถูกคณะกรรมการขอให้ “ล้างเครื่องสำอาง” รวมถึง 5 ครั้ง

    ในกรณีนี้ การสอบนี้จะมีการประเมินทั้งความสามารถทางด้านการพูด การอ่านบทประพันธ์ และการอภิปราย นอกจากทักษะในการสื่อสารแล้ว รูปลักษณ์และความสามารถทางศิลปะหรือการแสดง ก็มีผลต่อการสอบด้วย ดังนั้น เพื่อความแน่ใจว่าผู้เข้าสอบไม่ได้ใช้เครื่องสำอางเพื่อเสริมความงาม กรรมการจึงต้องขอให้เธอล้างเครื่องสำอางค์ในระหว่างการสอบ เพื่อให้สามารถประเมินจากรูปลักษณ์ธรรมชาติของผู้เข้าสอบได้อย่างยุติธรรม อย่างไรก็ดี สุดท้ายก็พบว่าเธอไม่ได้แต่งหน้าเลย

    ท้ายที่สุด “หู ซินยี่” หญิงสาวที่มีส่วนสูง 172 เซนติเมตร น้ำหนัก 45 กิโลกรัม และมีใบรับรองจากการสอบในด้านต่างๆ ทั้งการเล่นเปียโน วิโอลิน ฟลุต และการเต้นรำ อีกทั้งเธอยังได้คะแนนยอดเยี่ยมในการสอบ 3 วิชา ได้แก่ การอ่านบทประพันธ์ (92 คะแนน), การประกาศข่าว (91 คะแนน), และการอภิปราย (91 คะแนน) ทำให้เธอได้คะแนนรวม 274 คะแนน และเป็นผู้สอบที่ได้อันดับ 1 ในการสอบเข้าสาขาบัญชีข่าวในปีนี้ ทำให้เธอสร้างความสนใจและเป็นที่พูดถึงในวงกว้าง เพราะความสามารถและความสวยงามของเธอที่สามารถทำให้กรรมการประทับใจได้อย่างมาก

  • KUBET – “ไอมีเสมหะ” ควรคายออกหรือกลืนลงไป? แพทย์เผยคำตอบที่หลายคนคาดไม่ถึง

    อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย เดี๋ยวร้อนเดี๋ยวหนาว ทำให้หลายคนเป็นหวัด และหนึ่งในความน่ารำคาญเวลามีอาการไอคือเสมหะข้นเหนียวที่บางครั้งกลืนลงไปโดยไม่ตั้งใจ บางคนอาจกังวลว่าจะทำให้ติดเชื้อซ้ำ

    แต่ความจริงแล้ว เสมหะมีประโยชน์ต่อร่างกาย นพ.เฉินเลี่ยงอวี่ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านหู คอ จมูก อธิบายว่า เสมหะคือซากเซลล์เม็ดเลือดขาวและเชื้อโรคที่ร่างกายกำจัดออกมา การกลืนลงไป ไม่ทำให้ติดเชื้อซ้ำ ดังนั้นหากไม่สะดวกคายออก ก็สามารถกลืนได้โดยไม่ต้องกังวล

    “คุณไม่รู้จริง ๆ เหรอว่าเสมหะกลืนได้?”

    นพ.เฉินเลี่ยงอวี่ อธิบายว่า เสมหะเกิดจากการที่ทางเดินหายใจติดเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรีย และเป็นซากที่เหลือจากการต่อสู้ของเม็ดเลือดขาว

    แล้วการกลืนเสมหะจะทำให้ติดเชื้อหรือไม่? เขาย้ำชัดว่า “แน่นอนว่าไม่!” เพราะเสมหะมีแต่ซากเชื้อโรคที่ตายแล้ว และที่สำคัญ กระเพาะอาหารมีกรดที่สามารถฆ่าเชื้อเหล่านั้นได้หมดจด

    นพ.เฉินเลี่ยงอวี่ กล่าวว่า ในประเทศที่ให้ความสำคัญกับมารยาทอย่างไต้หวัน หากออกนอกบ้านและไม่มีที่สะดวกในการคายเสมหะ “ก็ควรพิจารณากลืนลงไป”

    เขาเคยเตือนว่า เมื่อเป็นหวัดหรือไอ การกระทำแรกที่ควรทำคือใช้แขนหรือทิชชู่ปิดปากให้มิดชิด เพื่อป้องกันไม่ให้ละอองน้ำลายกระจายไปยังผู้อื่น หากคายเสมหะออกมา ควรใช้ทิชชู่ห่อแล้วทิ้งในถังขยะ เพื่อหลีกเลี่ยงการกระจายของเชื้อโรคที่อาจทำให้ผู้อื่นติดเชื้อได้

    ด้าน นพ.หวู จ้าวควน แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านหู คอ จมูก ได้ให้สัมภาษณ์ในบทความ “เสมหะข้น และน้ำมูก…น่ารังเกียจ! แพทย์ตกใจ: มันดีต่อร่างกาย…เผย 5 ประโยชน์มหัศจรรย์ อย่าเพิ่งรีบหยุดไอ” โดยกล่าวว่า โดยทั่วไป ร่างกายจะผลิตเสมหะประมาณ 500 ซีซีต่อวัน

    ซึ่งมีหน้าที่หลักในการดูดซับเชื้อโรคในทางเดินหายใจ เศษซากเนื้อเยื่อที่สลายตัวแล้ว รวมถึงฝุ่นละอองบางส่วน เพื่อลดการระคายเคืองในทางเดินหายใจและสร้างสภาพแวดล้อมที่สะอาดและสุขภาพดีให้กับทางเดินหายใจ นอกจากนี้ยังช่วยให้เยื่อเมือกในทางเดินหายใจส่วนล่างคงความชุ่มชื้นและสบาย

    นพ.หวู จ้าวควน อธิบายว่า เสมหะที่ถูกไอออกจากหลอดลม หากไม่ได้คายออกและกลืนลงไป จะผ่านทางหลอดอาหารไปยังกระเพาะอาหาร โดยไม่กลับไปที่หลอดลมหรือปอด ดังนั้นจึงไม่ต้องกังวลว่าจะเกิดการติดเชื้อซ้ำหรือเสมหะสะสมมากขึ้น

    คนส่วนใหญ่สามารถคายเสมหะออกได้ แต่สำหรับเด็กเล็ก ผู้ป่วยที่นอนป่วยนาน หรือผู้สูงอายุที่ไม่มีแรงไอเพียงพอ อาจทำให้เสมหะสะสมในปอด จึงต้องใช้การตบหลังหรือเครื่องดูดเสมหะช่วย

    แล้วเสมหะที่ไอออกมา ควรคายออกหรือกลืนลงไปดี? นพ.หวู จ้าวควน มองว่า ทั้งสองวิธีก็สามารถทำได้  “การคายออกจะทำให้รู้สึกสบายตัวมากกว่า แต่หากอยู่ในที่สาธารณะ อาจดูไม่เหมาะสม การกลืนลงไปก็ไม่เป็นไร”

    เพราะค่า pH ของกรดในกระเพาะอาหารใกล้เคียงกับ 2 ซึ่งจะทำลายเชื้อโรคและแบคทีเรียส่วนใหญ่ที่กลืนเข้าไป ดังนั้นประชาชนไม่ต้องกังวลว่าจะกลืนเสมหะแล้วทำให้เชื้อโรคเจริญเติบโตในร่างกาย

  • KUBET – ผู้เชี่ยวชาญจากสหรัฐฯ ยก 3 อาหาร “เร่งความแก่” กระตุ้นอักเสบ แต่คนไทยกินทุกวัน

    ผู้เชี่ยวชาญจากสหรัฐฯ ยก 3 อาหาร “เร่งความแก่” กระตุ้นการอักเสบของร่างกาย เป็นอาหารที่คนไทยกินกันทุกวัน

    อาหารบางชนิดที่รับประทานมากเกินไป อาจกระตุ้นการอักเสบในร่างกาย ซึ่งเชื่อมโยงกับปัญหาผิว เช่น โรคผิวหนังอักเสบ eczema สะเก็ดเงิน และสิว นอกจากนี้ อาหารเหล่านี้ยังอาจเร่งกระบวนการชราภาพของร่างกายให้เร็วขึ้น

    เราทราบกันดีว่า รังสี UV เป็นสาเหตุหลักของริ้วรอยก่อนวัยบนผิวหนัง เช่น ริ้วรอยลึก รอยเหี่ยวย่น ผิวหย่อนคล้อย จุดด่างดำ กระ และฝ้า แต่สิ่งที่หลายคนอาจไม่รู้คือ อาหารที่เรารับประทานทุกวันมีผลต่อสุขภาพผิวมากกว่าการใช้เซรั่มหรือครีมบำรุงผิวเสียอีก

    ดร.โรเบิร์ต ดับเบิลยู.บี. เลิฟ (Robert W. B. Love) นักประสาทวิทยาจากนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา อธิบายว่า อาหารบางชนิดสามารถกระตุ้นการอักเสบในร่างกาย ซึ่งส่งผลให้เกิดปัญหาผิว เช่น โรคเรื้อนกวาง สะเก็ดเงิน และสิว นอกจากนี้ อาหารเหล่านี้ยังสามารถเร่งกระบวนการชราภาพของร่างกายให้เร็วขึ้นอีกด้วย

    3 อาหารที่ควรลดหรือบริโภคในปริมาณที่เหมาะสม 

    1. เนื้อย่าง

    เนื้อที่ผ่านกระบวนการย่างจนไหม้เกรียมอาจเพิ่มสาร AGE (Advanced Glycation End Products) ในร่างกาย ซึ่งส่งผลให้เกิดการอักเสบ การอักเสบเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักของความชรา เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหานี้ ควรเลือกบริโภคเนื้อที่ปรุงสุกแบบไม่ไหม้เกรียม

    2. น้ำตาลทรายขัดขาว

    น้ำตาลทรายขัดขาวทำให้ระดับอินซูลินและน้ำตาลในเลือดเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งเป็นตัวการสำคัญที่กระตุ้นให้เกิดการอักเสบ นอกจากนี้ ยังเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคเบาหวานประเภทที่ 2 รวมถึงเพิ่มโอกาสในการเกิดโรคอัลไซเมอร์ ดังนั้น ควรลดปริมาณการบริโภคน้ำตาลให้น้อยลง

    3. อาหารทอด

    อาหารทอดมักมีคาร์โบไฮเดรตสูง ซึ่งสามารถกระตุ้นการหลั่งอินซูลินและทำให้เกิดการอักเสบได้ นอกจากนี้ อาหารทอดมักใช้น้ำมันพืชที่ไม่ดีต่อสุขภาพ ซึ่งทำให้เกิดการอักเสบในร่างกาย แนะนำให้ใช้วิธีทอดแบบไร้น้ำมัน หรือใช้น้ำมันมะกอกแทน ซึ่งเป็นทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพและช่วยให้ผิวดูเปล่งปลั่งขึ้น

    อาหารที่ช่วยชะลอวัย ควรรับประทานอะไรดี?

    1. ผักวอเตอร์เครส (Watercress) หรือสลัดน้ำ

    ผักวอเตอร์เครสมีน้ำเป็นส่วนประกอบถึง 95% และให้วิตามินซีสูงถึง 98% ของปริมาณที่แนะนำต่อวัน การรับประทานอาหารที่มีน้ำและวิตามินซีสูง จะช่วยเพิ่มการผลิตคอลลาเจน ทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์ขึ้น

    2. ปลาไขมันสูง (Fatty Fish)

    กรดไขมันโอเมก้า-3 มีความสำคัญต่อสุขภาพผิว หากต้องการมีผิวเปล่งปลั่ง ควรรับประทานปลาไขมันสูง เช่น ปลาแซลมอน ปลาทูน่า และปลาซาร์ดีน กรดไขมันเหล่านี้ช่วยเสริมสร้างเยื่อหุ้มเซลล์ ลดความแห้งกร้าน และช่วยให้ผิวดูสุขภาพดีขึ้น

    นอกจากนี้ หนังปลาเป็นแหล่งคอลลาเจนชั้นดีที่ไม่ควรมองข้าม

    3. หอยนางรม

    หอยนางรมอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งช่วยปกป้องผิวจากความเสียหายของอนุมูลอิสระและรังสี UV

    หอยนางรมเพียง 1 ตัว สามารถให้ปริมาณทองแดง (copper) ได้ถึง 0.4 มิลลิกรัม ซึ่งเป็นแร่ธาตุสำคัญที่ช่วยในการสังเคราะห์คอลลาเจน

    4. อะโวคาโด

    อะโวคาโดถือเป็น ซูเปอร์ฟู้ดสำหรับผิวพรรณ โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ต้องการดูแลผิวให้ดูอ่อนเยาว์

    อะโวคาโดอุดมไปด้วยวิตามินอีและไขมันดี ซึ่งช่วยปกป้องผิวจากริ้วรอยก่อนวัยและความเสียหายจากแสงแดด นอกจากนี้ ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวยังช่วยให้รู้สึกอิ่มนานขึ้น จึงช่วยควบคุมน้ำหนักได้อีกด้วย

    5. มะเขือเทศ

    มะเขือเทศเป็นหนึ่งในอาหารที่สามารถใช้ปรุงอาหารได้หลากหลาย มีเบต้าแคโรทีนและวิตามินซีสูง ซึ่งเป็นสารอาหารที่ดีต่อผิว

    มะเขือเทศยังมี ไลโคปีน (Lycopene) ซึ่งช่วยปกป้องผิวจากรังสี UV และช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนให้มากขึ้น

    6. ผักโขม (Spinach)

    ผักโขมอุดมไปด้วยสารอาหารที่จำเป็นต่อสุขภาพผิว ผม และเล็บ มีแร่ธาตุสำคัญ เช่น แคลเซียม โพแทสเซียม แมกนีเซียม ธาตุเหล็ก และวิตามิน A, C, E, K, B6 และโฟเลต ซึ่งช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของเซลล์ผิว